ย้อนรอยประวัติศาสตร์ยุทธการร่มเกล้า พ.ศ. 2531 ที่ประเทศเทศไทยโดนรุมกินโต๊ะ
ที่มา YouTube เปิดข้อมูลลับ"ศึกร่มเกล้า"สมัยป๋าเปรม | เต็มข่าวค่ำ | 28 พ.ค.62 - YouTube
การที่ชนชาติไหนหรือคนในสังคมใดจะพัฒนาก้าวหน้าไปได้ ล้วนแล้วแต่ต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เราเข้าใจผิดกันมาอย่างยาวนาน อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่หลายครั้งที่เรื่องราว ณ เวลานั้นถูกตัดสินไปแล้วว่าเป็นเรื่องที่ผิด ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น อย่างเช่นศ฿ก
ศึกประวัติศาสตร์ยุทธการร่มเกล้า พ.ศ. 2531 ระหว่างไทยกับลาว เริ่มต้นมาจากข้อพิพาทในการกำหนดเส้นแบ่งดินแดนระหว่างกัน ส่งผลทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารพรานไทยและลาวหลายต่อหลายครั้งตั้ง ชนวนเหตุเกิดขึ้นมาในช่าวงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2530 ที่ทหารลาวได้เข้าทำลายรถแทรกเตอร์บริษัท อุตรดิตถ์ตรมอเตอร์เวิร์คและรถจี๊ปของบริษัทรุ่งตระการทำไม้ ของเอกชนไทย ทำให้คนงานเสียชีวิตหนึ่งราย ซึ่งทางลาวอ้างว่าอยู่ในเขตตาแสงของแขวงไชยะบุรี และยังระบุว่าบ้านร่มเกล้าอยู่เข้าลึกไปในเขตลาว 2 กิโลเมตร
ที่มา ศิลปวัฒนธรรม ต่างมุมมองของไทย-ลาวบน "สมรภูมิร่มเกล้า" สงครามที่ไทยใช้งบกว่า 3,000 ล้านบาท
ในเช้ามืดวันหนึ่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2530 บ้านร่มเกล้าได้ถูกระดมยิงด้วยปืนใหญ่จากฝั่งไทย เพื่อเข้ายึดคืนพื้นที่ที่ลาวอ้างว่าเป็นของตนเอง การต่อสู้ดำเนินไปจนถึงช่วงปลายปี ตอนนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่ที่มีการรายงานรายวัน ที่เป็นศึกใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของไทยและลาว และในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกันนั้น กองทัพไทยได้ตัดสินใจเปิดฉากยุทธการสอยดาว01 ส่งทหารราบและทหารม้าจากกองทัพที่ 3 เข้าเสริมกำลังทหารพรานและทหารที่รบอยู่ในช่วงเวลานั้น
ใช้เครื่องบินรบ F5 ที่ทันสมัยในขณะนั้นในการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ เป้าหมายคือการนำดินแดนที่เรียกว่าเนิน 1428 เนิน 1370 และเนิน 1140 กลับคืนมา ดูแล้วว่าคงจะยึดคืนมาได้ไม่ยาก แต่กลายเป็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นเลย จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถเข้าไปยึดได้
ที่มา https://52dcab.org/เครื่องบินรบไทย/
ใช้ทั้งกองกำลังที่รบแบบกองโจรของทหารพรานนำร่อง แล้วตามมาด้วยทหารที่เป็นกำลังหลักเข้าไปเสริม แต่ยังเกิดความรุนแรงและนองเลือดมากขึ้น
ไทยเองก็ได้มีการโจมดีทางอากาศอย่างต่อเนื่องเช่นกันตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2530 โดยฝูงบิน F5 จากฐานบินนครสวรรค์และอุดรธานี และได้เพิ่มความถี่และความรุนแรงในการโจมตีมากขึ้นในช่วงต้นปี พ.ศ. 2531 แรงระเบิดเรียกได้ว่าสามาถทำลายล้างทหารได้ทั้งกองพัน
การที่ทหารลาวสามารถด้านทานการบุกจากไทยได้เป็นอย่างดี นั่นมาจากการรุกคืบของกองกำลังจากกองทัพเวียดนามที่เป็นกองกำลังผสมจากกัมพูชา ที่เข้ามาร่วมรบกับกองทัพลาวในครั้งนี้
แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่ไทยต้องเผชิญกับกองกำลังของ 3 ชาติ เนื่องจากไม่ต้องให้คนไทยเสียขวัญและกำลังใจ ทั้งยังไม่ต้องการให้ปัญหาขยายตัวลุกลามให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง รัฐบาลและกองกำลังทหารในขณะนั้นต้องกัดฟันอดทนอดกั้น ทำให้คนไทยเข้าใจผิดว่าปัญหาการรบครั้งนี้เป็นการรบระหว่าง 2 ชาติเท่านั้น
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ นายกรัฐมนตรีในดวงใจในความทรงจำ : พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ในระหว่างนี้รัฐบาลไทยยังได้แก้ปัญหาในทางลับ โดยให้พล. อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เข้าไปเจรจาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนให้ช่วยเหลือ (ในขณะนั้นกระแสการต่อด้านคอมมิวนิสต์ยังรุนแรงอยู่) จนจีนตกลงยอมส่งอาวุธเข้ามาช่วยเหลือไทย
แล้วการประกาศหยุดยิงก็ได้ยุติลงจากการตัดสินใจของ พล.อ.สีสวาท ผู้นำของกองทัพลาวในขณะนั้น เพราะว่ากองกำลังผสมได้พิจารณาจากกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงออกไปจากไทย เป็นกระสุนที่มาจากประเทศจีน ทำให้เห็นว่าจีนคือประเทศที่อยู่เบื้องหลังการช่วยไทยรบในครั้งนี้ ส่งผลให้การรุกล้ำแดนไทยจึงเป็นไปไม่ได้ จึงมีการเจรจาสงบศึกในเวลาต่อมา ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการรบในครั้งนี้
ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ จากใจ "พล.อ.ชวลิต" ถึง "พล.อ.เปรม" - มติชนสุดสัปดาห์
ตอนนั้น “ยุคใหม่ฯ” ก็เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นปลายๆแล้ว ได้แต่สงสัยว่ายุทธภูมิการรบในพื้นที่เล็กๆ กับประเทศที่เล็กกว่าเราตั้งหลายเท่ามีทั้งประชากรน้อยกว่าเกินสิบเท่า รวมถึงกองกำลังทหารก็เล็กกว่ามาก อาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่าแค่ใช้กำลังกองร้อยเดียวก็สามารถจัดการได้ไม่ยาก
แต่จนแล้วจนรอดไทยเราก็ไม่สามารถเอาชนะได้ และ “ยุคใหม่ฯ” เองก็เคยปรามาสว่าแค่ลาวยังชนะไม่ได้แล้วทหารไทยจะไปรบชนะใครได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เรื่องที่คิดไว้ผิดถนัด เพราะมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย และต้องขอคารวะต่อความกล้าหาญของทหารไทย รวมถึงขอบคุณความช่วยเหลือในทางลับหลายๆครั้งจากประเทศจีนด้วย
ที่มา ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง
กลุ่มคนที่ดูว่าถูกดูหมิ่นดูแคลนในช่วงเวลานั้น ประเทศที่เราดูว่าเรารัดเอาเปรียบเรา กลายเป็นว่าเรื่องราวไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย การตัดสินผู้อื่นจึงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ และการรับข้อมูลของเราหลายครั้งก็มาไม่หมดด้วย ยิ่งทำให้เราต้องลดการตัดสินผู้อื่นลงให้มาก เพราะโลกเราประเทศไทยของเราจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ที่มา Twitter สาระอัปเดต on Twitter: "การตัดสินที่แย่ที่สุดคือ การตัดสินคนอื่น ด้วยความรู้สึกของตัวเอง โดยที่ยังไม่รู้จักเขา"ดีพอ" http://t.co/x3IdfZZaeX"
อ้างอิง
Tiktok: kritsanachuaiprad36 ศึกบ้านร่มเกล้า สมรภูมิที่เราโดนรุม 3 ต่อ 1
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
