วันนี้ตรงกับวันที่ 11 กันยายน
ครบรอบ 20 ปีเต็มของการเกิดเหตุโศกนาฏกรรมช็อคโลก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
ได้มีผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินโดยสารของสหรัฐอเมริกา 4 ลำ
เครื่องบิน 2 ลำพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก
ทันทีที่เครื่องบินเข้าชน ตึกก็มีไฟลุกไหม้ เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิวยอร์ก
ก็ได้ถล่มราบเป็นหน้ากอง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2,600 กว่าคน
และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน
เครื่องบินลำที่ 3 พุ่งชนอาคารเพนตากอนทางด้านหน้าตึก
ซึ่งเป็นที่ทำการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาที่รัฐเวอร์จิเนีย
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 125 คน
เครื่องบินลำที่ 4 ผู้ก่อการร้ายมีเป้าหมายโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา
ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่ผู้โดยสารได้ต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
ทำให้เครื่องบินตกลงที่ทุ่งในรัฐเพนซิลเวเนียก่อน
ผู้โดยสารเครื่องบินทั้ง 4 ลำเสียชีวิตทั้งหมด
Cr : Wikipedia
ผู้วางแผนการโจมตีในครั้งนี้คือ กลุ่มอัลกออิดะห์
ที่มี โอซามา บิน ลาเดน เป็นผู้นำ
กลุ่มอัลกออิดะห์ มองว่าอเมริกาคือต้นตอของปัญหา
ความขัดแย้งของมุสลิมทั่วโลก อเมริกานำโลกทุนนิยม
เข้ามาจนสร้างปัญหาไปทั่ว
ทางกลุ่มอัลกออิดะห์ จึงได้พุ่งเป้าโจมตี
ไปที่ตึกอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญในอเมริกา
ไม่ว่าจะเป็นตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของโลกทุนนิยม
อาคารเพนตากอนที่เป็นสัญลักษณ์กองกำลังทหารอเมริกา
กลุ่มอัลกออิดะห์ใช้วิธีการสร้างความเสียหายรุนแรงนี้เพื่อปลุกใจ
นักรบมุสลิมทั่วโลก ให้ออกมาร่วมกันขับไล่อเมริกา
ออกจากพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในตะวันออกกลาง
แต่การโจมตีในครั้งนั้นเปรียบเหมือนไปกระตุกหนวดเสือ
อเมริกาต้องการที่จะล้างแค้นและทำการสืบทราบว่า
โอซามา บิน ลาเดน กับกลุ่มอัลกออิดะห์
หลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศอัฟกานิสถาน
อเมริกาส่งคำร้องให้ทางกลุ่มตาลีบันที่ปกครองประเทศอัฟกานิสถานอยู่
ให้ส่งตัวโอซามา บิน ลาเดนมาให้อเมริกา
แต่ทางกลุ่มตาลีบันปฏิเสธ
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
จึงได้ส่งกองทัพบุกอัฟกานิสถานทันที
โดยอ้างสิทธิความชอบธรรมในการจัดการ
กลุ่มที่คิดร้ายต่อประชาชนชาวอเมริกา
และอัฟกานิสถานคือที่ให้พักพิงกับกลุ่มก่อการร้ายนี้
Cr : Defense One
กองทัพอเมริกาจัดการกองกำลังกลุ่มตาลีบันและกลุ่มอัลกออิดะห์
ที่ขัดขวางการจับกลุ่มโอซามา บิน ลาเดนไปมากมาย
จนในที่สุดกลุ่มตาลีบันก็หมดอำนาจในประเทศอัฟกานิสถาน
โอซามา บิน ลาเดน กับแกนนำต้องหลบหนีไปยังประเทศอื่น
เมื่อกลุ่มตาลีบันแตกพ่ายแล้ว อเมริกาช่วยจัดตั้งให้อัฟกานิสถาน
มีรัฐบาลใหม่ขึ้นมา ก่อนที่จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาในปี 2004
และได้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยฮามิด คาร์ไซ ได้เป็นรับเลือก
ให้เป็นประธานาธิบดีในขณะนั้น
อเมริกายังคงตามล่า บิน ลาเดน อย่างไม่ลดละ
โดยกองกำลังตั้งปักหลักอยู่ที่อัฟกานิสถาน
แล้วในปี 2011 สิบปีหลังจากนั้น
ประธานาธิบดี บารัก โอบามา
ก็ได้ส่งหน่วยจู่โจมไปสังหาร บิน ลาเดนที่ปากีสถาน
เป็นการปิดฉากการล้างแค้น 10 ปีก็ไม่สายลงได้สำเร็จ
กลุ่มอัลกออิดะห์ เมื่อสูญเสียผู้นำก็แตกกระจายและค่อยๆ ลดบทบาทลง
ฝ่ายอเมริกายังคงให้กองกำลังตั้งปักหลัก
อยู่ที่อัฟกานิสถาน คอยเป็นกำลังสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล
เนื่องจากกลุ่มตาลีบันยังคงพยายามลอบโจมตี
ฝ่ายรัฐบาลอัฟกานิสถานเป็นระยะๆ
และเฝ้ารอหาโอกาสที่ทางรัฐบาลอ่อนแอลง
20 ปีผ่านไป ประชาชนในสหรัฐอเมริกาเองต่างไม่เข้าใจว่า
อเมริกาจะยังคงทำสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นต่อไปทำไม
ในเมื่อก็ได้สังหารบิน ลาเดน เป้าหมายสำคัญลงได้ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อเมริกาใช้เงินในการทำสงครามในอัฟกานิสถาน
