15 ก.ย. 2021 เวลา 12:20 • หนังสือ
ต้องถามตัวเองอย่างไร?...ในวันที่ไร้พลัง
1.
คนอยู่ในสปอตไลท์มักถูกคาดหวังให้แข็งแกร่งตลอด ...ซึ่งไม่จริงเลย ใครทำได้แบบนั้น เขาย่อมไม่ใช่คน หรือใครเที่ยวบอกว่าฉันทำได้ ฉันแข็งแกร่งเสมอ ร่าเริงตลอดศก ขอให้รู้ไว้เลยว่าถ้าไม่โกหก ...เขาก็บ้าไปแล้ว
3
ผมมีทั้งโมเม้นต์ที่ทรงพลัง และโมเม้นต์ที่ไร้พลังเหมือนทุกคน แต่โจทย์อยู่ที่ว่าเมื่อตอนไร้พลัง และสติกลับมา ผมจะถามตัวเองว่าฉันจะดึงอารมณ์กลับมาได้อย่างไร?
ภาพถ่ายโดย Jack Gittoes จาก Pexels
อารมณ์นั้นควบคุมเรา เราจึงต้องควบคุมอารมณ์กลับ และชุดคำถามที่ผมใช้ถามตัวเองก็คือ
1. ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกอย่างไร?
2. ฉันชอบหรือไม่ที่รู้สึกแบบนี้? ทำไมไม่ชอบ?
3. ถ้าไม่ชอบ แล้วฉันอยากรู้สึกแบบไหน?
4. แล้วจะทำอย่างไรให้รู้สึกแบบที่อยากรู้สึก?
คนส่วนใหญ่ปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่ รู้สึกเศร้าใช่ไหม? เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเศร้าให้สุด ๆ เปิดเพลงเศร้า ๆ ฟังตอกย้ำตัวเอง อยู่คนเดียว ไม่คุยกับใครทั้งวัน เคลื่อนไหวน้อย ๆ นั่งอยู่แต่ในห้อง นั่นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ ...ตอกย้ำให้สถานการณ์แย่ไปใหญ่
ก็ในเมื่อเราไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น คำถามก็คือแล้วเราจะสนับสนุนมันไปเพื่ออะไร?
2.
สิ่งที่เราควรทำคือ "ขัดขวาง" ความรู้สึกแบบนั้นต่างหาก ไม่ใช่ไปสนับสนุนความรู้สึกแบบนั้น จงอย่ายอมรู้สึกแบบที่เราไม่ชอบ ลองทำทุกวิถีทางที่ความรู้สึกแบบนั้นไม่ชอบ เช่น หาอะไรสนุก ๆ ทำ ดูหนังที่ชอบ เดินไปเดินมา ออกกำลังกายให้เหนื่อย อย่าเอาแต่นั่งจับเจ่าอยู่กับที่ ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ให้ชื่นใจ (ไม่ใช่ของมึนเมา) ไม่นาน...อารมณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นมาเอง
ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายถึง ฉันจะไม่ยอมรู้สึกเศร้าเลยสักนิด เศร้าได้ ไร้พลังได้ ...แต่อย่าให้นาน เพราะความรู้สึกเป็นเรื่องของพลังงาน และพลังงานลบ ๆ นั้นไม่น่าคบด้วยเท่าไร
ยิ่งมีพลังลบ จะยิ่งดึงเรื่องลบ ๆ เข้ามาอีก
3.
เขียนถึงเรื่องนี้ ทำให้ผมนึกอีกประเด็น ประเด็นนี้ครับ..."คนระดับพลังงานเดียวกัน ดึงดูดกันเอง"
ถ้าเราไม่ชอบคนที่พบเจออยู่เป็นประจำ เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้า แฟน หรือใครก็ตาม เป็นไปได้สูงว่า
เพราะเราอยู่ "ระดับพลังงาน" เดียวกับพวกเขา เราจึงได้พบเจอกันอยู่ร่ำไป
1
หลายครั้งที่ผมอดขำแบบตลกร้ายไม่ได้ เมื่อนาย A มาบอกผมว่า ฉันไม่ชอบนาย B และให้เหตุผลว่านาย B เป็นคนแบบนี้แบบนี้ นิสัยแย่อย่างนั้นอย่างนี้...ก็ว่าไป
ที่บอกว่าผมขำก็คือ สิ่งที่นาย A พูดถึงนิสัยนาย B นั้น มันช่างเหมือนนิสัยของนาย A เป๊ะเลย
วิธีการหลุดออกจากคนที่เราไม่ชอบ จึงไม่ใช่การนินทาเขาเหล่านั้น ไม่ใช่การพยายามไปเปลี่ยนคนอื่น แต่ต้องเปลี่ยน
"ระดับพลังงาน" ของตัวเอง
1
พูดแล้วเข้าใจยาก อะไรคือระดับพลังงาน? เอาเป็นว่าสั้น ๆ อธิบายแบบบ้าน ๆ มันคือผลรวมของทั้ง "ความรู้" และ "ความรู้สึก"
1
เริ่มจาก "ความรู้" ถ้าเราหมั่นพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ปล่อยเวลาไปเปล่าประโยชน์ คบหาผู้คนใหม่ ๆ ที่ใฝ่ดีกับชีวิต ...เท่านี้เราก็จะเริ่มห่างจากคนกลุ่มเดิม ๆ
1
ต่อมาคือ "ความรู้สึก" ถ้าเราหมั่นควบคุมความรู้สึก ให้เป็นคนที่รู้สึกดีบ่อย ๆ จิตใจแจ่มใส ห่างไกลการจับกลุ่มนินทา เลิกเสพข่าวร้าย มีความสำนึกรู้คุณ ขอบคุณให้เก่ง กินอาหารดี ออกกำลังกายเสมอ นั่งสมาธิ ว่ายน้ำ ดูปะการัง อะไรก็ว่าไป
...เท่านี้เราก็จะเริ่มห่างจากคนกลุ่มเดิม
4.
และเรื่องราวที่เกิดหลังจากนั้นก็คือ เมื่อวันที่ระดับพลังงานของเราสูงพอ นอกจากจะไม่พบเจอคนกลุ่มเดิมแล้ว ยังจะได้พบเจอคนที่ระดับพลังงานใหม่
ฟังแล้วดูมหัศจรรย์ NLP พลังจิตใต้สำนึก บลา บลา บลา แต่นี่คือเรื่องจริงจากประสบการณ์ของผม ไม่ใช่การอ่านจากตำราหรือเข้าสัมมนา เมื่อเปลี่ยน "ความรู้" และ "ความรู้สึก" โลกของผมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
2
ย้ำอีกทีว่า วิธีการหลุดออกจากคนที่เราไม่ชอบ ไม่ใช่การนินทาเขาเหล่านั้น ไม่ใช่การพยายามไปเปลี่ยนคนอื่น แต่เราต้องเปลี่ยน "ระดับพลังงาน" ตัวเอง
1
ไม่มีใครสุขล้นไปทุกนาทีหรอกครับ แต่โจทย์มันอยู่ที่ว่า...เราจะกลับมาแดนบวกได้เร็วแค่ไหน
หวังว่าชุดคำถามที่ผมเขียนถึงในตอนต้น จะพอช่วยเรียกสติกลับมาได้ ...สู้ ๆ ครับ ผมเป็นกำลังใจให้
แล้ววันไหน ที่ผมต้องการกำลังใจ อย่าลืมส่งมาให้ผมบ้างนะครับ.
โฆษณา