1 ก.ย. 2021 เวลา 05:26 • ประวัติศาสตร์
ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง !
.
กระสุนกว่าหลายร้อยนัดถูกสาดเข้าใส่ทุกคนในตระกูลโรมานอฟอย่างโหดเหี้ยม เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่วชั้นใต้ดิน ในบ้านของพวกเขา ก่อนที่เสียงเหล่านั้นจะถูกปิดลงด้วยดาบปลายปืนที่บรรจงแทงใส่ทั้งเจ้าหญิง และเจ้าชายที่กำลังนอนหายใจรวยรินอย่างไม่ปราณี เหลือไว้แต่ความเงียบสงบที่นองไปด้วยเลือดสด ๆ ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยอง....
.
#จุดเริ่มต้นของจุดจบราชวงศ์โรมานอฟ
ราชวงศ์โรมานอฟ ได้เริ่มปกครองรัสเซีย มาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1613-1917 รวมเป็นระยะเวลากว่า 304 ปี โดยกษัตริย์พระองค์แรก คือ พระเจ้าซาร์มิฮาอิลที่ 1
.
และกษัตริย์องค์สุดท้าย คือ ซาร์นิโคลัสที่ 2 ผู้ที่ไม่ได้รับความนิยมชมชอบจาประชาชนส่วนใหญ่ เนื่องจากเขาถูกมองว่าอ่อนแอ มีจิตใจโลเล และตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ ทำให้ต้องเช่ือการตัดสินใจของคนอื่นอยู่เสมอ โดยเขามักจะเลือกคนที่มีความรู้น้อยกว่ามาเป็นที่ปรึกษา เนื่องจากกลัวขุนนางที่ฉลาดกว่าจะมาหักหลัง และแย่งอำนาจจากเขาไป
.
จนกระทั่งเขาได้พบกับ รัสปูติน นักบวชผู้โด่งดัง ที่ได้ถูกนำตัวมาเข้าเฝ้า
เพียงพบกันแค่ครั้งเดียวซาร์นิโคลัสที่ 2 และครอบครัวของเขาก็ศรัทธาในตัวของ รัสปูติน เป็นอย่างมาก จนทำให้เขากลายเป็นผู้ครอบงำราชวงศ์โรมานอฟไปในที่สุด
.
โดยที่ ซาร์นิโคลัสที่ 2 ไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมราชวงศ์โรมานอฟ.....
.
#กษัตริย์ผู้ร่ำรวยแต่ประชาชนกลับยากไร้
เมื่อเลือกคนทำงานไม่เป็นมาบริหารประเทศ เศรษฐกิจของรัสเซียจึงเริ่มถดถอย ประชนมากมายต่างหิวโหย ขณะที่กษัตริย์ของพวกเขากลับใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเสมือนอยู่ในโลกคู่ขนาน ทั้งที่อยู่แผ่นดินเดียวกัน....
.
แถมยังพาทหารไปรบแพ้ในสงคราม รัสเซีย-ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1904 จนทำให้ชาวรัสเซียอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัยก่อนชาวยุโรปมักจะมองคนเอเชียด้อยกว่าในทุก ๆ เรื่อง แต่กลับแพ้เสียเอง อีกทั้งการทำสงครามแต่ละครั้งต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล การรบแพ้ครั้งนี้จึงยิ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศแย่ลงกว่าเดิม แต่เขาก็ยังไม่คิดจะแก้ไขปัญหานี้แต่อย่างใด
.
#จุดไฟความแค้นเพราะใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างไม่พอใจ และเริ่มเดินขบวนประท้วง ในปี ค.ศ.1905 ซาร์นิโคลัสที่ 2 จึงใช้กำลังทหารจำนวนมากเข้ามาสลายการชุมนุมด้วยวิธีที่รุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าหลายพันคน ! จนกลายเป็นไฟความแค้นที่รอวันปะทุออกมา
.
#การตัดสินใจเองครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
“ฉันจะทำให้ดูว่ากษัตริย์รัสเซียไม่ได้อ่อนแอ และกองทัพรัสเซียก็ไม่ได้อ่อน !” แม้ครั้งที่แล้วจะรบแพ้ แต่ ซาร์นิโคลัสที่ 2 ก็ยังไม่ถอดใจ และขอแก้มือใหม่ด้วยการนำกองกำลังทหารรัสเซียเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1906 แม้ประชาชน และคณะรัฐบาล รวมถึงรัสปูติน จะไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ไม่ยอมฟังและเดินหน้าเข้าสู่สงครามอย่างเต็มตัว (แปลก ปกติฟังแต่คนอื่น แต่ครั้งนี้เชื่อตัวเอง)
.
