10 ก.ย. 2021 เวลา 05:09 • หนังสือ
📚 รีวิวหนังสือ “Surrounded By Idiots” ทำไมถึงมีแต่คนงี่เง่ารอบตัวเรานะ! 📚
Surrounded By Idiots 🔴🟡🟢🔵
เขียนโดย Thomas Erikson
ในสังคมที่เราอยู่ทุกคนคงเคยเจอคนที่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมคนนี้ถึงเป็นคนแบบนี้? ทำไมถึงทำแบบนี้? ทำไมถึงคิดแบบนี้? และอีกหลาย ๆ ทำไมเลยใช่ไหมครับ
หลายต่อหลายครั้งเราก็มักคิดว่า คน ๆ นี้ทำไมมันงี่เง่าแบบนี้ ! ทำไมคนนี้มันไม่ได้เรื่อง ! อะไรทำนองนี้ ซึ่งผมจะบอกว่าคุณก็คือคนปกติทั่วไปครับ 555 ทุก ๆ คนก็ต้องเคยมีความคิดแบบนี้บ้างแหละรวมทั้งตัวผมเองด้วย
👉🏻 เอาเข้าจริงแล้ว ปัญหาเรื่อง”คน” นี่เป็นปัญหาคลาสสิคตลอดกาลที่ทุกคนต้องเจอไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่ทำงานก็ตาม จนหลาย ๆ คนไปคิดว่า ทำไมรอบตัวของเราถึงมีแต่คนงี่เง่ากันนะ? หรือสุดท้ายเป็นเราเองที่งี่เง่ากันแน่? (สภาพพพ !)
💡 เหตุผลหลักเลยที่เรามักจะไม่ชอบคนบางประเภท เพราะคนเหล่านั้น “ไม่เหมือนเรา” ครับ เรานั้นมักจะชอบ หรือ ถูกคอกับคนที่มีลักษณะ หรือความคิดคล้าย ๆ กับเราอยู่แล้ว ส่วนคนที่แตกต่างจากเรามาก ๆ เราก็จะไม่ค่อยชอบหรือรู้สึกว่าคุยไม่ถูกคอซักเท่าไหร่
คนเรานั้นมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกัน ซึ่งหลาย ๆ ตัวแปรก็มีผลตั้งแต่การถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน สภาพแวดล้อม สภาวะรอบข้าง หรือแม้กระทั่งคนรอบ ๆ ข้าง ก็มักจะมีผลต่อบุคลิกลักษณะและวิธีการคิดของเราครับ
⭐️ หนังสือเล่มนี้ “Surrounded by Idiots” เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งเลยที่โด่งดังอย่างมาก โดยเค้าโปรยเอาไว้ว่าขายไปแล้วกว่า 2.5 ล้านเล่มทั่วโลก !! (รวมทั้งมีแปลไทยแล้วด้วยนะครับ ชื่อว่า “วิธีเอาตัวรอดในวงล้อมคนงี่เง่า”) นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังถูกแนะนำโดยคนมีชื่อเสียงหลายท่านเลยนะครับ
ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะมาอธิบายให้เราฟังว่า คนเรานั้นมีความแตกต่างกันโดยเค้าจะใช้เครื่องมือตัวหนึ่งที่เรียกว่า “DISC” ซึ่งย่อมาจาก Dominance, Influence, Stability และ Compliance มาจำแนกลักษณะของคนเราออกเป็น 4 แบบ โดยเค้าใช้สีต่าง ๆ แทนคน 4 ประเภท ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีเขียว และสีน้ำเงิน
ซึ่งคนเราส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของบุคลิกลักษณะมากกว่า 1 สีผสมกันอยู่ ซึ่งแต่ละสีมีลักษณะอย่างไรบ้างและเราจะรับมือกับคนแต่ะสีอย่างไรกันดี หนังสือเล่มนี้จะมีแนวทางและเทคนิคต่าง ๆ มาบอกเราครับ
……………..
