Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Histofun Deluxe
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
2 ก.ย. 2021 เวลา 12:13 • ประวัติศาสตร์
• Spanish Inquisition
เมื่อแรงศรัทธาของศาสนานำพาไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรง
แน่นอนว่าเรื่องของความศรัทธาในลัทธิความเชื่อรวมไปถึงศาสนานั้น นับได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยจรรโลงใจให้มนุษย์กระทำความดี และสรรสร้างสังคมที่มีความสงบสุข
1
แต่ในอีกแง่มุมนึงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แรงศรัทธาที่มีต่อความเชื่อที่มากล้นจนเกินขอบเขต ก็อาจจะนำไปสู่สิ่งที่เลวร้าย และน่าสะพรึงกลัวได้ เฉกเช่นเดียวกับเรื่องที่แอดมินจะมาพูดถึงในบทความนี้
โดยบทความนี้จะเป็นเรื่องราวของ Spanish Inquisition เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสเปน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 จนถึงศตวรรษที่ 19 อันเป็นผลพวงจากแรงศรัทธาอันแรงกล้า (และคลุ้มคลั่ง) ที่มีต่อศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่นำพาให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก
1
แล้วเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
1
ย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ในช่วงเวลานั้น บริเวณของคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian peninsula) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโปรตุเกสและสเปนในปัจจุบัน ได้ถูกยึดครองโดยชาวมุสลิมที่เรียกตัวเองว่า ชาวมัวร์ (Moorish)
การถูกยึดครองโดยชาวมุสลิม จึงทำให้บรรดาอาณาจักรต่าง ๆ ของชาวคริสต์ที่ตั้งอยู่ในไอบีเรียนั้น ก็ได้ทำสงครามเพื่อขับไล่ชาวมุสลิมให้ออกไปจากไอบีเรีย โดยสงครามนี้ก็ถูกเรียกว่า เรกองกิสตา (Reconquista เป็นภาษาสเปนแปลว่า พิชิตคืน) ที่กินระยะเวลายาวนานมากกว่า 800 ปี
1
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 13 ชาวคริสต์ก็สามารถครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรไอบีเรียจากชาวมุสลิมได้ ทำให้ในตอนนั้นเหลือเพียงแค่อาณาจักรกรานาดา (Emirate of Granada) ที่อยู่ตอนใต้สุดของสเปนเท่านั้น ที่ยังคงอยู่ภายใต้การครอบครองของชาวมุสลิม
โดยในปี 1469 สองอาณาจักรชาวคริสต์สำคัญในไอบีเรียซึ่งก็คืออาณาจักรอารากอน (Kingdom of Aragon) และอาณาจักรกัสตียา (Kingdom of Castlie) ก็ได้เกิดการรวมตัวกัน จากการอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าเฟอร์ดินานด์แห่งอารากอน (Ferdinand of Aragon) กับพระราชินีอิซาเบลแห่งกัสตียา (Isabella of Castlie) การอภิเษกสมรสของทั้งสอง และการรวมตัวของสองอาณาจักรนี้ ก็คือจุดเริ่มต้นของสเปน (Kingdom of Spain) นั่นเอง
1
พระราชินีอิซาเบลแห่งกัสตียา (ซ้าย) และพระเจ้าเฟอร์ดินานด์แห่งอารากอน (ขวา)
ท้ายที่สุดในปี 1492 สเปนก็สามารถพิชิตกรานาดาอาณาจักรสุดท้ายของมุสลิมในไอบีเรียได้สำเร็จ สงครามเรกองกิสตาจึงสิ้นสุดลง
ดูเหมือนว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงเพียงเท่านี้ใช่ไหมครับ แต่ทุกคนคิดผิดครับ เพราะช่วงเวลาแห่งกลียุคและโศกนาฎกรรมครั้งร้ายแรง กำลังจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินของสเปน
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่สเปนจะเอาชนะกรานาดา ประมุขทั้งสองของสเปนซึ่งก็คือพระเจ้าเฟอร์ดินานด์และพระราชินีอิซาเบล ทั้งคู่ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีแรงศรัทธาอันแรงกล้าต่อศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นอย่างมาก โดยทั้งคู่มีเจตนารมณ์สำคัญ คือการทำให้สเปนเป็นดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่มีเฉพาะชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเท่านั้น
2
