สมัยผมทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อนสถาปนิกคนหนึ่งบ่นกับเพื่อน ๆ เรื่องเจ้านายของเขาว่าเป็นคนแย่มาก นิสัยเห็นแก่ตัว เอาเปรียบลูกจ้างทุกเรื่อง
วันหนึ่งเขาบอกเราว่าเขากำลังจะลาออก เนื่องจากได้งานใหม่ พวกเราแสดงความยินดีกับเขา แต่ก็สะดุ้งเมื่อเขาบอกว่า
“ในวันสุดท้ายที่ทำงาน กูจะไปขี้กองนึงบนโต๊ะทำงานของเจ้านาย”
เราทุกคนหัวเราะครืน เจ้านี่ช่างครีเอถีฟจนน่าถีบกระไรเช่นนั้น!
เขาลาออกจากสำนักงานนรกแห่งนั้น แต่จะได้ไปขี้บนโต๊ะทำงานเจ้านายหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ว่าก็ว่าเถอะ บางครั้งหลายคนก็อยากทำเช่นนั้นกับเจ้านายของตนเหมือนกัน!
เพื่อนคนหนึ่งเคยเสนอวิธีแก้เผ็ดเจ้านายโดยการไปหยอดกาวในรูกุญแจประตูบ้านของเขา เพื่อจะได้ออกจากบ้านมาทำงานไม่ได้!
เพื่อนอีกคนหนึ่งเสนอว่าจะไปขูดรถเจ้านายนิสัยไม่ดี
ดูท่าผมคงคบแต่เพื่อนไม่ดี!
ในชีวิตการทำงานกว่าสี่สิบปี ผมเคยได้ยินเรื่องเจ้านายแย่ ๆ มามากอย่างไม่น่าเชื่อ รายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกัน แต่เนื้อหาเหมือนกัน เจ้านายบางคนใช้ลูกน้องรับส่งลูกไปโรงเรียน บางรายสั่งลูกน้องไปล้างส้วมในบ้านของตัวเอง บางคนชมลูกน้องว่าฉลาดเหมือนสัตว์บางสายพันธุ์ บางคนประพฤติตัวเหมือนเจ้าของทาสในยุคโบราณ
การจัดการกับเจ้านายแบบนี้เป็นเรื่องเครียดจริง ๆ แต่ในเมื่อยังเป็นลูกจ้าง ก็หนีไม่พ้น ปัญหาของลูกจ้างไม่น้อยคือไม่มีที่ไป เจ้านายพันธุ์นี้ก็คงรู้ดี จึงข่มเหงลูกน้องทุกเรื่อง หมูในอวย! ลูกไก่ในกำมือ!
ในภาพยนตร์ตลกอเมริกันเรื่อง 9 to 5 (1980) พนักงานสาวสามคนทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีเจ้านายนิสัยแย่ ชอบฉวยโอกาสกับพนักงานสาว ทั้งสามลักพาตัวเจ้านายไปขังในบ้านของเขาเอง และ‘ยึดอำนาจ’ บริษัท จัดการเปลี่ยนระบบในบริษัทโดยอ้างชื่อเจ้านาย ผลก็คือบริษัทมีผลประกอบการดีขึ้น และประธานบริษัทพึงพอใจมาก จึงส่งเจ้านายคนนั้นไปประจำการในประเทศด้อยพัฒนาแห่งหนึ่ง และไม่ได้กลับมาอีกเลย!
หลายคนคงอยากให้บริษัทของตนเป็นอย่างนี้บ้าง ทว่านี่เป็นเพียงหนังตลกคลายเครียด ในชีวิตจริง โดยเฉพาะคนไทยซึ่งไม่ชอบเผชิญหน้า มักยอมรับชะตากรรมไปโดยดุษณี แต่ความจริงคือหากไม่แก้ไข นานวันเข้าก็ตกเป็นเบี้ยล่างไปจนวันออกจากงาน หรือวันที่ความเครียดถึงขีดสุด ระเบิดอารมณ์ออกมา
มนุษย์เราจำนวนมากมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือชอบรังแกคนที่สู้ไม่ได้ ดังนั้นหากเราอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง ก็ควรหาทางปรับปรุงตนเองให้อยู่ในสถานการณ์ที่เป็นต่อ หรืออย่างน้อยก็เสมอกัน
ลูกจ้างส่วนมากไม่มีที่ไปเพราะไม่มีเครื่องมือที่เรียกว่าคุณสมบัติที่ดีพอ จึงตกเป็นเบี้ยล่างตลอดเวลา ทางแก้คือเปลี่ยนตัวเองเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง
ในระยะสั้น ทำงานตามที่ตกลงกันในขอบข่ายหน้าที่ที่ต้องทำ ตรงต่อเวลาเพื่อไม่ให้เจ้านายมีข้ออ้างให้ทำงานล่วงเวลาโดยไม่มีเหตุผลสมควร หากทำงานดี ไม่มีข้อติ อำนาจต่อรองก็สูงขึ้น โอกาสที่จะถูกบีบคั้นก็ลดลง
เราเปลี่ยนเจ้านายแย่ไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเราเองได้
ในระยะยาว วิเคราะห์ตัวเองเป็นระยะว่า ที่ทำงานนั้นมีพื้นที่สำหรับเติบโตหรือไม่ หากไม่มีก็วางแผนชีวิตตนเอง อาจไปหาที่ใหม่ หรือเปลี่ยนสายงานใหม่ พยายามอัพเกรดตนเองเป็นระยะ หากไม่มีความรู้ก็แสวงหา หากไม่มีเงินก็ประหยัดและแสวงหาความรู้เป็นเครื่องมือพาตัวเองไปจากสถานการณ์คับใจ
การอัพเกรด ‘เครื่องยนต์’ ไม่เพียงแก้ปัญหา ‘หมูในอวย’ เท่านั้น ยังเป็นบันไดให้ไต่ขึ้นที่สูงขึ้นได้
ดังนั้นจึงจำเป็นสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่จะต้องตรวจระดับ ‘น้ำมันเครื่อง’ ของตัวเองเป็นระยะ เช็กดูว่า ‘เครื่องยนต์’ เก่าไปหรือไม่ ตกรุ่นหรือไม่ จะอัพเกรดอย่างไร ต้องใช้ทุนเท่าไรในการปรับปรุงเครื่องยนต์ แต่ไม่อยู่เฉย ๆ ปล่อยให้ตัวเองเป็นลูกไก่ในกำมือเจ้านายไปจนถึงวันสุดท้ายของงาน
เมื่ออัพเกรดตัวเองดีพอ รู้ทิศทางของตนเองชัดเจน เจ้านายที่ไหนก็รังแกเราไม่ได้
จากหนังสือ #ชีวิตคือปาฏิหาริย์! / https://bit.ly/3ttyHAw
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
