6 ก.ย. 2021 เวลา 13:54 • ปรัชญา
ซีรีส์ ความลับของโมสาร์ท
ตอนที่ 1 Same but Different
bana hill danang vietnam 2560
ฉันอาศัยอยู่ในโลกสมมุติ
โลกสมมุติ ซึ่งทุกประสาทสัมผัส ยอมรับว่า จริงแท้
โลกสมมุติ ที่มีกาลเวลา ล้อมรั้วไฟฟ้า พลังทำลายล้างสูง
คลื่นพลังงาน วนอยู่รอบๆ เส้นผมของฉัน
ใครจะรู้บ้างว่า ระหว่างเส้นทางสมมุติ เราสูญเสียสิ่งมีค่าอะไรไป ?
ท้องฟ้า ในใจ ที่ครั้งหนึ่งเคยสดใสเสมอ
ความรู้สึก โล่งในหัว โล่งในใจ สมัยเด็ก
นกตัวเล็กๆ ที่เคยร้องเพลง ไม่มีปี่มีขลุ่ย
อารมณ์ สงบ บางอย่างที่อธิบายไม่ได้
จะสามารถ กลับคืนมาได้ไหมนะ ?
แน่นอนว่า ฉันชอบอยู่กับเด็กตัวเล็กๆ
แต่ก็มีคนแก่ บางคน (น้อยกว่าน้อย) ที่ทำให้อยากอยู๋ใกล้
คนแก่ ที่แววตา ใสเหมือนเด็ก
คนแก่ ที่ไม่มี อัตตาอะไรให้ยึดถืออีกแล้ว (เหมือนเด็ก)
คนแก่ ที่หัวเราะ ออกมาได้ง่ายๆ ..บางครั้งน้ำตาก็ไหลไร้เหตุผล (เหมือนเด็ก)
คนแก่ ที่ดวงตาแสดงออกมา ถึงความหยั่งลึกในจิตใจของเขา จนเราสัมผัสได้
คนแก่ ที่รู้สึกได้ถึง ความเมตตา ความสงบเย็น และ ความรัก :)
......ฉันอยากเติบโตไป เป็น คนแก่ แบบนี้
คนแก่ ที่สามารถ นำความไร้เดียงสาที่เคยหายไป ให้กลับคืนมาใหม่
ถึงแม้ ความเป็นเด็กแบบดั้งเดิม จะถูกบิดเบือนไปแล้ว
แต่เมื่อมันกลับคืนมาอีกครั้ง จะไม่มีใคร หรือสังคมใด มาพรากไปได้อีก
เหมือนกับปลา ที่เกิดมาไม่เคยรู้ว่า อะไรคือทะเล
จนกว่าจะมีใคร โยนมันขึ้นไปบนชายหาด ให้ถูกแสงแดด แผดเผาเสียก่อน
จึงตระหนักได้ว่า ทะเล นั้นมีอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว....
....ชีวิต เป็นเช่นนี้..มักบีบบังคับให้เราสูญเสียไปก่อน เสมอๆ
อะไรกันหนอ ที่ทำให้การเติบโต แตกต่างกันไป ?
ทำไมกันนะ คนแก่ส่วนใหญ่ จึงเต็มไปด้วยความทุกข์ในใจ ?
มีทฤษฎีหนึ่ง ที่ฉันยอมรับด้วยใจ
เรื่องการเดินทาง ในแนวตั้ง (Growing Up) และ การเดินทางในแนวราบ (Glowing Old)
ขอยก บางตอนของหนังสือชื่อ Maturity ของ OSHO มานะคะ
" มิติเวลาที่เราอาศัยอยู่ เป็นมิติในแนวราบ คือจาก ก ไป ข ไป ค
..มันเป็นเชิงเส้น
แต่ความเป็นนิรันดรนั้น เป็นมิติในแนวตั้ง
มันคือ จาก ก ไปยังสิ่งที่มากกว่า ก ไปเรื่อยๆ
ช่วงขณะที่ความเป็นนิรันดร์ เจาะผ่านกาลเวลาเข้ามานั้น
ถือว่าเป็นช่วงที่นานๆ จะเกิดขึ้นมันจะเกิด
เฉพาะในช่วงที่สมาธิของท่านสุกงอม เติบโตเต็มที่เท่านั้น
..เป็นช่วงที่ท่านได้สัมผัสกับส่วนที่อยู่ลึกที่สุดในตัวท่าน
ท่านคงประหลาดใจที่ได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ไม้กางเขนของชาวคริสต์นั้น
เป็นเครื่องหมายโบราณของทางตะวันออก เป็นสัญลักษณ์ของชาวอริยกะ
เป็นเครื่องหมาย สวัสดิกะ และนั่นคือสาเหตุที่
Aldof Hitle (ฮิตเล่อร์)ได้เลือกเครื่องหมายสวัสดิกะ เป็นสัญลักษณ์ของเขา
( หนทางสู่ความเป็นอมตะ)
ไม้กางเขน ก็เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมาย สวัสดิกะ
เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เห็นเส้นแนวตั้ง และ แนวราบ
...มือของพระคริสต์ วางอยู่ในแนวราบ...ศีรษะ และ ภาวะการดำรงอยู่ของพระองค์ ชี้ไปในทิศทางตรงข้ามกัน
ในช่วงเวลาของการเจริญสติทำสมาธิ ในทันทีทันใด ท่านจะรู้ได้ว่า
ท่านสามารถเคลื่อนได้ในสองทิศทาง
แนวตั้งน้ั้น เต็มไปด้วยความเงียบ ความสงบสุข ความปีติยินดีอย่างเหลือล้น
แนวราบนั้น เต็มไปด้วยมือมากมาย
มันหมายถึงการทำงาน และความต้องการทางโลก
(หาอ่านเพิ่มเติมได้ ในหนังสือเรื่อง Maturity (วุฒิภาวะ) ของ OSHO ค่ะ)
พระพุทธเจ้าเคยกล่าวว่า " การเกิดเป็นทุกข์ ชีวิตเป็นทุกข์ การตายเป็นทุกข์ "
ฉันสงสัยมานานแล้วว่า
ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมนะ..