และถ้ามีเฉพาะชาวคริสต์โรมันคาทอลิก นั่นก็หมายความว่า สเปนจะต้องไม่มีคนที่อยู่นอกเหนือจากโรมันคาทอลิกเลย ไม่ว่าจะเป็นชาวมุสลิม ชาวยิว รวมไปถึงชาวคริสต์ที่เป็นนิกายโปรแตสแตนท์
โดยในปี 1478 ภายใต้การสนับสนุนจากพระสันตะปาปาซิกตัสที่ 4 (Pope Sixtus IV) พระเจ้าเฟอร์ดินานด์และพระราชินีอิซาเบลจึงได้จัดตั้งศาลไต่สวนทางศาสนา (Inquisition) ทั่วทั้งสเปน โดยทรงแต่งตั้งนักบวชชาวสเปนนามว่า โทมัส เดอ ทอร์เกมาดา (Tomas de Torquemada) รับหน้าที่รับผิดชอบในศาลศาสนานี้
1
Tomas de Torquemada
ภายใต้คำสั่งของทอร์เกมาดา ศาลไต่สวนศาสนาที่ตั้งอยู่ทั่วสเปนก็ได้เริ่มต้นกวาดล้างกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็น 'พวกนอกศาสนา' หรือมีพฤติกรรมเป็น 'แม่มด'
การเริ่มต้นกวาดล้างพวกนอกศาสนาในสเปน ก็ได้ทำให้ชาวมุสลิมและชาวยิวจำนวนมากต้องลี้ภัยออกจากสเปน บางส่วนก็เลือกที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเพื่อเอาชีวิตรอด โดยชาวมุสลิมที่เปลี่ยนเป็นโรมันคาทอลิกจะถูกเรียกว่า โมริสคอส (Moriscos) ในขณะที่ชาวยิวที่เปลี่ยนมาเป็นโรมันคาทอลิกก็จะถูกเรียกว่า คอนเวอร์ซอส (Conversos)
แน่นอนว่าสำหรับพระเจ้าเฟอร์ดินานด์และพระราชินีอิซาเบล ทั้งคู่ไม่มีวันไว้วางใจในกลุ่มคนที่เป็น Moriscos และ Conversos อย่างเด็ดขาด นำไปสู่การที่กลุ่มคนทั้งสองกลุ่มถูกศาลศาสนาจับกุมตัว และถูกนำไปทรมานก่อนที่จะสังหารทิ้งเป็นจำนวนมาก
1
การนำผู้ที่ถูกกล่าวหานำมาผูกไว้กับกงล้อ หนึ่งในวิธีการที่ใช้ทรมาน
สำหรับวิธีการพิจารณาคดีของศาล Inquisition นั้น จะเป็นระบบแบบกล่าวหา กล่าวคือคุณสามารถที่จะฟ้องร้องใครก็ได้ว่าเป็นพวกนอกศาสนา โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักหรือเคยเห็นมาก่อน แถมไม่จำเป็นต้องมีพยานรู้เห็นด้วย
1
นอกจากนี้คุณยังสามารถอ้างจากความฝันได้ว่า คุณเห็นคน ๆ หนึ่งเป็นพวกนอกศาสนา คุณก็สามารถเอาเรื่องที่คุณ (อ้างว่า) ฝันนี้ ไปใช้สำหรับกล่าวหาเพื่อพิจารณาคดีได้เช่นกัน
1
ด้วยเหตุนี้การพิจารณาคดีของศาล Inquisition จึงถือได้ว่าไม่มีความยุติธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น กระบวนการเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็ไม่มี ชะตากรรมของผู้ที่ถูกกล่าวหาจึงหนีไม่พ้นความตายสถานเดียว
* หนึ่งในวิธีที่ใช้พิสูจน์ว่า คุณเป็นชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกหรือไม่ ก็คือการบังคับให้คุณรับประทานเนื้อหมู ถ้าหากคุณรับประทานได้ นั้นก็หมายความว่า คุณเป็นชาวคริสต์โรมันคาทอลิก แน่ถ้าไม่นั่นก็หมายความว่า คุณเป็นชาวมุสลิมหรือไม่ก็ชาวยิว ซึ่งชะตากรรมที่คุณจะได้รับก็คือถูกเผาทั้งเป็น
1
การถูกจับเผาทั้งเป็น
กระบวนการ Inquisition ดำเนินเรื่อยมาในสเปนยาวนานกว่า 300 ปี จนกระทั่งถึงปี 1834 ในสมัยของพระราชินีอิซาเบลที่ 2 (Isabella II) ที่พระองค์สั่งให้ยุติกระบวนการ Inquisition ในสเปน
1
ตลอดระยะเวลาที่เกิด Inquisition ในสเปน ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดมากกว่า 32,000 คน ในบางแหล่งข้อมูลก็อ้างว่าอาจจะสูงถึงหลัก 1 แสนคน
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ Spanish Inquisition ช่วงเวลาที่ดำมืดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสเปน
* กระบวนการ Inquisition นอกจากจะเกิดขึ้นในสเปนแล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นในประเทศใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส อังกฤษ ในดินแดนจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (เยอรมนี) รวมไปถึงในอิตาลี
*** Reference
•
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Inquisition
•
https://study.com/academy/lesson/reconquista-and-spanish-inquisition.html
•
https://www.history.com/topics/religion/Inquisition
•
https://www.britannica.com/summary/Spanish-Inquisition-Key-Facts
#HistofunDeluxe
10 บันทึก
18
4
10
18
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย