Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดร.สุวิจักขณ์ ต้นสาระ รวมเรื่องสาระ
•
ติดตาม
8 ก.ย. 2021 เวลา 19:37 • ประวัติศาสตร์
"คำของเสด็จเตี่ย"
สยามนี้มีเรื่องเล่าตอนที่ 408
โดย ดร. สุวิจักขณ์ ภานุสรณ์ฐากูร
รูปนี้ผมวาดเสร็จแต่เมื่อคืนในขณะทำงานไปด้วย ความตั้งใจแรกคือ อยากจะ วาดรูปนี้ให้เสร็จพร้อมกับ บทความซึ่งลงไปให้อ่านกัน คือบทความ "เรือนหมอพร" แต่ บทความเสร็จแล้วรูปยังไม่ได้วาด เกรงว่าจะรอนาน จึงรีบลงไปให้อ่านก่อน รูปค่อยวาดทีหลัง
แต่พอวาดไปก็มีไอเดียเกี่ยวกับบทความอีก โดย ไม่ต้องใช้บทความเดิม ดังนั้นแล้ว ผมจึงขอเริ่มบทความใหม่เลย
รูปของกรมหลวงชุมพร ที่มีอยู่ตามสื่อออนไลน์มีอยู่หลายรูป แต่ทำไมผมถึงเลือกเอารูปนี้ขึ้นมาวาด ที่เป็นรูปนี้เพราะว่า ดวงตาของพระองค์ท่าน มีความมุ่งมั่นมาก อะไรขณะนั้น ผมว่าพระชนม์ยังไม่ถึง 20 ปีเป็นแน่
เขาว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ผมรู้สึกถึงน้ำพระทัย ที่มีอยู่ในพระเนตรของพระองค์ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ จึงตั้งใจจะวาดภาพนี้
ส่วนรูปอื่น โดยเฉพาะรูปของพระองค์ท่านที่ฉลองพระองค์ในชุดธรรมดา สำหรับผม ดูว่า พระเนตรของพระองค์ เปี่ยมด้วยเมตตา ซึ่งเป็น พระเนตรที่แตกต่างจากพระเนตรที่มีความมุ่งมั่น
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคนที่เห็นรูปจะมีความคิดเห็นอย่างนั้นหรือไม่
ดังนั้นเมื่อใช้รูปนี้เป็นแบบ ผมจึงมีคำจารึกของพระองค์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ มาให้ได้อ่านกัน อีกทั้ง บทเพลงที่พระองค์ได้ทรงนิพนธ์เอาไว้ ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นเช่นเดียวกัน ลองอ่านกันดูนะครับ
บันทึกกรมหลวงชุมพร
จารึกที่หัวเรือรบหลวงจำลอง
ประดิษฐานอยู่ที่ศาลของพระองค์ท่าน
ณ หาดทรายรี จ.ชุมพร
"เจอบันทึกนี้ให้เอาคำต่อไปนี้ของ กูไปประกาศให้คนรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์. ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราชขอประกาศให้พวก มึง รับรู้ไว้ว่า.แผ่นดินสยามนี้บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้. ไอ้อี่ มันผู้ใดคิดบังอาจทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์. ฤา กระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม.จงหยุด !การกระทำนั้นเสียโดยเร็วก่อนที่ กู จะสังหารผลาญสิ้นทั้งโคตร.ให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของ กู.ตราบใดที่คำว่า" อาภากร "ยังยืนหยัดอยู่ในโลกกู จะรักษาแผ่นดินสยามของกู.
ลูก หลาน ทั้งหลายแผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา.
แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอนให้ความร่มเย็นเป็นสุข.มิให้อนาทรร้อนใจจงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น".