เป็นเงินกว่า 950,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 31 ล้านล้านบาท
และมีเหล่าทหารคนอเมริกันที่ต้องสูญเสียชีวิตอีกกว่า 2,300 คน
มันจึงไม่มีความจำเป็นที่อเมริกาจะต้องนำเงินภาษีประชาชนมาผลาญ
และเอาชีวิตทหารอเมริกันมาเสี่ยงในประเทศอัฟกานิสถานโดยที่
ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาสู่ประเทศอเมริกาเองเลย
แล้ว โจ ไบเดน ก็ได้ตอบรับเสียงประชาชนนี้
เขาได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนตอนหาเสียง
ว่าเขาจะจบสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ลง
โดยหากเข้าได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
จะถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ได้ทำไว้อย่างที่เคยหาเสียงจริงๆ
เขาได้สั่งการให้กองทัพอเมริกาถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
โดยจะทิ้งเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์บางส่วน
ให้รัฐบาลอัฟกานิสถานดูแลตัวเอง
ทันทีที่ทหารอเมริกาเริ่มถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบันก็ได้เข้ายึดเมืองสำคัญต่างๆ ทันที
โดยทางกลุ่มตาลีบันได้ทำข้อตกลง
กับทางอเมริกาว่าจะไม่โจมตีทหารอเมริกันและคนอเมริกัน
ที่กำลังถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าทางทหารอเมริกาต้องไม่เข้ามาแทรกแซง
ในการที่กลุ่มตาลีบันเข้าบุกยึดอัฟกานิสถานในครั้งนี้
ใช้เวลาเพียงสิบกว่าวัน กลุ่มตาลีบันก็สามารถ
ยึดอัฟกานิสถานได้สำเร็จ โดยที่รัฐบาลอัฟกานิสถาน
ไม่สามารถต่อต้านได้เลย ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน
บินหนีออกนอกประเทศ ทิ้งให้ประชาชนต้องขวัญผวา
กับการกลับมามีอำนาจอีกครั้งของกลุ่มตาลีบัน
ประชาชนชาวอัฟกานิสถานยังคงหวาดกลัว
กับการปกครองของตาลีบันเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ที่ต้องการทำให้อัฟกานิสถานเป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์
ซึ่งใช้กฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษประหาร
กลางที่สาธารณะ การตัดแขนตัดขาคนที่ลักขโมย
การบังคับให้ผู้ชายไว้หนวด
ให้ผู้หญิงต้องใส่ชุดแบบปกปิดทั้งตัว
และยังห้ามไม่ให้มีการดูทีวี ฟังเพลง หรือดูหนัง
ทั้งยังออกกฎไม่ให้เด็กผู้หญิงไปโรงเรียน
กฎข้อบังคับเหล่านี้ทำให้ประชาชนอัฟกานิสถาน
ต่างเกรงกลัวว่าจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
จึงต่างต้องการหลบหนีออกนอกประเทศ
ประชาชนหลายแสนคนต่างกรูไปที่สนามบิน
เพียงเพื่อที่จะหลบหนีการปกครองของกลุ่มตาลีบัน
ซึ่งเครื่องบินไม่สามารถรองรับจำนวนคนได้หมด
มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องตกค้างอยู่ในประเทศต่อไป
Cr : Defense One
ทันทีที่เครื่องบินอพยพลำสุดท้ายของอเมริกาบินออกจากอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบันก็ได้จุดพลุเฉลิมฉลองบนน่านฟ้าทันที
เพื่อประกาศชัยชนะของตาลีบันอย่างสมบูรณ์แบบ
โฆษกของตาลีบันออกมาประกาศรับรองความปลอดภัย
ของประชาชน ว่ากฎหมายที่ใช้จะไม่เหมือนกับในอดีต
ขอให้ประชาชนอย่าได้หวาดกลัว
แต่ถึงแม้โฆษกจะออกมาประกาศเช่นนี้
ก็มีรายงานข่าวการเสียชีวิตของประชาชนที่ออกมา
ประท้วงต่อต่านกลุ่มตาลีบันหลายราย
ข่าวบริษัทหลายแห่ง เริ่มมีการไล่ผู้หญิงออกจากตำแหน่งงานต่างๆ
รวมทั้งแฟนคลับศิลปินดารา K-pop ต่าง
ต้องทำลายรูป ทำลายโปสเตอร์ ทำลายแผ่น CD
เพื่อให้ไม่ต้องถูกลงโทษ
นานาชาติต่างเฝ้าจับตารัฐบาลใหม่จากนี้
ที่ทางกลุ่มตาลีบันจะจัดตั้งขึ้นมา
ว่าจะนำพาประเทศไปสู่จุดไหน
และจะออกกฎต่างๆ มาใช้กับประชาชนอย่างไร
เหตุการณ์จาก
11 กันยายน 2001 มาสู่
11 กันยายน 2021
20 ปีผ่านไป เกิดเหตุการณ์ผูกพันต่อเนื่องต่างๆ ขึ้นมากมาย
ผู้นำประเทศเปลี่ยนไปมากหน้าหลายตา
ผู้นำกลุ่มกองกำลังผลัดเปลี่ยนส่งต่อตำแหน่งแทนขึ้นมา
บทเรียนความสูญเสียมากมายมหาศาล
แต่ความรุนแรงก็ไม่เคยหายหมดไป
และไม่มีทีท่าว่ามันจะจบสิ้นลง
ซึ่งผลเสียก็ตกลงที่ประชาชนในพื้นที่
ที่ยังคงเป็นทุกข์ และต่างเฝ้ารอสันติภาพให้เกิดขึ้น
ขอให้โลกมีวันที่สงบสุขครับ..
อ้างอิงข้อมูลเนื้อหาจาก
สำนักข่าว BBC
อ้างอิงรูปภาพจาก
Wikipedia
Defense One
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
