บุญเดือนเก้า ข้าวประดับดิน งานเลี้ยงผีของชาวอีสานค่ะ
เมื่อ 2 ปีก่อน เดนนิสฝรั่งเยอรมันที่ทำงานมาทำหน้าตาตื่นใส่เราแต่เช้า เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนวานเขาเจออาหารห่อใบตองวางไว้ข้างวัดพร้อมจุดเทียนเต็มรอบวัดเลย แถมบางแห่งเจอตามริมถนนหนทางด้วย แล้วก็ถามเราว่ารู้ไหมว่ามันคืออะไร เค้าทำไปทำไม
ตามที่เรียนมาก็พอจะบอกตาฝรั่งได้ว่าเป็นประเพณีฮีตสิบสอง คือทำบุญ 12 เดือน เดือนนี้เดือนเก้า เค้าก็ว่าวันแรม 14 ค่ำ เดือนเก้า เชื่อว่าเป็นวันที่ประตูนรกเปิด ยมบาลจะปล่อยผีออกมา ชาวบ้านก็สามารถเอาข้าวปลาอาหารมาทำบุญให้ผู้ล่วงลับที่เป็นญาติ และเอามาวางตามริมวัดให้ผีไม่มีญาติด้วย
แต่ทีนี้ด้วยความที่เราเป็นคนเหนือ ที่บ้านเราไม่ได้ทำ ก็เลยตื่นเต้นตามเยอรมัน และอยากเห็นมั่ง แต่เพื่อนๆที่เป็นคนที่นี่บอกว่าเค้าทำวันเดียว ไปอีกวันก็ไม่เห็นแล้วปีนั้นเลยอด พออีกปีเราก็ตั้งตารอ แต่ก็ไม่เห็นอยู่ดีเพราะตื่นไม่ทัน
มาปีนี้เตรียมตัวอย่างดี เห็นโพสต์ของอาจารย์ที่อยู่คณะมานุษยวิทยาโพสต์มาแต่ไกล เราก็ไปถามเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นคนขอนแก่นเรื่องนี้ ทว่านางก็ไม่รู้เรื่องเพราะเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว แถมจากบ้านไปเรียนกทมแต่เด็ก นางจึงตื่นเต้นตาม และหูผึ่งเมื่อได้ยินเรื่อง 'วันปล่อยผี'และการ 'ทำบุญให้ผี' เพราะเชื่อว่าที่ทำงานก็อาจจะมีผีสัมภเวสีที่เฮี้ยนๆเหมือนกัน ก็เลยชวนเราไปหาของมาทำบุญให้ผีที่ทำงานกันดีไหม การทำงานเราจะได้ราบรื่นขึ้น
พวกเราก็เลยไปตามหาซื้อกระทงเซ่นไหว้กันที่ตลาดวันที่ 29 คนขายก็บอกว่าไม่ใช่วันนี้แต่เป็นวันที่ห้า เราก็โอเค...รอ
วันที่ห้ามาถึง เราก็ไปหาซื้อของเซ่นไหว้ที่ตลาดแล้วคอยถามคนขาย พ่อค้าแม่ค้าเล่าให้ฟังอย่างดี
พอถามหาข้อมูล พ่อค้าแม่ค้าก็เล่าอธิบายวิธีเซ่นไหว้ให้ แล้วบอกว่าเราต้องเอาของไปวางตามริมกำแพงวัด หรือไม่ก็ทางสามแพร่ง หรือตามของประตูสี่มุมที่ผีจะมาอะไรเทือกนี้
ข้าวประดับดินที่ใส่ห่อขายสำเร็จรูป
แล้วแกก็บอกว่าต้องไปวางตั้งแต่หกทุ่ม (เที่ยงคืน) จนถึงก่อนสว่าง เพราะถ้าสว่างแล้วผีไม่มาแล้ว มันจะไม่ทัน ส่วนบทสวดก็หาดูที่กูเกิลเอาก็ได้ ถามว่าบ้านอยู่ไหน พอเราบอกที่พัก แกก็ว่าเข้ามาในเมืองเหอะ วัดในเมืองสว่างกว่า มีคนมาทำบุญด้วยกันเยอะอยู่ จะไปวางอะไรคนเดียวน่ากลัว (เพื่อนเราไม่ตื่น เราเลยจะไปวางที่ทำงานคนเดียว)
ว่าแล้วก็ว่าถ้าขายเสร็จแกก็จะบึ่งรถกลับบ้านที่อยู่อีกอำเภอเพื่อไปทำบุญที่วัดแถวบ้านเหมือนกัน บึ่งไปถึงก็คงตีหนึ่ง ไปทันทำบุญพอดี ว่าแล้วก็เอาของที่เตรียมมาตั้งโต๊ะวางให้เราถ่ายรูปด้วย ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ของทำบุญข้าวประดับดิน
ส่วนเราพอซื้อของเสร็จก็ไปนอนเอาแรงก่อนจะตั้งนาฬิกาปลุกประมาณตีสี่ ลุกมาก็รีบบึ่งรถไปที่วัดซึ่งไม่พบเจอใครแล้วเพราะทุกคนน่าจะกลับบ้านไปนอนกันแล้ว แต่เห็นร่องรอยมีคนเอาห่อข้าวมาวางเต็มกำแพงวัดเลยค่ะ
ข้าวประดับดินตามกำแพงวัด
เราไปถ่ายรูปก็พบคนขายดอกไม้ด้านหน้าวัดและเข้าไปซื้อ แกก็ว่าเราประเดิมเลยนะเพราะเดี๋ยวนี้คนจะมาวัดกันสายๆนู่น เอาข้าวประดับดินมาวางแล้วก็กลับไปนอนกันแล้วค่อยมาใหม่ แต่เราก็ไม่พลาดหรอกเพราะขอคนที่ทำงานที่เขาน่าจะไปวัดให้ส่งรูปบรรยากาศที่วัดมาให้ด้วย และเขาก็ส่งมาให้จริงๆ
รูปที่คนที่ทำงานถ่ายตอนทำบุญในวัดแล้วส่งมาให้ค่ะ
ตัวเราพอได้ถ่ายรูปที่กำแพงวัดแล้วก็ขับรถไปที่ทำงานให้ทันก่อนสว่างเพื่อนำข้าวประดับดินที่ซื้อเอาไว้ตอนหัวค่ำไปวาง พร้อมจุดธูปสวด และบอกบุญที่ทำงาน ทำพิธีเสร็จ ก็อยู่ในรถรอเข้าที่ทำงานเลยเพราะมันใกล้สว่างแล้ว รปภ.ของที่ทำงานก็แอบตกใจที่เรามาแต่เช้า ในวันที่เค้า work from home กัน
นี่คือบุญข้าวประดับดินที่เรานำมาวางให้ผีที่ทำงานค่ะ
พอเราเอาวีรกรรมอันนี้ของเราไปเล่าให้คนใกล้ตัวฟัง. เขาก็ว่าทำอะไรอันตราย มาตอนมืดคนเดียว กล้าอะไรขนาดนั้น แถมไม่กลัวผีกลัวสางเอาด้วย เรายิ่งไม่แข็งแรงชอบป่วยกระเสาะกระแสะ
คนที่นี่เค้าถือเอาว่าผีจะทำให้ยิ่งป่วยได้
เขาก็พูดอย่างเป็นห่วงแหละว่าไม่ให้ทำอย่างนี้อีก แต่เราฟังก็คิดมาก
คืนนี้เราก็เลยนอนไม่หลับ เพราะกลัวผี ตกลงคือนอนไม่พอสองคืนติดกันช่วงวันปล่อยผี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