“สีแดง” 🔴
ลักษณะของกลุ่มคนสีแดงคือ จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำ กล้าตัดสินใจ ทะเยอะทะยาน ชอบความท้าทาย เน้นผลลัพธ์เป็นหลัก
ข้อเสียของคนกลุ่มนี้คือ จะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ใจร้อน โมโหง่าย ไม่ค่อยสนใจเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น 😩
หากเราลองสังเกตพฤติกรรมที่กล่าวไว้ข้างต้นจะเห็นว่า ในองค์กรกลุ่มคนลักษณะแบบนี้มักจะมีเยอะในระดับหัวหน้าหรือผู้บริหารเนื่องจากลักษณะของการมีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาตินั่นเอง (ที่ทำงานใครมีหัวหน้างานแบบคนสีแดงบ้างครับ คอมเม้นแชร์กันได้เลยนะครับว่าเป็นตามที่หนังสือบอกหรือเปล่า)
ถามว่าวิธีรับมือกันคนกลุ่มสีแดงนี้เราต้องทำอย่างไรดีครับ?
อย่างแรกเลยถ้าอยากให้คนสีแดงพอใจ คุณต้องทำอะไรรวดเร็ว ตรงประเด็นแบบที่เค้าชอบครับ โดยเฉพาะหากต้องทำงานร่วมกันแล้วเค้าดันเป็นหัวหน้าเราด้วย คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณทำงานเร็ว เสร็จตามกำหนด แต่จากข้อเสียของคนกลุ่มนี้คือเค้าจะไม่ลงรายละเอียดมาก ดังนั้นคุณจึงควรเก็บเรื่องรายละเอียดไว้ทำทีหลัง แต่ทำสิ่งทีได้รับมอบหมายให้เห็นผลลัพธ์มากกว่าหรือทำให้เค้าเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนก่อน เพราะคนกลุ่มนี้เค้าใจร้อนมากและชอบที่จะเห็นผลลัพธ์ไว ๆ
อีกอย่างที่สำคัญที่หนังสือบอกไว้ คือ ถ้าเราบังเอิญไปมีความขัดแย้งกับคนกลุ่มนี้ให้เราถอยออกมาตั้งหลักก่อน หากไม่อยากให้ความขัดแย้งลุกลามไปใหญ่โตเพราะคนสีแดงจะไม่ค่อยยอมใครและต้องการเอาชนะ ให้เรารอให้อารมณ์ของอีกฝ่ายเย็นลงแล้วค่อยกลับมาคุยด้วยเหตุด้วยผลและประโยชน์ที่จะได้ต่อผลลัพธ์ของงานจะได้ผลที่ดีกว่าครับ เพราะคนสีแดงนั้นชอบที่จะเอาผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง
……………..
“สีเหลือง” 🟡
ลักษณะของกลุ่มคนสีเหลืองก็คือจะเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบเข้าสังคม มองโลกในแง่ดี ร่าเริง ใช้สัญชาตญาณในการตัดสินมากกว่าการใช้เหตุผล และที่สำคัญ และเด่นชัดเลย คือ พูดเก่ง และพูดไปได้เรื่อย ๆ พูดจนลิงหลับ 555 (เคยเจอกันบ้างไหมครับ ?)
