เปิดเหตุผล..ยอดขายมันของ OR ลดลง แต่!! ทำไมนักวิเคราะห์ยังแนะนำ “ซื้อ” เป้า 35 บาท
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ยอมรับว่าในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/64 บริษัทได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อปริมาณเติมน้ำมันลดลง 10% ขณะที่ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมีผลกระทบไม่ถึง 10% แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้หลังมีมาตรการคลายล็อกดาวน์
ทั้งนี้ประเมินว่าผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/64 สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/64 หากตัวเลขอัตราผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ รวมถึงเริ่มมีมาตรการคลายล็อกดาวน์ที่จะช่วยให้กิจกรรมการค้าทางเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวกลับมา
ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายการขยายสถานีบริการน้ำมันในประเทศที่ลดลงต่ำกว่าเป้า จากเดิมที่คาดเปิดให้บริการปีนี้เพิ่มอีก 110 แห่ง แต่คาดทำได้เพียง 95 แห่ง และการขยายสาขาในต่างประเทศคาดลดลงจากเแผนเช่นกัน โดยแบ่งเป็นการขยายสถานีบริการน้ำมัน 45 แห่ง จากเดิม 52 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน 51 แห่ง จากเดิม 56 แห่ง ขณะที่การเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ในประเทศยังสามารถทำได้ตามแผน 420 สาขา และร้านเท็กซัส ชิคเก้น จำนวน 20 สาขา
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา OR ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ภายใต้ชื่อ บริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด (GAA) เพื่อดำเนินการให้บริการระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รองรับการเติบโตของ EEC คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4 ปีจากนี้ และจะมีอายุสัญญาในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานเป็นระยะเวลา 30 ปี
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานเบเกอรี่ จะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น และจะส่งผลทำให้มีมาร์จิ้นจากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงสนับสนุนผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่มาจาก SME อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าที่ผลิตจากโรงงานของ OR คิดเป็นไม่เกิน 30% ของสินค้าที่วางจำหน่าย และส่วนที่เหลือมาจากผู้ประกอบการ SME
บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการทำดีลซื้อการธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่มจำนวนหลายดีล ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยปิดดีลได้อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้กับธุรกิจ Non-Oil ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทมุ่งน้นดำเนินการมาโดยตลอด
กำไรทั้งปียังโต เคาะราคา 35 บาท
.
บริษัทหลักทรัพย์บังหลวง จำกัด มองว่าในระยะสั้นผลประกอบการอาจจะสะดุดในไตรมาส 3/64 จากผลกระทบของ COVID-19 ทั้งปริมาณขายน้ำมันและเครื่องดื่ม ทำให้กำไรในน่าจะอ่อนตัวลงจากปีก่อน และไตรมาส 2/64 อย่างไรก็ตามเราคาดจะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปีก่อนที่จะฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 เนื่องจากประเทศไทยและหลายๆประเทศในอาเซียน เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายการล๊อคดาวน์ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. และน่าจะเห็นการผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
โดยหากอิงกับการเปิดเมืองรอบที่แล้วปริมาณขายน้ำมันของ OR เติบโต 12% ในไตรมาส 3/63 รวมถึงธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันก็นาจะฟื้นตัวได้ดีเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาส 3/63 ยอดขายเครื่องดื่มเติบโตถึง 20% จากไตรมาสก่อน ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 35 บาท โดยเรายังประเมินกำไรหลักทั้งปีเติบโต 48% จากปีก่อน
ติดตามอัพเดตความรู้ทางการเงิน-การลงทุนได้ที่
.
Facebook : Wealthy Thai
Website : www.wealthythai.com
Twitter : www.twitter.com/WealthyThai
YouTube : https://bit.ly/2GoS9Z4
LINE : http://nav.cx/hm9uy1i
Blockdit : https://www.blockdit.com/wealthythai
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
