2 ก.ย. 2021 เวลา 13:18 • การศึกษา
รับมือ 3 อุปสรรค ปัญหา ที่ต้องเจอในเส้นทางโฮมสคูล
ทุกเป้าหมายมีความท้าทาย เรามาดูกันว่า
ในโลกของโฮมสคูล เราต้องเจออะไรบ้าง และรับมืออย่างไร
1. กลัวจะสอนได้ไม่ดีเท่าที่โรงเรียน
การที่เราจะได้ดื่มนมที่ดีต่อร่างกาย ไม่ใช่แค่การดูแลวัว ให้มีน้ำนม
ไม่ใช่แค่การฆ่าเชื้อโรค ไม่ใช่แค่กล่องบรรจุภัณฑ์
หากทุกอย่างสมบูรณ์ เสมือนครูที่จบระดับด็อกเตอร์มาสอน
แต่แก้วน้ำที่มารองนมก่อนที่เราจะกระดกเข้าปาก มันไม่พร้อมหล่ะ
แก้วอาจจะเลอะ รั่ว สกปรก หรือ คว่ำอยู่
เปรียบเหมือนสภาวะความพร้อมของเด็ก
ตรงกันข้าม หากสมองของเด็กๆมีความพร้อมในการเรียนรู้ เเม้เป็นเนื้อหาที่เล็กน้อย
แต่ถ้าแก้วพร้อมรับ อย่างไรเด็กๆได้แน่นอนค่ะ
และตัวพ่อแม่เองนั้น จริงๆมีความรู้ที่จะส่งต่อให้ลูกอย่างแน่นอน
ส่งต่อในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญก่อนค่ะ
ต่อด้วยสิ่งที่เราพัฒนาและเรียนรู้ไปด้วยกันได้
และอะไรที่เราไม่เชี่ยวชาญ หาผู้เชี่ยวชาญมาสอนค่ะ
2. กลัวต้องเจอกับคำถาม
สารพันคำถาม จากความห่วงใย
- ใบรับรองมาจากไหน
- ไม่มีเพื่อนรึเปล่า
- ความรู้จะเท่าโรงเรียนหรือไม่
- ใช้เงินเยอะมั้ย
- ไม่มีเวลา ทำอย่างไร
อันนี้มีสองทาง ตอบไปเลยตามที่เรารู้
หรือ บอกช่องทางให้เขาไปหาคำตอบเอง
ตัวอย่างคำตอบง่ายๆที่ครูป้อมใช้
มาจากการค่อยๆพัฒนาคำตอบ
คือเราไม่มีเวลาอธิบายกันมากมาย
ก็ตอบให้เค้าสบายใจเท่านั้น
นอกจากว่า เขาดูสนใจอยากทำบ้าง อันนี้ให้เวลาค่ะ คุยกันได้ยาวขึ้น
คือบางคนแค่ถามจริงๆ
และบางคนแค่อยาก แซะ
ตอบแบบนี้ค่ะ
- ใบรับรองจากกระทรวงศึกษาเหมือนกันค่ะ
เพียงแต่จากโรงเรียนทั่วๆไป เป็นโรงเรียนทางเลือก เหมือนสมัยก่อนที่เจ้าขุน มูลนาย ก็ให้ครูมาสอนที่บ้าน หรือส่งลูกไปเรียนบ้านอาจารย์
ประหยัดหน่อยก็ไปเรียนกับพระที่วัด
หรือใครอยู่ในวังก็เรียนในวัง อยู่ที่เราเลือกขึ้นทะเบียนกับใคร หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เวปไซต์ บ้านเรียนไทย ในเฟซบุ๊คก็มีหลายกลุ่มเลยค่ะ
ถ้าเราชื่นชมตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง
ก็สอนเอง สบายมากค่ะ
ของครูป้อมเองก็ ตามอ่านในบล็อกดิต
เพจบ้านเรียนพลังบวก
และยูทูป บ้านเรียนพลังบวกนะคะ ขายของไปอี๊ก
- เพื่อนมีหลายแบบค่ะ เพื่อนที่ได้จากสถาบันกวดวิชา ที่ทำกิจกรรมพิเศษ เพื่อนตามค่ายกิจกรรมที่สนใจ เพื่อนเล่นดนตรี กีฬา ดีซะอีกค่ะ
มีเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน คุยกันง่ายด้วยค่ะ
ที่สำคัญคือ ความเป็นเพื่อนในสมาชิกครอบครัว
อันนี้เป็นอะไรที่เด็กที่ไปโรงเรียนบางทีก็มีน้อยกว่าเด็กโฮมสคูลด้วยซ้ำนะคะ ก่อนไปถึงเพื่อน
เราเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวก่อนดีกว่าค่ะ
- ความรู้เท่ากับไปโรงเรียนหรือไม่
แม้แต่เปรียบเทียบเด็กที่เรียนในห้องด้วยกัน
ยังเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยค่ะ
ขึ้นอยู่กับความถนัด ความสนใจของเด็กๆด้วยค่ะ
