เก็บน้ำผึ้งในสวน..
เราเพิ่งเก็บผลผลิตเป็นน้ำผึ้งในสวนได้ประมาณ ๑๐ กิโลกรัมกว่าๆ จากจำนวนรังผึ้ง ๔ รัง
เมื่อนำมาตัดรวงผึ้งขายสดโดยการบรรจุภัณฑ์ลงกล่องขนาด ๒๐๐ กรัม ได้จำนวนรวงผึ้งสด ๓๐ กล่อง ที่เหลือก็จัดเก็บเป็นน้ำผึ้งบรรจุลงขวดอีกทีหนึ่ง
ซึ่งกระบวนการเก็บน้ำผึ้งนั้นทางกลุ่มฯจะละเอียดมากเป็นพิเศษ ต้องการให้น้ำผึ้งที่ได้เป็นน้ำผึ้งที่บริสุทธิ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการบีบคั้นน้ำผึ้งเหมือนในอดีตที่การเก็บน้ำผึ้งมักจะทำแบบนั้น
แต่นี้จะปล่อยให้น้ำผึ้งจากรังค่อยๆหยดลงที่ละหยดลงในภาชนะที่เราเตรียมไว้จนน้ำผึ้งจากรังผึ้งหมดน้ำผึ้งที่จะหยดลงมา จึงจะนำมาบรรจุลงขวดแต่ละขนาดที่เตรียมไว้
ซึ่งขั้นตอนการเตรียมขวดเพื่อใช้บรรจุก็ต้องละเอียดอย่างมาก ต้องมั่นใจเกินร้อยว่าขวดที่ใช้แห้งสนิทและสะอาดดี หากขวดนั้นเป็นขวดที่เราเก็บมาล้างใหม่อีกที
แต่หากเป็นขวดที่ซื้อมาจากร้านก็ต้องเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างอยู่ในขวดนั้น
น้ำผึ้งที่ได้จึงเป็นน้ำผึ้งที่สะอาดบริสุทธิ์จริงๆที่จะส่งให้เพื่อนมิตรที่ตั้งใจจะเก็บน้ำผึ้งไว้กินต่อไป..
ผมเลี้ยงผึ้งไว้ในสวนจำนวนไม่มากนัก ด้วยกับความที่เราไม่ค่อยได้มีเวลาเตรียมลังผึ้ง ทั้งที่กระบวนการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่บางทีก็ปล่อยให้การผัดวันประกันพรุ่งผ่านพ้นไปในแต่ละวันอย่างน่าเสียดาย
จนเมื่อเราได้จับผึ้งแต่ละครั้ง เราก็กลับมาพลุ่งพล่านอยากจะตั้งลังผึ้งเพิ่มทุกครั้ง เพราะปริมาณน้ำผึ้งที่เก็บได้ในแต่ละรอบถือว่าไม่น้อยทีเดียว ทั้งที่เราเกือบไม่ลงทุนอะไรเลย
หลายครั้งที่ผมมีโอกาสไปพูดคุยในวงการคนที่สนใจการเลี้ยงผึ้งหรือวงของการปลูกต้นไม้ การเกษตรผสมผสาน ผมก็จะให้มุมมองความคิดจากประสบการณ์ตรงที่ผมสัมผัสจากตัวเองเป็นหลัก
ผมตั้งลังผึ้งไว้น่าจะราว๒๐ ลังเห็นจะได้ ก็จะตั้งปล่อยๆไว้ไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดอะไรมากนัก ลังที่ตั้งก็จะเก็บเศษไม้ที่ไม่ใช้แล้วมาตีๆจนเป็นลังผึ้งไปตั้งไว้ในสวน มีบ้างที่เอาไม้ไปจากบ้านไปให้ทางกลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงผึ้งฯที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ทำให้ โดยคิดเฉพาะค่าแรงของสมาชิกบางคนที่รับทำลังผึ้งอยู่
ทุกปีก็จะได้เก็บน้ำผึ้งจากลังผึ้งที่ตั้งไว้ อาจจะไม่เก็บทุกลัง แต่ก็ไม่เห็นจะขาดทุนอะไร มีแต่กำไรกับกำไรอย่างเดียว
การเลี้ยงผึ้งไม่เหมือนการเลี้ยงปลาดุกเลี้ยงไก่ อันนี้ผมมักจะพูดทุกครั้งที่มีโอกาสนำเสมอมุมมองความคิดในวงคุย จะเรียกว่าเลี้ยงผึ้งก็น่าจะไม่ใช่เสียทีเดียว เราไม่เคยให้อาหารผึ้ง เราไม่เคยต้องนำหมอมารักษาเหมือนสัตว์อื่นที่เราเลี้ยงเมื่อสัตว์นั้นมีโรค ไม่ต้องมีวันเวลาที่เป็นจุดคุ้มทุนในการเลี้ยงเหมือนการเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่เหมือนที่ผมว่า
