1 ก.ย. 2021 เวลา 14:31 • กีฬา
จอดรถบัสคอลัมน์: พรีเมียร์ลีกรีวิว สัปดาห์ที่ 3
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในสัปดาห์ที่ 3 เป็นอีกสัปดาห์ที่มีการพบกันของทีมบิ๊ก 6 ถึง 2 คู่ โดยเราคัดไฮไลท์ที่น่าสนใจมาให้ดังนี้
- - -
1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 อาร์เซน่อล
เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างปืนใหญ่อาร์เซนอลที่บุกไปเยือนถิ่นของแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยอาร์เซน่อลออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่ แพ้ในลีก 2 นัดแรกและยังทำประตูไม่ได้ถึง แต่กลางสัปดาห์มีเกมที่พวกเขาได้เรียกความมั่นใจด้วยการถล่มเวสบรอมวิชไป 6-0 แต่เกมนี้เป็นการบุกไปเยือนทีมแชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังมั่นใจ หลังจากเอาชนะนอริช ซิตี้ ไปได้ 5-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน
เกมนี้เปิดมาแค่ไม่กี่นาทีแมนซิตี้ก็ได้ประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของอิลคาย กุนโดกัน ซึ่งเราจะเห็นว่ามันช่างน่าแปลกใจกับเกมรับของอาร์เซนอลพี่ปล่อยให้กุนโดกันที่มีส่วนสูงแค่ 170 กว่าๆ ขึ้นโมงทำประตูเฉยเลย และหลังจากนั้นไม่นาน แมนซิตี้ก็ได้ประตูที่ 2 จากความผิดพลาดส่วนบุคคลอีกครั้งบอล บอลแฉลบไปแฉลบมาหลุดมาถึงเฟร์ราร ตอร์เรส เข้าชาร์จเข้าไป
หลังจากนั้นก็อาร์เซนอลมาเหลือผู้เล่น 10 คนจากใบแดงของกรานิต ชาก้า และจบด้วยการที่แมนซิตี้ครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว โดยมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 81%-19% จบเกมแมนเชสเตอร์ซิตี้เอาชนะไปได้ 5-0 ทำให้อาร์เซนอลแพ้ 3 นัดรวดและยังทำประตูไม่ได้ โดยเสียไปทั้งหมด 9 ประตู จมบ๊วยของตารางต่อไป
2. ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี
เป็นการพบกันของสองทีมที่ชนะรวดใน 2 นัดแรก ยิงได้ 5 ประตู และยังไม่เสียประตูเหมือนกัน และเป็นเกมที่หลายๆ คนเฝ้าจับตา เนื่องจากเป็นบททดสอบการกลับมาเล่นพรีเมียร์ ลีก อีกครั้งของโรเมลู ลูกากู ในการต้องดวลกับ 1 ในคู่กองหลังที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกอย่างโจเอล มาติป และเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในส่วนของลิเวอร์พูลมีเซอร์ไพร์สด้วยการลงสนามเป็นตัวจริงของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เด็กหนุ่มวัย 18
เกมนี้เป็นการสู้กัน และบุกแลกหมัดกันอย่างสนุก โดยเชลซีได้ประตูขึ้นนำก่อนจากลูกโหม่งสุดสวยของไค ฮาแวร์ตส ต้องยอมรับว่าลูกนี้เป็นลูกโหม่งที่ยากมากๆ ขึ้นที่เสาแรกแล้วโหม่งเสยย้อยๆ ไปที่เสาสอง ทำให้อลีสซง เบ็คเกอร์ หมดสิทธิ์ที่จะรับได้ หลังจากนั้นลิเวอร์พูลทำการโหมบุกต่อจนมาได้จุดโทษจากลูกขลุกขลิกหน้าประตูและบอลไปโดนแขนของรีซ เจมส์ สิ่งนี้ยังเป็นข้อถกเถียงในโลกโซเชียลกันต่อ แต่เมื่อดูจากภาพแล้ว เหมือนกับรีซ เจมส์ มีการขยับแขนเพื่อช่วยในการดันลูกบอลออกมา ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษและใบแดงของรีซ เจมส์ จากนั้นลิเวอร์พูลก็ได้ประตูตีเสมอจากจุดโทษของโมฮาเหม็ด ซาลาห์
ในครึ่งหลังเมื่อเชลซีเหลือ 10 คน โทมัส ทูเคิ่ล จึงปรับแผนมาเล่นเกมรับเต็มสูบ ในส่วนของลิเวอร์พูลพยายามเจาะเข้าทำประตู แต่ก็ยังเจาะไม่ได้จึงลองเข้าทำด้วยยิงไกลหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของเอดูอาร์ เมนดี้ จบเกมแบ่งแต้มกันไปอย่างสมานฉันท์
3. วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่งราฟาเอล วาราน กับเจดอน ซานโช่ ลงสนามเป็นตัวจริง แต่ยังไม่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังอยู่ในกระบวนการตรวจร่างกายและเรื่องของเอกสารการย้ายทีม ในส่วนของวูล์ฟ นำมาโดยอดาม่า ตราโอเร่ กับฟรานซิสโก้ ตรินเกา ปีกดาวรุ่งจากบาร์เซโลน่า
เกมนี้แมนยูมีปัญหาในแดนกลาง เนื่องจากพอขาดสก็อต แมคโทมิเนย์ไปแล้ว เฟร็ด ก็กลายเป็นคนละคนทันที การจับบอล การคุมแดนกลางแทบจะทำไม่ได้เลย โดยวูล์ฟได้โอกาสยิงหลายต่อหลายครั้ง แต่ดาวิด เด เกอา โชว์เซฟปาฏิหาริย์หลายต่อครั้ง
ช่วงท้ายเกมเป็นเมสัน กรีนวู้ด พาบอลเข้าไปซัดด้วยเท้าขวา เป็นประตูชัยพาแมนยูบุกมาเก็บ 3 แต้มออกไปได้สำเร็จ
- - -
ติดตามในช่องทางอื่นได้ที่
โฆษณา