เกิดมาแล้วรีบตายเลยไม่ดีกว่าเหรอ ?
อันที่จริง สิ่งที่พระองค์ต้องการจะบอกก็คือ
การเคลื่อนที่ในแนวราบนั้น เป็นความทุกข์
เป็นความเจ็บปวด เป็นความทรมาน บนความสนุกสนานที่ไม่จีรัง
ปรัชญาตะวันตก ของพวกที่นิยมอัตตา
ยึดถือปรัชญาของ Jean Paul Satre, Jaspers, Heidegger และอื่นๆ
ได้ข้อสรุปที่ว่า
ชีวิตที่แท้จริงไม่ได้มีความหมายใดๆ เลย..
แน่นอนที่สุด ในโลกที่ชีวิตเคลื่อนที่ไปในแนวราบนั้น
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
Osho กล่าวว่า..ท่านถูกขังอยู่ในร่างกายเล็กๆ
ในขณะที่จิตสำนึกของท่านนั้น กว้างใหญ่
ไม่ต่างอะไรกับจักรวาลทั้งหมด..
เส้นทางในแนวตั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่า ท่านต้องสละโลก
แต่มันมีหมายความว่า
" ท่านไม่ได้เป็นของโลกอีกต่อไป "
เพราะสำหรับท่านแล้ว โลก กลายเป็นสิ่งที่ไม่จีรัง
ถึงท่านจะอยู่ในโลก แต่โลกนั้นไม่ได้อยู่ในตัวท่านอีกต่อไป
คนที่กำลังเคลื่อนไหวไปบนเส้นทางในแนวตั้ง จะทำตัวเหมือนกระจก
ถ้าท่านได้เข้าใกล้พวกเขา
ท่านจะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่าน
ท่านจะเห็นความน่าเกลียดของท่าน
เห็นความทะเยอทะยาน อันไม่มีที่สิ้นสุดของท่าน
............ทั้งสองเส้นทางนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เส้นทางในแนวราบ จะเรียกร้อง
ให้เรามีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเต็ม
...เช่นนี้สินะ คนเราจึงรู้สึกพร่อง อยู่เสมอกัน ทุกผู้คน
เส้นทางในแนวตั้ง คือการฝึกตนให้มีความต้องการ ลดลงๆ ๆ เรื่อยๆ
จนถึงจุดของความไร้ตัวตน
มีความสุขอย่างมากมายโดยที่ไม่ได้เป็นอะไร หรือใครเลย
เป็นความบริสุทธิ์ของความว่างเปล่าที่เชื่อมโยงกัน ท้องฟ้าภายใน
คนที่เปลือยเปล่าอยู่กับความไม่มีอะไรเท่านั้น
ที่จะสอดประสานกับจักรวาลได้
เมื่อใดก็ตาม ที่การเชื่อมประสานกับจักรวาลได้เกิดขึ้น
ท่านก็จะไม่เป็นอะไรอีกต่อไป
เพราะนี่คือ คร้ั้งแรกที่ท่านคือจักรวาลทั้งหมด
เมื่อตัวกู ของท่านหายไป ขณะนั้น ความเป็นท่านที่แท้จริงก็จะปรากฎ
หรือแท้จริงแล้ว ชีวิต ไม่เคยเกิด และ ไม่เคยตาย ?
เส้นทางเส้นไหนกันนะ ที่จะให้คำตอบกับเรา ?
เส้นทางสายไหนกันนะ ที่จะนำ ส่วนที่หายไปกลับคืนมาใหม่ได้อีกคร้้ง ?
เคยมีใครถางที่ทาง ตัดถนนให้หรือยัง ?
(น่ายินดีที่มีแล้ว :)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา