โลกของการใช้สมุนไพรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของหลายประเทศกว้างขวางกว่าที่เรารู้จักผ่านสื่อหลักและเพลทฟอร์มสื่อออนไลน์ ซึ่ง 90% เป็นเรื่องของวัคซีนและการพัฒนายาแผนปัจจุบันของบริษัทยาทั้งหลาย
ในขณะที่ในโลกแห่งความเป็นจริง ประมาณการณ์ว่าประชาชนในประเทศต่างๆมากกว่า 70-80% ของโลกใช้สมุนไพรและยาจากหมอพื้นบ้านรับมือโรคระบาด ด้วยเหตุผลต่างๆ
ไบโอไทยรวบรวมการใช้สมุนไพรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อกวาดสายตามมองโลกยามไวรัสระบาดให้เห็นโลกนี้กวางขวางมากขึ้น ดังนี้
จีน
ในระหว่างการระบาดของไวรัสใหญ่ที่เมือเหอเป่ย จีนส่งทีมแพทย์แผนจีนเข้าไปรักษาร่วมกับหมอแผนปัจจุบัน โดยการเปิดเผยในภายหลังพบว่า TCM (Traditional China Medicine) ที่ใช้รักษาผู้ป่วยประกอบไปด้วยสมุนไพร 12 ชนิดได้แก่
-โกฐจุฬาลัมพา
-โกฐเขมา (Atractylodes lancea)
-ชะเอมเทศ
-พิมเสน
-หญ้าแส้ม้า (Verbena officinalis)
-อ้อเล็ก (Phragmites australis)
-ส้ม
-ลูกเดือย
-แอพริคอต
-Ephedra sinica
-Reynoutria japonica
-Lepidium apetalum
จาการเปิดเผยการรักษาที่โรงพยาบาลชั่วคราว Jiang Xia จำนวนผู้ป่วย 564 คนพบว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก
เวียดนาม
นอกเหนือจากประกาศให้มีการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นแล้ว เวียดนามกำลังเร่งพัฒนายาสมุนไพร ที่ใช้ชื่อว่า "VIPDERVIR” มีสมุนไพรที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ 6 ชนิดได้แก่
-ฟ้าทะลายโจร
-พลูคาว
-กานพลู
-ขิง
-ชะเอมเทศ
-Baikal Skullcap
การดำเนินการนี้ของเวียดนาม เป็นการทำงานร่วมกับหลายสถาบัน โดยสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพเวียดนาม(VAST) ร่วมกับ สถาบันควบคุมคุณภาพยาแห่งชาติและมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮานอย และบริษัท Vietnam Chemico-Pharmaceutical Joint Stock Company ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดลองทางคลีนิก
มาดากัสการ์
เป็นประเทศแรกที่ประธานาธิบดี Andry Rajoelina ซึ่งเป็นผู้นำของประเทศออกมาผลักดันอย่างเต็มที่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้รับการจับตาจากทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2563 ใช้ชื่อว่า "COVID-Organic" อยู่ในรูปเครื่องดื่มเสริมเพื่อป้องกันและรักษาโรคจากไวรัส มีส่วนผสมของสมุนไพร Artemisia 2 ชนิดคือ
-โกฐจุฬาลัมพา (Artemisea annua)
-โกฐแอฟริกา (Artemisa afra)
WHO ไม่สนับสนุนให้มีการใช้ในรูปสมุนไพร แต่ได้นำสารสกัด Artesunate ซึ่งได้จาก Artemisia ไปวิจัยทางคลีนิกในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
กานดา
สำนักงานเภสัชกรรมแห่งชาติของอูกานดาเพิ่งรับรองผลิตภัณฑ์ต้านไวรัสชื่อ “โคVIDEX” สำหรับใช้เป็น "ผลิตภัณฑ์สนับสนุน" เพื่อต้านการระบาดของไวรัสชนิดใหม่ ผลิตภัณฑ์นี้พัฒนาขึ้นโดยนักวิชาการเภสัชศาสตร์ชื่อ Patrick Engeu Ogwang อดีตหัวหน้าแผนกเภสัชกรรมที่ Pharm-Biotechnology and Traditional Medicine Center (PHARMBIOTRAC) ที่ Mbarara University of Science and Technology หรือ MUST ของอูกันดา โดยสมุนไพรที่ใช้เป็นหลักคือ African Greenheart หรือมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Warburgia ugandensis สมุนไพรนี้เป็นส่วนหนึ่งของยาพื้นบ้านเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับ ปอดบวม โรคหอบหืด โรคมาเลเรีย หวัด ไซนัส อย่างแพร่หลาย ในอูกานดาและหลายประเทศในแอฟริกา
แทนซาเนีย