คำจารึกนี้ผมได้ไปอ่านมาด้วยตัวเอง เพราะ เคยได้ไปในสถานที่ ซึ่งพระองค์สิ้นพระชนม์ ในจังหวัดชุมพร มาก่อน
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (2423-2466) องค์บิดาของทหารเรือไทยทรงพระปรีชาวิชาการต่างๆ หลายแขนง หนึ่งในนั้นคือ ความสามารถทางดนตรี เมื่อเข้ารับราชการทหารเรือ นอกจากพระองค์ทรงมานะปรับปรุงกองทัพเรือให้เป็นทหารเรือแบบใหม่แล้ว ยังทรงนิพนธ์เพลงปลุกใจให้นักเรียนนายเรือร้องเมื่อเข้าแถวสวดมนต์ไหว้พระตอนค่ำ และเวลาเดินทางไกล เช่น เพลงดอกประดู่, เพลงเดินหน้า, เพลงดาบของชาติ ฯลฯ
สำหรับ “เพลงดอกประดู่” ที่ทรงนิพนธ์ทั้งเนื้อร้องและทำนอง ในส่วนทำนองนั้น แม้มีต้นเค้าจากเพลง Auld Lang Syne และ เพลง Comin’ Thro’ the Rye แต่หลายตอนทรงนิพนธ์ขึ้นใหม่ จึงแตกต่างจากทั้ง 2 เพลง
ส่วนเนื้อร้องนั้น จากชีวิตของทหารเรือ จากประสบการณ์ของพระองค์ที่ทรงนำทหารออกฝึกภาคทะเล และแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ ร.ศ. 112 สันนิษฐานว่าทรงพระนิพนธ์ขึ้นในช่วงที่ทรงออกจากราชการ ในสมัยต้นรัชกาลที่ 6
เนื้อเพลงมีดังนี้
เพลงดอกประดู่
หะเบสสมอ พลัน ออกสันดอนไป ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ เที่ยวหาข้าศึก มิได้นึกจะกลับมาใน ถึงตายตายไป ตายให้แก่ชาติของเรา
พวกเราดูรู้เจ็บแล้วต้องจํา ลับดาบไว้พลาง ช้างบนยอดกาฟฟ์ จะนํา สยามเป็นชาติของเรา ธงทุกเสาชักขึ้นทุกลํา ถึงเรือจะจมในนำ ธงไม่ต่ำลงมา
เกิดมาเป็นไทย ใจร่วมกันแหละดี รักเหมือนพี่เหมือนน้อง ช่วยกันป้องปฐพี สยามเป็นชาติของเรา อย่าให้เขามามายี ถึงตายตายให้ดี ตายในหน้าที่ของเรา
พวกเราทุกลํา จําเช่นดอกประดู่ วันไหนวันดี บานคลี่พร้อมอยู่ วันไหนร่วงโรย ดอกโปรยตกพรู ทหารเรือเราจงดู ตายเป็นหมู่ให้ชาติไทย
เนื้อร้องเพลงพระนิพนธ์ดังกล่าวที่ว่า “หะเบสสมอ” นั้น เป็นศัพท์ทหารเรือไทย เป็นคําภาษาจาม แปล ว่า ถอนสมอเรือ, “กระโจมไฟ” คือหอประภาคาร ในที่นี้หมายถึงกระโจมไฟ ที่แหลมงอบ อําเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด,
“พวกเราจงดูรู้เจ็บแล้วต้องจำ” (บ้างว่าเป็น “พวกเราจงดูรู้เจ็บแล้วต้องจำ”) เป็นการย้ำเตือนให้จดจำวิกฤติการณ์ ร.ศ. 112, “กาฟฟ์” (Gatt) คือเสาสำหรับชักธงประจำเรือที่ตอนกลางเรือ เมื่อชักธงชาติขึ้นที่เสานี้ แสดงว่าเรือลำดังกล่าวกำลังประจำสถานีรบ ช้างบนยอดกาฟฟ์ หมายถึง รูปช้างเผือกในธงราชนาวีไทย
ส่วนเนื้อเพลงท่อนสุดท้ายและชื่อเพลง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงใช้ธรรมชาติของประดู่ เวลาออกดอกจะค่อยๆ บานและโรยพร้อมกันทั้งต้น จึงทรงเลือกใช้ “ประดู่” แทนความรักสามัคคีของเหล่าทหารเรือ อันเป็นที่มาการเปรียบเทียบตนเองของทหารเรือไทยว่าเป็น “ลูกประดู่”
พระองค์สถิต ณ.กลางใจเสมอ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย