Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
6 ก.ย. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" จูนินโญ่ การกลับมาของตำนาน "
นักเตะที่ถือเป็นตำนานของสโมสรต่างๆ หลายราย แฟนบอลรักและบูชา อำลาทีมไป ก่อนจะกลับมาอีกครั้งเหมือนเป็นเรื่องราวคลาสสิก
เธียร์รี่ อองรี กับอาร์เซน่อล, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับเชลซี, อิวาน ราคิติช กับเซบีย่า, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กับลิเวอร์พูล ล่าสุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มีอีกหนึ่งนักเตะที่อยู่ในข่ายนี้ เป็นความสัมพันธ์โรแมนติกที่ผูกพันธ์แนบแน่น นั่นก็คือ จูนินโญ่ กับ มิดเดิลสโบรช์
สตีฟ กิ๊บสัน เป็นนักธุรกิจหนุ่มชาวเมืองมิดเดิลสโบรช์ เขาเป็นแฟนบอลโบโร่ มาตั้งแต่เด็ก ด้วยวัยเพียง 35 ปี เขาก็เริ่มเทคโอเวอร์สโมสร และปีต่อมาก็ขึ้นเป็นประธานสโมสรด้วยการถือหุ้น 90% ในปี 1994
เขาต้องการทำให้ทีมรักกลายมาเป็นทีมใหญ่ประสบความสำเร็จให้ได้
1
มิดเดิลสโบรช์ ทีมแห่งยอร์คเชียร์ มีแม่น้ำทีส์ เป็นแม่น้ำสำคัญ อยู่ติดกับแถบอีสานมณฑลเดอแร่ม ซึ่งพวกเขาก็ถือว่าตัวเองเป็นอริร่วมถิ่นกับนิวคาสเซิ่ล และซันเดอร์แลนด์ แห่ง ไทน์และเวียร์
โบโร่ ก็เหมือนกับเมืองภาคเหนืออีกมากมายที่ประสบปัญหาจากนโนบายการเมืองยุค 80s ต่อต้น 90s จนกลายเป็นเมืองที่มีปัญหามากมาย ฟุตบอลเองอาจเป็นทางออกหนึ่งของผู้คน
สตีฟ กิ๊บสัน ทุ่มเงินลงทุนไปกับทีม เพื่อคว้าสตาร์ดังมาเสริมทัพ ให้มิดเดิลสโบรช์ เป็นแหล่งชูใจของคนท้องถิ่น
1
ไบรอัน ร็อบสัน ในวัยโรยรา เข้ามาเป็นผู้เล่น/ผู้จัดการทีมในปี 1994 ก่อนผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัว
พอเดือนตุลาคมปี 1995 ก็มีดีลสุดเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น นั่นคือการที่ทีมคว้านักเตะบราซิลร่างเล็กมาด้วยค่าตัวถึง 4.7 ล้านปอนด์
1
ก่อนหน้านั้น 4 เดือน อังกฤษจัดแข่งมินิ ทัวร์นาเมนต์ที่ชื่อ อัมโบร คัพ เป็นเหมือนการอุ่นเครื่องก่อนเป็นเจ้าภาพ ยูโร 1996 ในอีก 1 ปีข้างหน้า
บราซิล เดินทางมาเตะกับอังกฤษด้วย และทัพแซมบ้าเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-1
โรนัลโด้ วัย 19 ปีทำประตูได้ เช่นเดียวกับเอ็ดมุนโด้ ส่วนประตูตีเสมอ 1-1 ของบราซิลนั้น มาจากฟรีคิกสุดสวยของเพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กวัย 22 ปีที่ชื่อ ออสวัลโด้ จูเนียร์ "จูนินโญ่" ซึ่งเล่นอยู่กับเซา เปาโล ทีมดังในเมืองเกิด
จูนินโญ่ ได้รับการจับตามองมาก เขาติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ถึง 15 นัดในปีนั้น นี่คือหนึ่งในนักเตะดีสุดของบราซิลในปี 1995
การที่เด็กหนุ่มร่างเล็กชาวบราซิล ย้ายมาเตะฟุตบอลในแถบถิ่นอีสานของอังกฤษที่อากาศหนาวเย็น และเมืองที่ไม่ได้เจริญอะไรเลย เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ หรือเมืองเจริญทางใต้เช่น เบอร์มิงแฮม, ลอนดอน จึงถือเป็นเรื่องยาก