ก่อนเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดี John Magufuli ประกาศว่าแทนซาเนียจะใช้สมุนไพรเป็นหลักมากกว่าวัคซีนเพื่อป้องกันและเยียวยาประชาชนในประเทศของตน โดยสมุนไพรที่ใช้ทั่วไปในแทนซาเนียประกอบไปด้วย
-ขิง
-ส้ม
-พริกไทย
ซึ่งมักนิยมใช้ในการอบไอน้ำแล้วสูดกลิ่นเข้าไป
และ
-ตะไคร้
-โกฐจุฬาลัมพา
ซึ่งใช้ในการต้มดื่มหรือชงเป็นชา
อย่างไรก็ตามหลังการเสียชีวิตของประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีหญิง Kassim Majaliwa รักษาการผู้นำคนใหม่ประกาศเข้าร่วมโครงการของ WHO เพื่อนำวัคซีนมาใช้ในประเทศนอกเหนือจากการใช้สมุนไพรแต่เพียงอย่างเดียว
ซิมบับเว
รัฐบาลอนุมัติให้ใช้สมุนไพรที่มีชื่อเรียกว่า Zumbani หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lippia javanica ให้ใช้สำหรับผู้ป่วยจากไวรัส สมุนไพรชนิดนี้ใช้ในการรักษาไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ในซิมบับเวโดยหมอพื้นบ้านอย่างแพร่หลาย
คาเมรูน
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 รัฐบาลคาเมรูน โดย National Medical Commission ได้อนุมัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร “Corocur” เป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับรักษาผู้ป่วยจากไวรัสใหม่ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก ผลิตภัณฑ์นี้พัฒนาขึ้นโดยนายแพทย์และนักวิจัยชื่อ Euloge Yiagnigni Mfopou โดยมีองค์ประกอบหลักจากสมุนไพร " ไธม์" (Thymus vulgaris) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่ใช้กันทั่วไปในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ รัฐบาลยังได้อนุมัติยาสมุนไพร 2 ชนิด เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับการรักษาผู้ป่วยซึ่งพัฒนาโดยอาร์คบิชอบ Samuel Kleda แห่ง Douala diocese ซึ่งมีประสบกาณ์การวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรมานานกว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า "Elixir COVID" และ "Adsak COVID" อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยองค์ประกอบของสมุนไพร
เวเนซุเอลา
ประธานาธิบดี Nicolás Maduro สนับสนุนผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้ชื่อว่า “Carvativir” ยาสมุนไพรนี้โดยการหยอดใต้ลิ้นทุกๆ 4 ชั่วโมงเพื่อยับยั้งไวรัส โดยสมุนไพรหลัก 2 ชนิด คือ
-ไธม์ (Thymus vulgaris)
-Oregano (Origanum vulgare) เครื่องเทศที่ใช้ปรุงอาหาร ในหลายประเทศรวมทั้งในยุโรป
การใช้สมุนไพรเพื่อรักษาไวรัสระบาดยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน โดยเหตุผลร่วมคือหน่วยงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ และองค์กรของแพทย์แผนปัจจุบันจำนวนหนึ่งเห็นว่าการนำมาใช้ในหลายกรณียังไม่ผ่านขั้นตอนการวิจัยตามมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับ
อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรในท่ามกลางสถานการณ์การระบาดในหมู่ประชาชนทั่วโลกคาดว่าจะมีสัดส่วนมากยิ่งกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันเสียอีก ในสถานการณ์ที่ปัจจุบันทั้งวัคซีนและยาตามแบบแผนหลักมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องการเข้าถึง ราคา ประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงในระยะยาว ทั้งนี้โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงการฟื้นฟูสุขภาพหลังไวรัสทิ้งเอาไว้กับความเสียหายของอวัยวะต่างๆ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