เขาจึงต้องไปประจำการที่ทัพหน้า ราชวังและเมืองหลวงจึงถูกปล่อยให้ ซารินา ผู้เป็นภรรยาดูแล โดยมีรัสปูตินอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเขาก็ได้ทำการบริหารตามใจตัวเองโดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ด้วยการแต่งตั้ง ถอดถอน ข้าราชการต่าง ๆ จนทำให้ชนชั้นสูง และเหล่าทหารต่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายก็รวมหัวกันฆ่า รัสปูติน !
.
#ทหารผู้น้อยยอมหันปืนเข้าหานายเพื่อปกป้องประชาชน
สุดท้าย ซาร์นิโคลัสที่ 2 ก็รบแพ้อีกครั้ง ทำให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตไปกว่า 1.7 ล้านคน ซึ่งถ้ารวมกับการรบที่พ่ายแพ้ไปเมื่อครั้งที่แล้ว เท่ากับว่าภายในระยะเพียงเวลา 2 ปี เขานำชีวิตทหารรัสเซียไปทิ้งกว่า 2 ล้านชีวิต !
.
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนทั่วประเทศต่างไม่พอใจ เศรษฐกิจที่เคยแย่อยู่แล้วก็แย่ลงไปอีก จนเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่มีประชาชนมากกว่า 3 แสนคนมาร่วมเดินขบวน ถึงอย่างนั้น ซาร์นิโคลัสที่ 2 ก็ยังไม่รู้สึกอะไร และสั่งให้ทหารไปสลายการชุมนุมเหมือนครั้งก่อน ๆ
.
แต่เมื่อคำสั่งลงไปถึงทหารชั้นผู้น้อย พวกเขากลับปฏิเสธ และหันปืนเข้าหานายตัวเองเพื่อปกป้องประชาชน ทำให้กลุ่มปฏิวัติสามารถยึดอำนาจของ ซาร์นิโคลัสที่ 2 ได้สำเร็จ และได้ก่อตั้งเป็นรัฐบาลเฉพาะการแทน
.
#คนรัสเซียไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์อีกต่อไป
หลังจาก ซาร์นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ เขาและครอบครัวก็ถูกควบคุมตัวไว้ในวัง ก่อนจะถูกย้ายไปยังเมืองโทบอลสค์ ในไซบีเรีย
.
และด้วยการปกครองที่ไร้ทิศทาง ทำให้รัฐบาลชั่วคราวถูกยึดอำนาจซ้ำอีกที ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1917 โดยกลุ่ม บอลเชวิค นำทีมโดย วลาดิเมียร์ เลนิน พร้อมเปลี่ยนรัสเซียให้เป็นสหภาพโซเวียต และตั้งเป็นรัฐคอมมิวนิสต์แห่งแรกของโลกขึ้นมา ในปี ค.ศ.1918 ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความโกรธเกลียดราชวงศ์มาก เมื่ออำนาจอยู่ในมือ มีหรือที่จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดไป...
.
#จุดจบอันน่าเศร้าของกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งรัสเซีย
ในคืนของวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ.1918 ราชวงศ์โรมานอฟทั้งหมดถูกปลุกขึ้นมา กลางดึกพร้อมบอกให้แต่งตัว และลงไปยังชั้นใต้ดิน ของบ้านอิปาติเยฟ “พวกคุณทั้งหมดกำลังจะถูกประหารชีวิต !” เสียงอันเยือกเย็นของทหารบอลเชวิคพูดขึ้น “อะไรนะ !?” ซาร์นิโคลัสที่ 2 กล่าว ยังไม่ขาดคำกระสุนก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างจังทำให้เสียชีวิตในทันที ก่อนจะตามมาด้วยฉากสังหารโหดที่เล่าไว้ด้านบน
.
ปิดตำนานกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งรัสเซียไปตลอดกาล.....
.
โศกนาฏกรรมครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ว่ายังไงสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศ และไม่ควรถูกมองข้ามก็ยังเป็นเสียงของประชาชน ไม่ใช่อำนาจเด็ดขาด ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่งเพียงอย่างเดียว
#ราชวงศ์โรมานอฟ
#Russia
#LuxuryProjects
โฆษณา