จูนินโญ่ ยอมรับว่าอากาศที่อังกฤษหนาวมากจนถึงกับต้องยัดกระดาษหนังสือพิมพ์ในสตั๊ดตอนซ้อมเพื่อให้อุ่น และใส่หน้ากากไอ้โม่งตอนซ้อม
ฤดูกาลแรกผ่านไปโดยยังไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไรมากนัก ยิงได้แค่ 2 ประตูจาก 21 นัด
1
กระทั่งซีซั่น 1996/97 สตีฟ กิ๊บสัน สั่งลุย ทีมคว้าตัว ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ หัวหอกยูเวนตุสทีมชาติอิตาลีเข้ามาอย่างสุดเซอร์ไพรส์ เพราะตอนนั้น ดีกรีของราวาเนลลี่ มันระดับยุโรป ส่วนโบโร่ เพียงทีมระดับกลางๆ ที่มีความทะเยอทะยานแค่นั้น
นอกจากนั้นยังมี มิดฟิลด์บราซิลด้วยกันจากปอร์โต้นามว่า เอเมอร์สัน, กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก มิคเคล เบ็ค เข้ามาด้วย
การได้แข้งดีๆ เข้ามาเสริม บวกกับทีมที่มีอยู่เดิมเช่น เครก ฮิกเน็ตต์, ร็อบบี้ มัสโท, เคลย์ตัน แบล็คมอร์, ไนเจล เพียร์สัน ทำให้โบโร่ น่าจับตาไม่น้อย
2
เกมแรกของซีซั่นพวกเขาเสมอลิเวอร์พูล 3-3 ราวาเนลลี่ เปิดตัวด้วยแฮททริกทันที แต่ทุกสายตาจับต้องไปที่ จูนินโญ่ เพราะเขาทำเกมได้อย่างสุดยอด คว้าแมน ออฟ เดอะ แม็ทช์ ไปครอง
1
ลีลาการคอนโทรลบอล ทักษะในการล่อหลอกแนวรับคู่แข่งทำเอาฟุตบอลอังกฤษฮือฮา นี่คือสไตล์แซมบ้าของแท้ และทำให้เขากลายเป็นที่รักของแฟนบอลโบโร่อย่างแท้จริง
น่าเสียดาย แม้ โบโร่ จะเปิดซีซั่นได้ดี ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 6 นัดแรก แต่จากนั้นมา ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงช่วงคริสมาสต์ พวกเขาไม่ชนะใครเลย แพ้ถึง 8 นัดด้วยกัน
โบโร่ มาเร่งเครื่องใน 12 นัดสุดท้าย แพ้เพียงแค่ 2 นัด แต่บทลงท้ายคือจบอันดับ 19 มีแต้มตามทีมอันดับ 17 ที่รอดตกชั้น 2 แต้ม นั่นเป็นเพราะโดน เอฟเอ สั่งตัด 3 คะแนน เนื่องจากการขอยกเลิกเกมกับแบล็คเบิร์น อย่างกระชั้นชิด ด้วยเหตุนักเตะเจ็บ และป่วย จนจัดทีมลงเล่นไม่ได้
มิดเดิลโบรช์ ได้เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยถึง 2 รายการในปีนั้น ลีก คัพ แพ้ให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ ส่วน เอฟเอ คัพ ก็แพ้ให้เชลซี
กระนั้นฟอร์มของ จูนินโญ่ ก็น่าประทับใจอย่างที่สุด เขายิงไป 12 ประตูจาก 35 นัดในลีก คว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี โดยสมาคมนักเตะอาชีพ ชนะใจเพื่อนร่วมอาชีพไปในปีนั้น
ปัญหาก็คือ ในอีก 1 ปีจะมีฟุตบอลโลก ฟร้องซ์ 98 จูนินโญ่ ต้องการติดทีม การเล่นในลีกรองอังกฤษย่อมไม่ใช่เรื่องดี
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจย้ายทีม เป็น แอตเลติโก้ มาดริด ที่ยอมทุ่มถึง 13 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขาไปเล่นใน ลา ลีกา สเปน
เส้นทางของเขากับทีมตราหมี เป็นไปได้ด้วยดี กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 1998 เขาโดน มิเชล ซัลกาโด้ ซึ่งขณะนั้นยังเล่นกับ เซลต้า บีโก้ เสียบสกัดจนกระดูกเท้าแตก พักยาวครึ่งปี หมายความว่าเขาพลาดฟุตบอลโลกไปโดยปริยาย
ฤดูกาล 1999/2000 จูนินโญ่ โดนปล่อยกลับมาให้มิดเดิลสโบรช์ยืมตัว ตอนนั้นโบโร่ คัมแบ็กกลับสู่พรีเมียร์ ลีก แล้ว และการคืนสู่ถิ่น ริเวอร์ไซด์ของ จูนินโญ่ ในวัย 26 ก็สร้างความตื่นเต้นให้แฟนบอลโบโร่อย่างมาก
การกลับมาหนนี้ ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จเท่ากับในครั้งแรกที่เล่นให้ทีม แต่แฟนๆ ยังรักเขาเสมอ จูนินโญ่ มาเร่งเครื่องทำผลงานยิง 3 ประตูจาก 7 นัดสุดท้าย พาทีมจบอันดับ 12
พอดีที่แอต มาดริด ต้นสังกัดแม่ มีความปั่นป่วนอย่างมากในฤดูกาลนั้น ทีมตกชั้น ส่งผลให้ จูนินโญ่ โดนปล่อยยืมตัวกลับไปเล่นในบราซิลกับ วาสโก ดา กาม่า ในฤดูกาล 2000
1
นี่เป็นการอำลามิดเดิลสโบรช์ครั้งที่ 2 ของ จูนินโญ่ ถึงตอนนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าริเวอร์ไซด์ จะได้ต้อนรับเพลย์เมกเกอร์รายนี้อีกแล้ว
ที่วาสโก ดา กาม่า นี่เอง เขาได้เล่นร่วมกับนักเตะรุ่นน้องที่ชื่อ จูนินโญ่ เหมือนกัน ตั้งแต่นั้นมาจึงมีการเติมชื่อท้ายเพื่อให้รู้ว่าจูนินโญ่ ไหน
1
จูนินโญ่ของเราคือ จูนินโญ่ เปาลิสต้า เพราะบ้านเกิดอยู่เซา เปาโล ส่วนอีกคนคือ จูรินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ จอมฟรีคิกปลิดวิญญานที่มาโด่งดังกับ ลียง ในภายหลัง เนื่องจากเขาเกิดที่เรซีเฟ่ ในรัฐแปร์นัมบูโก้
1
ระหว่างเล่นอยู่ในบราซิล ผลงานของเขาก็มีความคงเส้นคงวา จนได้ติดทีมไปลุยฟุตบอลโลกสมใจ หลังพลาดมาในปี 1998 และ จูนินโญ่ ก็เป็นหนึ่งในทีมชุดแชมป์โลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ในนัดชิงชนะเลิศที่บราซิลชนะเยอรมัน 2-0 เขาเป็นตัวสำรอง ลงมาท้ายเกมแทนที่ โรนัลดินโญ่
เป้าหมายในทีมชาติบรรลุแล้ว และไม่มีใครคาดคิด หน้าร้อนปีนั้น จูนินโญ่ ก็กลับอังกฤษอีกครั้ง เขาเดินทางมาสวมเสื้อสีแดงของมิดเดิลสโบรช์ เป็นคำรบ 3
2
นี่เป็นการกลับมาของตำนานอย่างสมบูรณ์แบบ ครั้งแรกที่เซ็น เป็นดาวโรจน์วัย 22 ปี, ครั้งที่ 2 เป็นเหมือนการฟื้นฟูอาชีพด้วยวัย 26 ปี หนนี้ บนวัย 29 ปี จูนินโญ่ ผ่านทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกฟุตบอลมาหมดแล้ว
นั่นรวมถึงอาการเจ็บ ที่ได้รับสมัยเล่นให้ทีมตราหมี เขาไม่เคยฟื้นคืนมาเป็นจูนินโญ่ คนเดิมอีก แต่กระนั้น เวทย์มนต์ของเขาก็ยังมีมากพอให้แฟนโบโร่ได้ฮือฮา
ในฤดูกาล 2003/04 เขาเล่น 38 นัดในทุกรายการทำได้ 9 ประตู และไฮไลท์คือการนำมิดเดิลสโบรช์ คว้าแชมป์ ลีก คัพ มาครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะโบลตัน ในนัดชิงชนะเลิศ 2-1
นั่นคือแชมป์เมเจอร์รายการแรกและรายการเดียวของ โบโร่ จนถึงทุกวันนี้
น่าเสียดายที่เกิดความขัดแย้งกับ สตีฟ แม็คลาเรน ผู้เป็นกุนซือ หลังจบฤดูกาลนั้น จูนินโญ่ ก็ตัดสินใจแยกทางกับสโมสรอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นหนที่ 3 และไม่มีครั้งที่ 4 อีกต่อไป จูนินโญ่ ย้ายไปเซลติก ทั้งที่มิดเดิลสโบรช์ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป เขาอยู่กับเซลติกปีเดียวก็กลับบราซิล ไปประสบความสำเร็จกับพัลไมรัส จากนั้นมาแขวนสตั๊ดกับ ซิดนี่ย์ เอฟซี ในออสเตรเลีย เมื่อปี 2008 ด้วยวัย 35 ปี
