5 ก.ย. 2021 เวลา 08:19 • การตลาด
Special Chapter : มุมมองการตลาดในยุค 5.0 (ของคนGen Z)
จากการที่โลกเข้าสู่ยุคใหม่ พร้อม ๆ กับมีถึง 5 generations ในปัจจุบัน ทำให้วิธีการดำเนินชีวิต และทัศนคติทั้งหลายแตกต่างกัน และบางทีเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากกับการต้องดำเนินชีวิตกับช่องว่างนี้
ตัวอย่างเช่น นักการตลาดเจนใหม่ไฟแรง เสนอไอเดียที่สุดครีเอท จากการหาอินไซ้ และมีความ Minimal แต่ผู้บริหารระดับสูง กลับมองว่าขาดการสื่อสารแบรนด์ที่ชัดเจน เรียบเกินไป นักการตลาดคนนี้จึงตัดสินใจลาออก เพราะมองว่าผู้บริหารมีความคิดล้าสมัย ไม่เหมาะกับการทำงานของเธอ แต่ในมุมของผู้บริหารคนนี้มองว่า คนเจนใหม่นี้รับฟังคำติชมไม่ค่อยได้ ไม่มีความอดทน
เห็นรึยังว่า Generation Gap เป็นยังไง ?
ทั้งยังมีความแตกต่างแบบสุดขั้วทั้งในด้านอุดมคติ ฐานะทางสังคม ความเชื่อ อีกทั้งหลาย ๆ ครั้งช่องว่างระหว่างวัยก็เป็นปัญหาในธุรกิจ
นักการตลาดจึงต้องเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละยุคได้อย่างชัดเจน ว่าเขามีความคิดยังไง เขาชอบผลิตภัณฑ์รูปแบบไหน จะสื่อสารไปถึงคนแต่ละเจนยังไง แต่เทรนด์หลักในตอนนี้เรามองว่าผู้บริโภคยุคนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การทำเพื่อสังคมมากขึ้น พร้อม ๆ กับสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล
แน่นอนว่าถ้าธุรกิจให้ความสำคัญกับการรับผิดชอบสังคม จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ได้มากกว่าที่ธุรกิจให้ความสำคัญแค่ผลกำไรในปัจจุบัน
เพราะการที่สภาพแวดล้อมดี ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสในการสร้างกำไร และลดความเสี่ยงจากการล้มเหลวได้มากขึ้น
โดยเฉพาะผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Y,Z เป็นเจนที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมสูงสุด และเป็นเจนที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในอนาคตอันใกล้ เนื่องงจากเป็นเจนที่จะใหญ่สุด และเป็นแรงงานสำคัญในการ Drive ประเทศ ด้วยการเป็นกลุ่มแรงงานที่ใหญ่สุดในไม่ช้า
ถ้าธุรกิจไม่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ธุรกิจอาจล้มหายไป ตัวอย่างเช่น Gen Z กำลังจะกลายเป็น First Jobber หรือกลายเป็นผู้มีกำลังทรัพย์ เป็นเสาหลักของครอบครัว
ที่เขามีพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับสังคม และสิ่งแวดล้อมมาก แต่ถ้าธุรกิจยังมีความล้าสมัย มองแต่กำไรแบบในอดีต ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ ที่เป็นกลุ่มใหญ่ และมีกำลังทรัพย์มากที่สุดในอนาคต ทำให้เสียโอกาสการทำรายได้จากกลุ่มนี้ไป
นอกจากนี้ ในเรื่องของตลาดผู้บริโภค ที่ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ฟากใหญ่ ๆ นั่นคือ รวยมาก กับ จนมาก กำลังเกิดขึ้น และทำให้กลุ่มฐานะกลาง ๆ กำลังหายไป
เพราะถูกบีบให้ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มรวยมาก หรือไม่ก็โดนเตะลงมาอยู่ฐานะต่ำสุด ทำให้กลุ่มกลางนี้ เป็นกลุ่มที่นักการตลาดไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก
จะเห็นได้จาก ปัจจุบันการทำการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ก็มีกลุ่มเป้าหมายหลักที่นิยมอยู่แค่ “กลุ่มคนที่มีฐานะ” ก็จะซื้อของ Premium Brandname การสื่อสารการตลาดออกไปก็ให้ความสำคัญด้าน Emotional Value ประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนกลุ่มนี้ให้เขารู้สึกพิเศษ
แต่อีกกลุ่มนึง เป็น “กลุ่มชนชั้นล่าง” ที่ธุรกิจประเภท Mass พยายามแข่งขันกันด้านราคา ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในราคาถูก หรือที่มีคำฮิตอยู่ช่วงนึงคือ ถูกและดี เพื่อมาจับกลุ่มนี้ ยิ่งเยอะยิ่งดี ผู้บริโภคก็ซื้อโดยไม่ต้องใช้ Emotional หรือการคิดถี่ถ้วนมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าราคาไม่แพง และยังมีโปรโมชันดึงดูดให้ตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีก
และถ้าถามว่า สินค้าที่จับกลุ่มคนฐานะปานกลางมีไหม คำตอบคือมี แต่เห็นไม่บ่อยนัก เพราะถ้าไม่ Mass ก็ Niche ไปเลยซะมากกว่า
กลุ่มนี้ถูกนักการตลาดบางคนเรียกว่า กลุ่มที่ถูกลืม
อ่านมาถึงตรงนี้ อยากจะบอกว่านี่เป็นแค่ Perspective จากเราที่อยู่ใน Gen Z เท่านั้น ที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการตลาดมาบ้าง ประกอบกับประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาน้อยกว่าเจนอื่น และอยากจะมาสรุปประเด็นที่ได้ในตอนนี้
ในไม่ช้า หากได้อ่านหนังสือที่คิดว่ามีประโยชน์ หรือได้ประสบการณ์อะไรใหม่ ๆ ก็จะมาเขียนบทความสั้น ๆ แบบนี้ ให้คนที่สนใจได้อ่านกันนะคะ
วันนีไปแล้ววว แค่อยากมาเขียนสรุปภาพความคิดตัวเองไว้อ่าน แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับใครก็จะรู้สึกดีมากค่ะ
💖
โฆษณา