2 ก.ย. 2021 เวลา 09:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
[ ความใคร่+แรงดึงดูด+ความผูกพัน = ความรัก? ]
หากจะให้คำนิยามกับ “ความรัก” ในมุมมองของแต่ละคนคงจะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มีเพลงรัก นิยายรัก หนังรักที่หลากหลายมุมแบบในปัจจุบัน
จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะพรรณนาความรู้สึกทั้งหมดออกมาเป็นคำจำกัดความให้กับความรัก เพราะมันมีทั้งความเศร้า ความสุข ความเป็นห่วง ความหลงไหล ความแค้น หรืออาจเป็นแรงผลักดันให้บางคนมีชีวิตอยู่ต่อและบางคนกลับต้องจบชีวิตไปเพราะสิ่งนี้เช่นเดียวกัน
จะง่ายกว่ามากถ้าเราจะเริ่มอธิบาย “ความรัก” จากสารเคมีที่แปรปรวนภายในร่างกายซึ่งเป็นสารตั้งต้นให้เกิดความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่คุณเจอคนที่ชอบครั้งแรก
หัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาดิ้นเป็นปลาขาดอากาศอยู่ที่พื้น อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้หัวใจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่ปรากฎว่าความรักเป็นเรื่องของสมองที่เป็นตัวการสำคัญ
ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Dr. Helen Fisher จาก Rutgers นิยามว่าความรักสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ ความใคร่ แรงดึงดูด และความผูกพัน
- ความใคร่ (lust) เกิดด้วย Sex hormones เช่น Testosterone, Estrogen
เกิดจากความต้องการทางเพศ พื้นฐานวิวัฒนาการสำหรับสิ่งนี้เกิดจากความต้องการในการสืบพันธุ์ ซึ่งเป็นความต้องการที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดมีร่วมกัน ผ่านการสืบพันธุ์ สิ่งมีชีวิตต้องการถ่ายทอดยีนของตน และด้วยเหตุนี้จึงมีส่วนทำให้สปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตคงอยู่ต่อไป
ไฮโปทาลามัสของสมองมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ โดยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศ เทสโทสเตอโรน และเอสโตรเจนจากอัณฑะและรังไข่ ผลปรากฎว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพิ่มความใคร่ในแทบทุกคน ผลกระทบจะเด่นชัดน้อยกว่ากับเอสโตรเจน แต่ผู้หญิงบางคนรายงานว่ามีแรงจูงใจทางเพศมากกว่าในช่วงเวลาที่ตกไข่ เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงที่สุด
- แรงดึงดูด (attraction) เกิดด้วย Dopamine, Norepinephrine, Serotonin
โดปามีนจะถูกปล่อยออกมาเมื่อเราทำสิ่งที่รู้สึกดีต่อตัวเอง สิ่งเหล่านี้รวมถึงการใช้เวลากับคนที่คุณรักและการมีเพศสัมพันธ์ สารโดปามีนในระดับสูงและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง เช่น นอเรพิเนฟริน จะถูกปล่อยออกมาในระหว่างการดึงดูด สารเคมีเหล่านี้ทำให้รู้สึกเวียนหัว ตื่นตัวและร่าเริง แม้กระทั่งนำไปสู่การกินไม่ได้นอนไม่หลับ
จากการทดลองฮอร์โมนเหล่านี้จะหลั่งออกมามากเมื่อได้เห็นรูปภาพคนที่ชอบ นอกจากนี้แรงดึงดูดดูเหมือนจะทำให้ระดับเซโรโทนินลดลง ที่น่าสนใจคือคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำคือมีเซโรโทนินในระดับต่ำ ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดเดาว่านี่คือสิ่งที่เป็นรากฐานของความหลงใหลซึ่งบ่งบอกถึงระยะเริ่มต้นของความรัก
- ความผูกพัน (Attachment) เกิดด้วย Oxytocin, Vasopressin
หลังจากพูดถึงเกี่ยวกับ Sex ไปมากพอแล้ว ความผูกพันเป็นส่วนของความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง เช่น เพื่อน ครอบครัวหรือสามีภรรยา ฮอร์โมนหลักสองชนิดหลักคือ ออกซิโทซินและวาโซเพรสซิน ซึ่งผลิตโดยไฮโปทาลามัสและปล่อยออกมาในปริมาณมากระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ให้นมลูก และคลอดบุตร
กิจกรรมเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่เจ็บปวดมากไม่จำเป็นต้องสนุกเสมอไป แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความผูกพัน นอกจากนี้ยังทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าอะไรคือความผูกพัน ความใคร่ และความดึงดูด
ดูเหมือนนิยามเหล่านี้จะมองว่า “ความรัก” เป็นสารตั้งต้นของความสุข ความสดใส แต่ขณะเดียวกันความรักมักมาพร้อมกับความหึงหวง พฤติกรรมที่ไม่แน่นอน และความไร้เหตุผล ควบคู่ไปกับอารมณ์และอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี
นอกจากนี้โคเคนก็สามารถส่งสัญญาณโดปามีนได้นานกว่าปกติส่งผลให้มีระดับ “สูง” ชั่วคราว แรงดึงดูดก็เหมือนกับการเสพติดความรัก ดังนั้นจึงมีการโหยหาความรักแบบเดียวกับคนที่ติดสารเสพติดแล้วนั่นเอง
ยิ่งมีความสุขมีความลึกซึ้งในความสัมพันธ์มากก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อต้องจากลาเช่นเดียวกัน จากการศึกษาฮอร์โมนเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนดาบสองคม ตัวอย่างเช่น ออกซิโทซินจะพบมากในกลุ่มชาตินิยม สามารถทำให้เกิดการรบราฆ่าฟันกันตั้งแต่อดีต
ยังคงมีคำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และอย่างที่เราทราบแล้วในตอนนี้ ไม่ใช่แค่ด้านฮอร์โมนของสมการที่ซับซ้อนเท่านั้น ความรักอาจเป็นได้ทั้งสิ่งที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดสำหรับคนๆ หนึ่ง
อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เรารีบตื่นขึ้นในตอนเช้า หรือสิ่งที่ทำให้เราไม่ต้องการที่จะตื่นขึ้นมาอีกเลย ไม่มีใครแน่ใจว่าจะสามารถนิยามคำว่า "ความรัก" ได้ไหมหากใช้กระดาษมากกว่าหนึ่งหมื่นแผ่น
💌 แล้วความรักสำหรับคุณคืออะไรครับ?
โฆษณา