ก่อนจะมาเล่นกับทีมที่เคยค้าแข้งสมัยเยาวชนอย่างอิตัวโน่ อีกไม่กี่นัดในปี 2010 และต่อมาก็ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสโมสร ทำงานด้านการบริหารแทนการลงไปเล่นด้วยตัวเอง
หลังแขวนสตั๊ด เขาเปิดเผยว่า สำหรับเขาแล้ว มิดเดิลสโบรช์ เหมือนบ้านหลังที่ 2 ของเขา การกลับมาที่นี่น่าดึงดูดเสมอ
ตั้งแต่แรกเริ่มที่เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในถิ่นริเวอร์ไซด์ ตอนปี 1995 แบบสุดเซอร์ไพรส์เป็นเพราะไบรอัน ร็อบสัน
"ไบรอัน ร็อบสัน แสดงความสนใจตัวผม เดินทางมาที่บราซิล นำโปรเจ็คท์มาโชว์ผม และบอกผมว่าเขาต้องการเล่นฟุตบอลที่แตกต่างออกไป เน้นการเข้าปะทะให้น้อยลง ผมก็เชื่อในโปรเจ็คท์นี้"
สิ่งเดียวที่เขาเสียใจในอาชีพก็คือ การย้ายออกจากอังกฤษในปี 1997 แม้จะอำลาโบโร่ แต่เขามีโอกาสที่จะเล่นให้ทีมอย่างลิเวอร์พูล และสเปอร์ส ซึ่งให้ความสนใจเข้ามา
1
กระนั้น เขาก็ยังรักฟุตบอลอังกฤษและมิดเดิลสโบรช์เสมอ
"ผมปรับตัวได้ดีกับฟุตบอลอังกฤษ บางทีอาจผิดที่ผมย้ายไป ประเทศอื่นเร็วเกินไป ในอังกฤษ นักบอลเข้าบอลกันหนัก แต่พวกเขาเข้าที่บอล พวกเขาตรงไปตรงมา ในประเทศอื่น บางทีคุณเจอนักเตะที่ไม่ตรงไปตรงมาเท่านี้"
1
"และสนามบอลในอังกฤษมันยอดเยี่ยมมาก ผมคิดถึงบรรยากาศนั้นตอนที่ผมย้ายออกมา สนามเต็มเสมอและเสียงดังมาก ในสเปน คุณไม่ได้เจอแบบนี้ทุกเกม"
"มิดเดิลสโบรช์คือบ้านหลังที่ 2 ของผม ผมรู้มันฟังดูเหมือนท่องบทกันมา แต่ผมหมายความตามนี้จริงๆ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกเมื่อผมกลับไป"
จูนินโญ่ ได้รับการโหวตจากแฟนบอลโบโร่ ให้เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสร
แชมป์ลีก คัพ ของเขากับโบโร่ มีความหมายมากกว่าแชมป์โลกกับบราซิล
นี่คือเรื่องราวการกลับมาอีกครั้งของตำนานที่โรแมนติกที่สุด โดยเฉพาะถ้าไปลองถามแฟนบอลโบโร่ ไม่มีใครจะเป็นที่รักเท่ากับพ่อมดน้อยตัวเล็กจากบราซิลที่ชื่อ จูนินโญ่ อีกแล้ว
1
--สถิติของ จูนินโญ่ ในอังกฤษ --
@ อาร์เซน่อล คือทีมที่เขาลงเจอมากสุด 12 นัด ชนะ 4 แพ้ 8 ยิงได้ 2 ประตู
@ แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมที่เขาชอบยิงมาก ยิงไป 4 ประตูจาก 7 นัดที่เจอกัน เทียบเท่าเลสเตอร์ โดยเอฟเวอร์ตัน เป็นทีมเดียวที่เขายิงได้มากกว่า (5 ประตูจาก 7 นัด)
@ วิมเบิลดัน กับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นทีมที่จูนินโญ่ ไม่เคยชนะเลย แต่ก็แพ้แค่ทีมละนัด หนักเสมอ (เจอ 5 ครั้งและ 4 ครั้งตามลำดับ)
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballthถ
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
2 บันทึก
11
2
2
11
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย