เชื้อสายในพระราชวงศ์
สยามนี้มีเรื่องเล่าตอนที่ 399
ตอนหน้าครบ 400 แล้วครับ
โดย ดร.สุวิจักขณ์ ภานุสรณ์ฐากูร
ครับแล้วก็ถึงเรื่องราวที่ผม ได้เกริ่นนำเอาไว้มาสัก 2 อาทิตย์ เกี่ยวกับเพื่อนของผม ซึ่งเคยทำงานอยู่ด้วยกัน แต่เราก็ไม่ได้เห็นกันมาหลายปี หลังสุดเขาบวชเป็นพระ อยู่ที่จังหวัดอยุธยา
ชื่อพระปู ถ้าใครได้มีโอกาส รู้จักหรือพบเจอ ช่วยบอกท่านด้วยผมติดต่อท่านไม่ได้
เรามาเริ่มกันเลยครับ 30 ปีมาแล้วที่ผมเริ่ม ต้นชีวิตจากการเป็นช่างซ่อมไฟฟ้า เพราะที่บ้านมีอาชีพเช่นนี้มาก่อน ทำให้ผมต้องออกจาก โรงเรียน ในชั้นมัธยมปีที่ 2 จากนั้นก็ไปต่อสายอาชีพเรียนที่โรงเรียนสารพัดช่าง พระนคร จบช่างไฟฟ้า และช่างแอร์ตู้เย็น
ในเวลาต่อราวปีพศ. 2530-2531 ผมได้มีโอกาสกลับไปเรียนจนจบ มัธยม 6 ที่โรงเรียนวัดธาตุทอง เรียนแบบนักศึกษาผู้ใหญ่และตรงนั้นเองที่ทำให้ผมได้พบกับเพื่อนคนนี้ เขาชื่อจริงว่า สุทธิชัย ดุริยะชีวิน
เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตรงนั้น ในขณะที่ ผมเองเริ่มมีครอบครัวตอนอายุ 22 และเริ่มสร้างครอบครัวด้วยกัน ทำอาชีพช่างรับเหมา เพื่อนของผมคนนี้ตอนหลังได้เข้า มาทำงานกับผมด้วย ผมฝึกเขาตั้งแต่ยังทำไฟไม่เป็น จนกระทั่งทำเก่งและเก่งกว่าผมซะอีก
ตอนนั้นกิจการผมไปได้ดี ก่อนยุคต้มยำกุ้งปี 2540 งานล้นมือ ผมเองก็ได้เพื่อนคนนี้ล่ะครับ ที่ทำงานให้ ส่วนผมวิ่งดูงานไปตามที่ต่าง ๆ วางลูกน้องเอาไว้เพื่อทำงาน ผมเองในเวลานั้นไม่ได้ทำงานที่จะต้องปีนป่ายอีกแล้ว วิ่งดูงานอย่างเดียว
จนกระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหลังจาก เหตุแห่งต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจพัง ชีวิตผมเปลี่ยน ครอบครัวด้วยเช่นกัน
เพื่อนผมไปอยู่กับพระ ซึ่งเป็นญาติกันที่อยุธยา ผมเองบวชและได้มีโอกาส ไปเยี่ยมเยียนเขา ที่วัดในอำเภอวังน้อย อีกทั้งยังได้จำวัดอยู่ที่นั่น 3 อาทิตย์ จากนั้นผมเดินทางขึ้นไปอยู่ที่เชียงใหม่ อยู่กับชาวม้ง อีกปีกว่าจึงสึก
ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ได้ทำอาชีพรับเหมาเหมือนแต่ก่อน ในขณะที่เพื่อนผมคนนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตเหมือนกัน เพราะหลังจากผมสึกเขาบวช และผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนเขาครั้งสุดท้ายเมื่อปีพศ 2554 (สิบปีมาแล้ว)
จากนั้นก็ไม่ได้เห็นกันอีกเลย เพราะติดต่อกันไม่ได้ และนี่คือชีวิตของเขาแบบย้อนต้นซึ่งผมไม่เคยเขียนบทความเช่นนี้มาก่อนเลย
คุณอาของเขาเป็นพระ หลังจากที่คุณอาบวชได้หลายปี คุณพ่อของเขาก็ตามไปบวชในวัดเดียวกัน และจำพรรษาอยู่ที่นั่นจนมรณภาพ
เมื่อ 10 ปีก่อน ที่ผมได้เจอเขาเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไปร่วมงานศพหลวงอา ซึ่งเคยเมตตาต่อผมครั้งที่ผม ไปจำวัดอยู่ที่นั่น
คุณอาและคุณพ่อของเขา เป็นลูกของหลวงไพเราะเสียงซอ กับ หม่อมเจ้ากริณานฤมล สุริยง โดยหม่อมเจ้าองค์นี้ คือพระธิดาใน
มหาอำมาตย์ตรี มหาเสวกตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส พระนามเดิม พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธุ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 51 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด เมื่อวันอังคาร เดือน 9 ขึ้น 7 ค่ำ ปีวอกฉศก จ.ศ. 1246 ตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 มีพระเชษฐาร่วมเจ้าจอมมารดา คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เมื่อคุณอาและคุณพ่อของเขา เป็นลูกของหม่อมเจ้า องค์นี้จึงเท่ากับว่าเป็นเหลนของรัชกาลที่ 5 ตัวเขาเองจึงนับว่าเป็นลูกของเหลนอีกทีหนึ่ง ระดับตามชั้นญาติเรียกว่า "ลื้อ"
และเนื่องจาก หากจะนับจากตัวเขาขึ้นไปถึงรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 5 นั้นมีศักดิ์เป็น
"คุณเทียด" ของเขา
อีกทั้ง ถ้าคุณย่าของเขา ไม่ใช่คุณย่าแต่เป็นคุณปู่ หลวงอาหลวงพ่อของเขา จะมีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมราชวงศ์ ส่วนตัวเขามีฐานันดรศักดิ์เป็นหม่อมหลวง
เท่าที่ไล่ลำดับชั้นขึ้นไปหวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านคงจะเข้าใจและไม่สับสนนะครับ เพื่อนผมคนนี้ มีความเป็นศิลปินในตัวมาก วาดรูปเก่ง ซึ่งในขณะนี้ผมกำลังหันกลับมาวาดรูป
คือชอบทางด้านนี้แต่ไม่ค่อยมีเวลา ปัจจุบันนี้ มีเวลามากขึ้นจึงอยากจะ ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ หากเพื่อนผมยังคงได้ติดต่อกัน เขาคงแนะนำ ในเรื่องของการวาดรูปให้กับผมได้หลายอย่างทีเดียว นอกจากนั้นเขายังเล่นดนตรีได้ เหมือนกับคุณปู่ของเขา ซึ่งเป็นนักดนตรีหลวง
ครับก็หวังว่าเราจะได้พบกัน และผมคิดว่าหากมีโอกาสได้ผ่านไปแถววังน้อย ผมจะลองเข้าไปหาเขาดูเผื่อจะพบ สำหรับประวัติในวันนี้ ผมคงจะได้กล่าวถึงมหาอำมาตย์ตรี มหาเสวกตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส แต่พอสังเขป แต่ก่อนที่จะถึงประวัติของท่าน ขอบอกไว้ก่อนว่าท่านเป็น พระอนุชาใน เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งผมเคารพรักเป็นอย่างสูงด้วย
อันหนึ่ง นามสกุลสุริยงนั้นยังมีดาราท่านหนึ่ง อายุมากกว่าผม 5 ปีคือเธอเกิดปีพศ 2505 หม่อมหลวงสุรีย์วัล สุริยง ปัจจุบันนี้เป็นนักข่าว เป็นข่าวทางด้านกีฬา แต่ผมก็ไม่เห็นในจอทีวีนานแล้วเหมือนกัน เอาเป็นว่าหากนามสกุลสุริยงนั้น ต้นตระกูลมาจากพระองค์เจ้าท่านนี้นั่นเอง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส ประสูติเมื่อวันอังคาร เดือน 9 ขึ้น 7 คํ่า ปีวอกฉศก จ.ศ. 1246 ตรงกับ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 51 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ป.จ. มีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินี 2 พระองค์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรองค์อรรคยุพา
พระประวัติการศึกษาแก้ไข
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาสเสด็จไปศึกษาต่อที่ทวีปยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2440 ทรงศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาแล้วกลับมาผนวชเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
พระประวัติรับราชการ
หลังจากลาผนวช ทรงรับราชการจนได้เป็นมหาอำมาตย์ตรี ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดทูลฉลองกระทรวงพระคลังมหาสมบัติอธิบกรมสำรว]และอธิบดีโรงกษาปณ์
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมที่ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส เมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457 พระองค์ทรงรับราชการตำแหน่ง มหาเสวกตรี ผู้ตรวจการกรมศิลปากร ซึ่งเป็นกรมที่ตั้งขึ้นใหม่ โดยโอนกิจการของกรมช่างมหาดเล็ก จากกระทรวงวัง และกรมพิพิธภัณฑ์ จากกระทรวงธรรมการ นอกจากนี้ยังทรงดำรงตำแหน่งองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรค อหิวาตกโรค เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2462 พระชนมายุได้ 34 ปี 277 วัน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