เด็กจากโรงเรียนดังๆ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน ก็ยังเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย แต่ละที่ก็มุ่งเน้นแต่ละด้านต่างกัน
สำคัญที่สุด คือเป้าหมายการเรียนของเด็กแต่ละคนและวิถีครอบครัวต่างหาก
บางบ้านเน้นเกษตร บางบ้านการเมือง ก็ว่ากันไปค่า
- ทำโฮมสคูล ค่าเทอมไม่ต้องหาให้เหนื่อย เครียด แถมได้เงินอุดหนุนมาอีกนะคะ ปีละ 8,000 บาท
มันก็ดูไม่เยอะมากแต่ก็พอซื้อหนังสือ สื่อมาให้ลูกใช้ได้ทั้งปีนะคะ มีคอมพิวเตอร์ซักเครื่อง ปรินซ์เตอร์ เครื่องเขียน เท่านี้ก็เริ่มได้แล้วค่ะ
หรือถ้ายังไม่มีงบประมาณณขนาดนั้น เริ่มจากเครื่องใช้ในบ้านก่อนเลยค่ะ ง่ายและประหยัดสุดๆ
- ส่วนเรื่องของเวลา ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ไม่มีใครบอกว่าเด็กๆต้องเรียน 8.30 - 15.00 น. นะคะ
สมองเด็กๆ เติบโตและเรียนรู้ตลอดเวลาค่ะ
เอาเวลาที่คนสอนสะดวกได้เลย พ่อเลิกงานห้าโมงเย็น เรียนตอน หนึ่งทุ่มถึงสองทุ่มก็ได้ รึจะเรียนแค่เสาร์-อาทิตย์ รึจะให้ลูกเรียนออนไลน์ช่วงกลางวัน แล้วช่วงเย็นมาทำกิจกรรมพร้อมพ่อแม่ก็ได้
บางคนอยู่บ้านทั้งวันแต่มีภารกิจต้องค้าขาย ต้องงานบ้าน ก็จัดเวลาที่สะดวกได้เลยค่ะ
3. การให้ความร่วมมือกันในครอบครัว
เริ่มตั้งแต่ สามี-ภรรยา พ่อตาแม่ยาย-ลูกเขย
พ่อแม่สามี-ลูกสะใภ้ แถมพี่ป้าน้าอา ผู้หวังดีทั้งหลาย
เรื่องการปรับตัวปรับใจอยู่ร่วมกัน
การบริหารความสัมพันธ์ในครอบครัว ปกติ เด็กจะไปหรือไม่ไปโรงเรียน
การเติบโตและถูกเลี้ยงดูมาย่อมมีความแตกต่าง
ความขัดแย้งเล็กน้อยๆ ย่อมมีอยู่แล้ว
ยิ่งมาเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต คือการศึกษา
คนแต่ละเจนเนอเรชั่น ภูมิภาคที่อยู่ ก็มีไอเดียต่างกัน
ต้องดูว่าคนตัดสินใจคิดอย่างไร
อำนาจตัดสินใจอยู่ที่ใคร
ครูป้อมเห็นมาเยอะค่ะ ที่ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง
ก็เพราะคนในครอบครัวไม่สนับสนุนกัน
คุยกันให้จบก่อนตัดสินใจ
ทำสัญญา ลงลายลักษณ์อักษรไว้จะดีมาก
มีอะไรขึ้นระหว่างทาง
เอาสัญญามากางอ่านกันเลยค่ะ🤣🤣
เช่น เข้าโรงเรียนตอน ป.4 หรือ ป. 1 หรือมัธยม
หรือใครมีส่วนในค่าใช้จ่ายกี่เปอร์เซ็นต์คนนั้น
มีอำนาจตัดสินใจ
อะไรก็ว่าไป ต้องชัดเจนแต่แรกกันนะคะ
ตอนครูป้อม สามีก็ไม่เห็นด้วยค่ะ
แต่นายทุนใหญ่เห็นด้วย คือคุณยาย
คุณแม่ของครูป้อมเป็นคนใจกว้าง เปิดรับอะไรใหม่ๆ
และที่โชคดีมากๆคือ คุณยายเชื่อมั่นในความสามารถของครูป้อม
ว่าเลือกที่ดีที่สุดให้หลานได้
พอมีแบ็คดี ก็ลุยได้เลย ไม่มีใครกล้ายุ่ง555
เพราะขึ้นตรงกับมหาอำนาจ แม้ว่าคุณตาไม่เห็นด้วย แต่เสียงก็ตกไปค่ะ🤣🤣
ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับโฮมสคูล
ฝากคำถามไว้ที่คอมเมนต์นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
1
ครูป้อม บ้านเรียนพลังบวก
คุณแม่โฮมสคูลอินเตอร์และ
มาสเตอร์โค้ชด้านความสัมพันธ์กับตัวเอง
มุ่งมั่นสร้างสรรค์งานเขียนและพัฒนาโปรแกรม
การสร้างความเคารพตัวเองที่เเข็งแกร่ง เพื่อ
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สงบและอิสระ
1
โฆษณา