แต่ว่าข้อเสียของคนกลุ่มนี้ก็คือ เพราะว่าเป็นคนที่พูดเก่ง ทำให้ไม่ค่อยจะสนใจฟังคนอื่นสักเท่าไหร่ และมักจะยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล นอกจากนี้การที่ชอบใช้สัญชาตญาณมากกว่าเหตุผลนั้น ทำให้บางเรื่องที่คนกลุ่มนี้คิดอาจจะไม่ค่อยสมเหตุผลซักเท่าไหร่ 🥲
ส่วนวิธีรับมือกันคนกลุ่มนี้ที่เด่นชัดเลยคือ เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีครับ ส่วนเรื่องงานนั้น คนสีเหลืองจะไม่ค่อยสนใจในเรื่องของรายละเอียดมากนัก แต่ชอบที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ท้าทาย หรืออะไรที่เน้นในเรื่องของการจินตนาการ หากเราต้องทำงานกับคนกลุ่มนี้ ก็ต้องเน้นเรื่องความสัมพันธ์เป็นหลักก่อน เค้าจะชอบครับ นอกจากนี้เราอาจจะต้องคอยติดตามความก้าวหน้าของคนกลุ่มนี้บ่อยนิดนึงเนื่องจากเค้ามักจะชอบพูดไปก่อนมากกว่าลงมือทำ หากอยากให้เค้าทำอะไรให้เราลองเล่าให้เค้าเห็นภาพถึงสิ่งที่เค้าจะได้รับหากทำสำเร็จ เช่น การเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน อะไรประมาณนี้ครับ
……………..
“สีเขียว” 🟢
ลักษณะของคนกลุ่มสีเขียวนี้มักจะเป็นคนกลาง ๆ เป็นคนส่วนใหญ่ก็ว่าได้ เป็นคนที่อะไรก็ได้ ไปได้เรื่อย ๆ มีความอดทนสูง ไม่ชอบความขัดแย้ง ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงหรือความท้าทายอะไรมากมาย
ซึ่งจากลักษณะของคนกลุ่มนี้จะเป็นอะไรง่าย ๆ สบาย ๆ ก็มักจะมีข้อเสียคือไม่ค่อยเด็ดขาด มักจะลังเล ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจเท่าไหร่ และมักจะยึดติด ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แถมดื้อเงียบ แตกต่างจากคนสีแดงกับสีเหลืองที่มักจะสุดโต่งไปในด้านใดด้านหนึ่งและชอบแสดงออกอย่างชัดเจน! 😑
ส่วนวิธีรับมือกับคนกลุ่มสีเขียวนี่ก็คือ หากเราอยากให้คนกลุ่มนี้ทำอะไรเราอาจจะต้องให้คำสั่งที่ชัดเจนและเป็นขั้นเป็นตอนเลยนะครับ บอกเลยว่า 1 2 3 ต้องทำอะไร เพราะคนกลุ่มนี้อาจจะไม่ใช่คนที่ลุกขึ้นมาทำอะไรเอง หรือริเริ่มอะไรใหม่ ๆ อย่างคนกลุ่มสีแดงหรือเหลืองที่เล่าไปข้างต้นครับ อีกอย่างคือคนกลุ่มนี้ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ หรือเสนอตัวอะไรเท่าไหร่ จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะให้คนกลุ่มนี้ออกไปนำเสนองานหรือพูดในที่สาธารณะ
……………..
“สีน้ำเงิน” 🔵
ลักษณะที่โดดเด่นเลยของคนกลุ่มนี้คือ เป็นคนที่มีความละเอียดรอบคอบมาก ๆ แทบจะ perfectionist เลย เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เป็นคนใส่ใจในรายละเอียด ชอบคิดวิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผล ชอบการอยู่กับข้อมูลต่าง ๆ แต่ !!
ข้อเสียของคนกลุ่มนี้ก็คือ ไม่ค่อยสนใจในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่นเท่าไหร่ และที่สำคัญเนื่องจากเป็นคนที่คิดทุกอย่างอย่างละเอียดรอบคอบ ก็จะเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรช้า ต้องรอข้อมูลที่แน่นอนก่อน ไม่กล้าเสี่ยง 🧐
วิธีรับมือกับคนกลุ่มสีน้ำเงินหากคุณต้องคุยงานกับคนกลุ่มนี้คือ คุณต้องเตรียมตัว เตรียมข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหลายมาอย่างดีก่อนไปคุยกับคนกลุ่มนี้ เพราะจะโดนถามถึงรายละเอียดมากมาย ที่สำคัญคุณควรมีการคิดแผนรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ดี หากอยากให้คนกลุ่มนี้ตัดสินใจอะไรเร่งด่วน เช่น เราต้องการเอางานไปพรีเซ็นต์เพื่อขออนุมัติเร่งด่วน เราต้องเตรียมข้อมูลไปให้พร้อมที่สุด ขนมาให้หมดครับ Plan A B C D รวมทั้งอธิบายให้เขาเข้าใจว่าทำไมถึงต้องรีบตัดสินใจ มันจะกระทบอะไรต่อคุณภาพของงานแบบไหน เพราะหากเราไม่ทำแบบนี้ คนกลุ่มนี้มักจะขอเวลาไปดูข้อมูลให้ดีก่อนจะตัดสินใจ… คุ้น ๆ ไหมครับ คนประเภทนี้ 555
……………..
