2 ก.ย. 2021 เวลา 04:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Makro พิสูจน์ฝีมือ รับบทพี่เลี้ยง Lotus's
พร้อมรับยุทธ์ศาสตร์ปักธงค้าปลีกไทยในเวทีโลก
ข่าวที่สร้างความสนใจต่อวงการค้าปลีก คงไม่พ้นการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของกลุ่มซีพี (เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา) ด้วยการโยกกิจการกลุ่ม Lotus’s ในประเทศไทยและมาเลเซีย มูลค่ารวม 217,949 ล้านบาท ไปอยู่ภายใต้ “แม็คโคร” นับเป็นการความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต่างมองว่าจะส่งผลมุมบวกกับหุ้นกลุ่มซีพี ทั้ง CPALL CPF และ MAKRO มีเป้าหมายที่สำคัญคือ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจแม็คโคร และส่งเสริมกลยุทธ์ระยะยาวก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในระดับภูมิภาค จนถึงสู่เวทีโลก ตามยุทธศาสตร์ของ "ศุภชัย เจียรวนนท์" ผู้บริหารใหญ่แห่งเครือ CP
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการโอนกิจการ MAKRO และ Lotus’s
-ส่งเสริมกลยุทธ์และความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในระยะยาว จากการได้รับประโยชน์จากการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ MAKRO และ CPALL เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค อันดับ 1 ในระดับภูมิภาคเอเชีย (ไม่นับรวมญี่ปุ่น)
-รับรู้ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการควบรวมของ MAKRO และ CPRD ทั้งจากการผสานจุดเด่นในแง่มุมต่าง ๆ ของ MAKRO และกลุ่มโลตัสส์ อาทิ ความครอบคลุมของรูปแบบร้านค้า และ การขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาค รวมถึงรับรู้ผลประโยชน์ทางอ้อมจากการลงทุนของบริษัทฯ ใน CPALL ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MAKRO
-เพิ่มโอกาสการขายสินค้าของบริษัทฯ ในร้านค้าของ MAKRO และกลุ่มโลตัสส์ จากกลยุทธ์ของทั้งสอง บริษัทที่มุ่งเน้นที่จะจำหน่ายอาหารสดที่มีคุณภาพในร้านค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
-เพิ่มสภาพคล่องของเงินลงทุนของบริษัทฯ จากเงินลงทุนในหุ้นของ CPRD (ผ่านการถือหุ้นใน CPRH) ที่ไม่มีสภาพคล่อง และไม่ได้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มาเป็นเงิน ลงทุนในหุ้นของ MAKRO ที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีสภาพคล่องในการซื้อขาย
-ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันกับบริษัทอีคอมเมิร์ซ หรือบริษัทเทคโนโลยีระดับสากลต่าง ๆ ที่เข้ามาแข่งขันใน ประเทศไทยได้ โดยสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ อย่างยิ่งพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งในระดับประเทศและในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ในทุกภาคส่วน โดยการปรับโครงสร้างภายในและการปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ทั้งหมดข้างต้น
เครือซีพีปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีก เดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP)
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) และประธานกรรมการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแผนขยายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งของเครือซีพีในภูมิภาค พร้อมต่อยอดธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อนำบริษัทในกลุ่มค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบการในเวทีระดับโลก
ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการยอมรับในวงการค้าปลีกระดับสากล จากการที่ธุรกิจค้าปลีกของไทยสามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรม จากสมาคมค้าปลีกที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นเจ้าของกิจการค้าปลีกระดับแลนด์มาร์คในหลายประเทศ อย่างไรก็ดีอาจจะยังไม่สามารถเทียบกับยักษ์ใหญ่ของวงการค้าปลีกระดับโลกได้ ขนาดของธุรกิจ (Scale) ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จสำคัญของธุรกิจค้าปลีกระดับโลก นั่นคือ เหตุผลที่ในโลกปัจจุบัน บริษัทค้าปลีกระดับโลกจะเป็นบริษัทขนาดยักษ์ใหญ่ ยกตัวอย่าง ผู้ค้าปลีก 2 รายที่ใหญ่ที่สุดของโลก สามารถสร้างยอดขายของแต่ละรายได้มากกว่าขนาดเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศไทย จึงเป็นความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกของไทยในการไปแข่งขันในระดับโลก
“ธุรกิจค้าปลีกเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยบนเวทีระดับโลก และเป็นธุรกิจที่ประเทศไทยสามารถประสบความสำเร็จบนเวทีโลกได้ นี่คือวิสัยทัศน์ร่วมกันของธุรกิจในกลุ่มค้าปลีกและค้าส่งในเครือซีพี”
การขยายช่องทางค้าปลีกเครือซีพีในตลาดโลกให้มากขึ้น จะช่วยส่งเสริมสินค้าไทย โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร และอาหารสด คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยสานฝันของประเทศไทยในการเป็น “ครัวของโลก” (Kitchen of the World) โดยร้านค้าปลีกค้าส่งของเครือซีพี จะทำหน้าที่เสมือนท่อธุรกิจที่ลำเลียงนำธุรกิจขนาดเล็กๆ จากประเทศไทย ให้เข้าสู่ตลาดใหม่ได้ พร้อมกับนำผลผลิตและสินค้าของไทยไปนำเสนอ สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของเขาเอง ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ (Resilience) ให้กับธุรกิจเครือซีพี
การจัดโครงสร้างใหม่ของธุรกิจค้าปลีกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือซีพีบนเวทีนานาชาติครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ที่เครือซีพีเพิ่งประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระบบเศรษฐกิจโลกยุคหลังวิกฤติโควิดด้วยการสร้างแพลตฟอร์มให้กับบริษัทอื่นๆ จากประเทศไทย และผลิตภัณฑ์ของคนไทย เพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจของพวกเขาให้ได้มากที่สุด
“เราต้องการให้ธุรกิจค้าปลีกเครือซีพีทั่วโลกทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต และ SMEs ไทยนับหมื่นๆ ราย ให้สามารถนำผลผลิตและสินค้าไปขายในต่างประเทศ"
ส่องคนดัง ส่องธุรกิจ สรุปมองว่า การปรับโครงสร้างใหม่ของ Lotus's ครั้งนี้ ถือว่า เป็นการเตรียมความพร้อมสู่โอกาส Go inter และได้พี่เลี้ยงดีๆ จาก Marko มาดูแลและเสริมกำลังให้มากขึ้นอีกด้วย .....
โฆษณา