แค่ปล่อยให้ธรรมชาติในสวนเราอุดมไปตามวิถีของมันที่ควรเป็น ไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชต่างๆ ปล่อยให้ธรรมชาติดูแลกันเองตามวิถีของมัน พูดง่ายๆเราเน้นให้สวนรกตามธรรมชาติ ประเภทคนที่ขี้คร้านแบบเราก็ถือว่าเหมาะมาก
ส่วนคนที่อยากให้สวนโล่งเตียนก็อาจจะเลี้ยงได้ แต่จะใช้สารเคมีจำพวกยาฉีดหญ้าไม่ได้เด็ดขาด จะตัดหญ้านั้นพอได้ แต่เมื่อใดที่ใช้สารเคมี เมื่อผึ้งก็จะหนีเราไปทันที
ปีนี้ผมให้ทางกลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงผึ้งและชันโรงเขาบรรทัดที่ผมเป็นสมาชิกอยู่มาจับผึ้งผมหลายครั้ง จะเป็นประธานกลุ่มฯคุณชัยรัตน์ ยาชะรัด ที่เป็นคนเก็บน้ำผึ้งเองทุกขั้นตอน
หลายครั้งที่กลุ่มผู้สนใจที่มาศึกษาดูงานที่กลุ่มฯทั้งที่มาเป็นคณะเป็น ๑๐๐ คน หรือมาเป็นนักท่องเที่ยว ตลอดจนนักวิชาการที่เข้ามาทำวิจัย มักจะถามว่าจะรู้ได้อย่างไงว่าน้ำผึ้งที่เรากินเป็นน้ำผึ้งแท้หรือน้ำผึ้งปลอม..
ทุกครั้งที่ได้ยินคำถามนี้ เราก็มักจะหัวเราะกันทุกครั้ง
หลายคนที่ถามก็มักจะประสบด้วยตัวเอง ซื้อน้ำผึ้งจากท้องตลาดทั่วไปหรือซื้อน้ำจากชาวบ้านบางคน เมื่อนำกลับมากินที่บ้าน กว่าน้ำผึ้งจะหมดขวดก็จะพบว่าน้ำผึ้งนั้นเป็นน้ำผึ้งปลอม
แต่ที่นี้เรามีวิธีที่สามารถขจัดปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด ที่นี้ไม่มีน้ำผึ้งปนปลอม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
ถามว่าเรามีวิธีการอย่างไรในการตรวจสอบว่าน้ำผึ้งที่นี้ไม่มีน้ำผึ้งปนปลอมและเราเอาอะไรมาการันตีมั่นใจขนาดนี้ว่าไม่ปนปลอม
ที่นี้น้ำผึ้งทุกขวดที่เก็บประธานกลุ่มฯคือคุณชัยรัตน์จะเป็นคนจับเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นของสมาชิกคนใดในกลุ่มฯจะไม่มีน้ำผึ้งที่สมาชิกจับเองเด็ดขาด ยิ่งถ้าใครเอามาขายต่อที่กลุ่มแล้วให้กำไรอีกต่อหนึ่ง ทางกลุ่มจะไม่รับไว้เป็นกฎกติกาที่เคร่งครัด
เราเชื่อมั่นต่อเมื่อเราเก็บมันเองกับมือ..
ปีที่แล้วระดับผู้รู้ศาสนาระดับคนที่เราเชื่อใจมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการปนปลอมอย่างแน่นอน นำน้ำผึ้งที่บรรจุขวดเรียบร้อยแล้วมาฝากขายที่กลุ่มในราคาที่ไม่สูงมากนักเพราะต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปบริจาคทำมัสยิด
เราไม่ใช่ไม่อยากช่วยแต่กฎกติกาที่เราตั้งกันไว้จะละเว้นใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้
และที่สำคัญเราไม่อยากให้มีการผิดพลาดเกิดขึ้นสักครั้ง เพราะหากพลาดขึ้นมาเพียงครั้งเดียว
ความเชื่อใจของทุกคนก็จะพังทั
นที
รอบนี้ประธานฯจับผึ้งในสวนผมได้ไปจำนวน ๑๐ กิโลกว่าๆเหมือนที่ผมบอกไปก่อนแล้ว วันสองวันก่อนคุณภรรยาประธานฯก็นำค่าน้ำผึ้งที่ตัดใส่กล่องได้จำนวน ๓๐ กล่องที่เหลือก็ต้องรออีกทีหนึ่ง
ทางกลุ่มฯขายอยู่กล่องละ ๑๐๐ บาท รวมๆแล้วก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียวสำหรับการเพิ่มมูลค่าในสวนตัวเอง..
เดินทางในสายทางแบบนี้มีน้ำผึ้งให้กินเป็นยาอย่างแน่นอน
๑๑ กันยายน ๒๕๖๔..
บันทึกของนักเดินทาง..
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