ถามว่าแล้วในการทำงานด้วยกันคนกลุ่มสีไหนจะทำงานได้ดีที่สุด?
ในหนังสือได้เล่าถึงการทดลองหนึ่งครับที่มีการแบ่งกลุ่มคนเป็นแต่ละสีแล้วให้ทำงานกลุ่มและออกมานำเสนอ เราลองนึกตามซิครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
🔴 กลุ่มแรกที่มีแต่กลุ่มคนสีแดง ก็มีการพูดคุยออกความเห็นของใครของมันกันเยอะมากกกกก เสียงดัง และเกิดการถกเถียงกันเยอะ แต่ไม่ต้องแปลกใจครับ คนกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มแรกที่ทำงานเสร็จ และออกมานำเสนอเป็นกลุ่มแรกด้วยความมั่นใจ แต่ปัญหาคือกลุ่มนี้แก้ปัญหาไม่ตรงโจทย์ที่ให้ไปซักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ได้อ่าน instruction ให้ชัดเจนและรีบเร่งทำมากเกินไป
1
🟡 กลุ่มที่สองที่เป็นสีเหลือง กลุ่มนี้มีการทำงานร่วมกันอย่างสนุกสนานและมีแต่รอยยิ้ม มีการแย่งกันแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย แต่เป็นกลุ่มที่ทำงานเสร็จเป็นกลุ่มสุดท้ายเนื่องจากใช้เวลาพูดคุยกันเสียเยอะ และตอนออกไปนำเสนองานก็แทบจะแย่งกันพูด แต่เป็นกลุ่มที่นำเสนอได้ดีมาก ๆ ตื่นตาตื่นใจ คนฟังก็เพลิดเพลินและมีเสียงหัวเราะ แต่พบว่ากลุ่มนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาโจทย์ที่ให้ไปได้ หรือทำงานไม่เสร็จนั่นเองครับ
🟢 กลุ่มที่สามที่เป็นกลุ่มสีเขียว ในการทำงานร่วมกันภายในกลุ่มนั้นเงียบมาก และไม่ค่อยมีคนพูดแสดงความเห็นซักเท่าไหร่ ตอนจะต้องออกมานำเสนอก็ใช้เวลาสักพักกว่าจะตกลงหาคนขึ้นมาพูดได้ ซึ่งการนำเสนอก็เป็นไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและคนพูดก็มีความตื่นเต้นมาก ๆ แต่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทำงานได้สำเร็จนะครับ
🔵 มาถึงกลุ่มสุดท้ายที่เป็นกลุ่มสีน้ำเงิน ในกลุ่มนี้ก็ค่อนข้างเงียบเช่นกัน คือ ต่างคนต่างนั่งอ่านรายละเอียดต่าง ๆ และใช้เวลาจำนวนมากในการวางแผน จนเวลาผ่านไปครึ่งทาง กลุ่มนี้ก็ยังไม่ได้เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ในตอนนำเสนอนั้นกลุ่มนี้มีการเตรียมพรีเซ็นเทชั่นมาอย่างดี มีการเรียบเรียงหัวข้อที่ดี มีการอธิบายรายละเอียดมากมายเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของปัญหาและข้อมูลที่ได้รับ สุดท้ายกลุ่มนี้ก็ไม่สามารถทำงานหรือแก้ปัญหาทีให้ไปสำเร็จ โดยบอกว่าต้องการเวลาเพิ่ม
👉🏻 ซึ่งวัตถุประสงค์ของการทดลองครั้งนี้ ก็คือ เพื่อที่จะให้เราได้เห็นว่า ไม่มีกลุ่มใดหรอกครับที่เป็นคนลักษณะเดียวกันหมดแล้วทำได้ดี การมีคนที่มีลักษณะที่แตกต่างกันน่าจะเป็นส่วนผสมที่ดีกว่าในการทำงานเป็นทีมร่วมกัน เพราะแต่ละสีก็มีจุดแข็ง จุดอ่อนที่แตกต่างกันออกไป การมาช่วยเติมเต็มกันจะช่วยทำให้ได้ทีมที่ดีกว่า
ผมเคยเห็นที่ทำงานบางที่เค้าให้ทุกคนทำแบบทดสอบออกมาว่าคุณเป็นคนแบบไหน และติดสติ๊กเกอร์แต่ละสีเอาไว้ที่แต่ละคนเลยครับ เวลาเราเดินไปคุยกับใครจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน เราควรพูดคุยอย่างไร ผมว่าวิธีนี้ก็มีส่วนช่วยเหมือนกันครับ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยให้เราเตรียมตัวให้ดีก่อนก่อนเดินเข้าไปพูดคุยกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อนครับ
หรือ อย่างปรัชญาที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ครับ 😁
……………..
📌 นอกจากลักษณะนิสัยต่าง ๆ ของคนแต่ละสีแล้วหนังสือเล่มนี้ยังให้รายละเอียดถึงวิธีการสื่อสารกับคนแต่ละสีด้วยนะครับ เช่น การจะบอกข่าวร้ายกับคนแต่ละสีควรทำอย่างไร การเขียนสื่อสารกับคนแต่ละสี รวมไปถึงอากัปกิริยาท่าทางของคนแต่ละสีที่แสดงออกเวลาพูดคุยกับเรา ซึ่งแนะนำว่าให้ลองไปหาอ่านต่อกันดูนะครับ
💡 อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นครับว่าเรื่องของการเข้าใจคนแต่ละประเภทนั้นมีประโยชน์กับการใช้ชีวิตของเรามาก ๆ ครับ การที่เราเข้าใจคนอื่นที่แตกต่างจากเราทำให้เราสามารถสื่อสารกับเค้าได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น หากเราต้องการสื่อสารบางอย่างให้กับคนกลุ่มสีแดง แต่เราเล่าเรื่องแบบชักแม่น้ำทั้งห้า วนไปวนมา คนสีแดงก็จะไม่ชอบและไม่ให้ความสนใจครับ
นอกจากนี้ในการทำงานเป็นทีมของเรา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ หากเราต้องเลือกใครมาทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งในโครงการหรือทีมของเรา การที่เราเลือกคนที่มีลักษณะที่เหมาะสมกับลักษณะงานนั้น ๆ ก็จะมีส่วนช่วยให้งานบรรลุผลได้ดีขึ้น การเข้าใจคนที่แตกต่างกันนอกจากจะทำให้เราสื่อสารได้มีประสิทธิภาพแล้วยังทำให้ความสัมพันธ์ภายในทีมดียิ่งขึ้น ❤️💛💚💙
📍 ที่สำคัญมันยังทำให้ตัวเราเองนั้นอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องคอยมานั่งคิดแต่ว่าทำไมรอบตัวเราถึงมีแต่คนงี่เง่าครับ 🙂
#SurroundedByIdiots #BookReview #รีวิวหนังสือ #สิงห์นักอ่าน
ป.ล. ถ้าไม่อยากพลาดการติดตามการรีวิวหนังสือดี ๆ แบบละเอียดยิบ ฝากกด Like กดติดตามเพจ รวมถึงยังติดตามได้อีกหนึ่งช่องทางใน facebook page : สิงห์นักอ่าน
โฆษณา