4 ก.ย. 2021 เวลา 06:48 • ข่าว
อังกฤษมีความเห็นแตกต่างกับอิสราเอล ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา โดยยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเด็กอายุ 12-15 ปี
คณะกรรมการด้านวัคซีนของอังกฤษ ( JCVI : Joint Committee on Vaccination and Immunisation )ได้มีความเห็นเบื้องต้นว่า
ยังไม่สมควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกับเด็กสุขภาพดีในช่วงอายุ 12-15 ปี
โดยได้ชั่งผลดีผลเสียทั้งสองด้านแล้วว่า เด็กอายุ 12-15 ปีที่ไม่มีโรคประจำตัว เมื่อติดเชื้อแล้วส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ และมีส่วนน้อยที่มีอาการเล็กน้อย ซึ่งก็จะหายได้เองโดยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
โดยมีสถิติยืนยันว่า เด็กที่ไม่มีโรคประจำตัว ติดโควิดแล้วต้องนอนโรงพยาบาลเพียง 2 รายใน 1,000,000 ราย
ในขณะที่เด็กที่มีโรคประจำตัว จะต้องนอนโรงพยาบาลมากถึง 100 รายต่อ 1,000,000 ราย
ส่วนผลข้างเคียงของวัคซีนโดยเฉพาะเทคโนโลยี mRNA คือของ Pfizer พบว่ามีผลข้างเคียงที่พบน้อยมาก (very rare) แต่มีอาการรุนแรงคือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) โดยมักจะพบในผู้ที่มีอายุค่อนข้างน้อย ไม่พบในผู้สูงอายุ
โดยมีสถิติจากสหรัฐอเมริกาว่า จะพบในผู้หญิง 8 รายใน 1,000,000 โดส และในผู้ชายพบถึง 60 รายใน 1,000,000 โดส สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มอายุ 12-17 ปี ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ใจสั่น และมีรายงานการเสียชีวิตไปบ้างแล้ว
คณะกรรมการ JCVI จึงชั่งน้ำหนักว่า ประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีน ยังไม่ได้มากกว่าผลข้างเคียงของวัคซีนอย่างชัดเจน
จึงยังไม่มีคำแนะนำ ที่จะให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีดังกล่าว
แต่แนะนำให้ฉีดในเด็กวัยเดียวกันที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด หัวใจ ตับ ไต เบาหวาน โรคมะเร็งของระบบเลือด หอบหืดที่ควบคุมไม่ได้ ตลอดจนกลุ่มปัญญาอ่อน หรือกลุ่มที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งมีจำนวนกว่า 200,000 ราย
1
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ มีความเห็นต่าง จึงยังไม่ประกาศมติดังกล่าว แต่จะขอส่งคำถามไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ ( Chief Medical Officer) ของประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักร อันได้แก่ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้มองบริบทที่กว้างขึ้น ถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีน ที่จะทำให้เด็กสามารถไปโรงเรียนได้ เพราะกลุ่ม JCVI อาจจะมองแคบเกินไปเฉพาะทางวิชาการ
เป็นมุมมองที่เห็นความแตกต่างชัดเจน ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับนักวิชาการในบอร์ดดังกล่าว แต่ก็ยังรับฟังความเห็นของทางวิชาการ โดยส่งไปถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกสามประเทศร่วมด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกัน ประเทศอิสราเอล ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ก็เดินหน้าที่จะให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว
1
สำหรับประเทศไทยเรา ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้าจะได้รวบรวมข้อมูลจากประเทศต่างๆมาประกอบการพิจารณาต่อไป
Reference
4
โฆษณา