10 ก.ย. 2021 เวลา 19:27 • ปรัชญา
เลิกยึดติดที่ตัวตน
การที่คิดว่าตัวเราเป็นของเรา มันเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดความต้องการที่เกิดการคิด
และการกระทำเพื่อสนองความเป็นตัวตน
ถ้าการยึดติดในตัวตนยังไม่หายไป มันก็จะส่งผลของแรงยึดมั่นถือมั่นให้เรากลับมาเวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้น
สรรพสิ่งล้วนประกอบไปด้วยสสารที่หลากหลาย และสสารเหล่านั้นจะผสมผสานและแปรสภาพไปเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราสามารถรับรู้ด้วยผัสสะทั้ง 6 และมีบางสิ่งที่เราไม่สามารถรับรู้ด้วยผัสสะทั้ง 6 เช่น วิญญาณ เป็นต้น
ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า วิญญาณ ในมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์ มันก็คล้ายกับโครงสร้างแห่งความทรงจำในรูปของกลุ่มก้อนที่รวมตัวกันในเชิงอิเลคตรอน ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ก็เหมือนกับโปรแกรมพร้อมข้อมูลที่บันทึกอยู่ในสื่อบันทึกข้อมูลได้ เช่น BIOS ฮาร์ดดิสค์ RAM เป็นต้น และสื่อที่ส่งข้อมูลเหล่านั้นหากันได้ เช่น ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะมีสายหรือไร้สาย เป็นต้น ยิ่งถ้าเอาไปเปรียบกับการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย มันก็เสมือนมีข้อมูลเหล่านั้นล่องลอยอยู่ในอากาศในรูปแบบของคลื่นวิทยุ และมีตัวรับข้อมูลเป็นตัวพิสูจน์ว่า มันมีข้อมูลอยู่ในอากาศโดยการจับมาแปรเปลี่ยนให้เป็นสัญญาณในรูปแบบที่เราเข้าใจได้
ดังนั้นวิญญาณในรูปแบบกลุ่มก้อนของโปรแกรมและข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นด้วยจิตที่ยังยึดติดความเป็นตัวตน มันก็โอกาสถูกจับแยกส่วนเมื่อกายที่เคยเป็นตัวรับที่สร้างจากการผสมผสานของสสารนั่นแปรเปลี่ยนสภาพไป แต่กลุ่มก้อนเหล่านั้นถึงจะถูกจับแยก แต่ก็ยังจับเป็นกลุ่มเล็ก ๆ อย่างเหนียวแน่นด้วยแรงแห่งติตที่ยึดมั่นอยู่ จะแตกกระจายไปจับกับสิ่งที่เป็นการรวมตัวของสสารที่จะกลายเป็นตัวรับไปเรื่อย ๆ เกิดแล้วแตกดับ จนกว่ามันจะถูกเวียนกลับมาเจอกัน อาจจะได้ครบ ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก หรือ เป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าสิ่งที่เป็นตัวรับนั้น มีคุณสมบัติที่มีสติปัญญาเพียงพอ ดั่งเช่น มนุษย์ เป็นต้น ถ้าใช้โอกาสนี้สามารถฝึกจิตให้เลิกยึดติดความเป็นตัวเราได้ ก็เหมือนเราได้ทำลายแรงที่ยึดกลุ่มก้อนแห่งความทรงจำนั้นไป และล้างความทรงจำเหล่านั้นจนสิ้น ก็จะหยุดการเวียนว่ายตายเกิดของตนได้
สรุป ก็คือ เราเริ่มคิดว่าตัวเรา เป็นของเรา เมื่อนั้น เราก็เริ่มเขียนโปรแกรมและข้อมูลที่อยู่ในรูปของกลุ่มก้อนแห่งความทรงจำขึ้นมาแล้ว
ถ้าไม่รีบหาทางทำลายแรงที่มันยึดมั่นถือมั่นให้หายไป และลบโปรแกรมและข้อมูลเหล่านั้นก่อนที่ตัวรับที่มีสติปัญญาในปัจจุบันจะแตกดับและแปรเปลี่ยนไป ก็จะไม่มีทางหลุดพ้นวัฏจักรที่เป็นวังวนแห่งทุกข์ไปได้
ถ้าเลิกยึดติดในตัวตนได้เมื่อใด
กงล้อแห่งการเกิดดับก็จะหยุดหมุนเมื่อนั้น
โฆษณา