Switzerland (17) .. เยือนเมือง Zermatt นั่งรถไฟเลียบหุบเขา พิชิตเขาสูง Matterhorn
ยอดเขา Matterhorn .. เมื่อเห็นภาพในโปสการ์ด ให้รู้สึกว่ายอดปีรามิดขนาดยักษ์ที่สูงเสียดฟ้า มีหิมะขาวๆปกคลุมช่างสวยงามมากมาย อีกทั้งยังคุ้นเคยจากการเห็นนับครั้งไม่ถ้วนจากการซื้อช็อคโกแลต Toblerone ที่ผู้ผลิตได้นำเอามาเป็นสัญลักษณ์ของสินค้า .. จนบอกกับตัวเองว่า ต้องไปเดินย่ำเท้าใกล้ๆ แล้วส่งสายตา แหงนหน้ามองยอดเขาที่แสนจะโรแมนติกนี้สักครั้ง
เซอร์แมท (Zermatt) .. เป็นเมืองเล็กน่ารักมีขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งบนความสูง 1,620 เมตร บริเวณเชิงเขา Matterhorn และเมื่อเราเอ่ยถึงเมืองนี้ ก็ต้องนึกถึงจุดชมวิว Matterhorn ยอดเขารูปทรงพีรามิดที่อยู่ในหมู่เทือกเขาแอลป์ หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เซอร์แมท (Zermatt) .. ชาวเมืองสร้างบ้านเรือนเรียงรายกันขึ้นไปตามเนินเขา บ้านสร้างด้วยไม้ในสไตล์ สวิสชาเล่ย์ ที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นชาวสวิสแบบดั้งเดิม เราสามารถเดินเที่ยว และเดินถ่ายรูปชิลๆ ได้แบบไม่เหนื่อย ถนนสายหลักอย่าง Bahnhof strasse ซึ่งแปลได้ว่า ถนนแถวสถานีรถไฟ เพราะเป็นถนนที่ทอดตรงมาจากสถานีรถไฟของเมืองนั่นเอง
เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว และสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ .. แต่มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดีมากๆ โดยให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก
เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในเมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นการเดินทางไปเมื่ออยู่ใน Zermatt ก็จะมีแค่การใช้จักรยาน รถม้า รถไฟฟ้าคันเล็กๆ และเดินด้วยสองขาเท่านั้นเองค่ะ
เมืองเล็กๆสวยงามแห่งนี้ เต็มไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร มีตรอกซอยซอยเล็กๆ ให้เดินลัดเลาะผ่านมากมาย และมีความปลอดภัยสูงมาก .. แต่เรามาเยือนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศตอนกลางคืนก็เย็นมากทีเดียว แต่อากาศสะอาดปลอดโปร่ง เชิญชวนให้สูดลมหายใจลึกๆ เป็นที่สุด
ผู้คนเมืองนี้น่ารัก เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากๆ .. ร้านรวงต่างๆ ในเมืองก็มีของที่สามารถหาซื้อเพื่อเป็นของที่ระลึกได้ ทั้งมีดพับสวิสอันเลื่องชื่อ นาฬิกาสวิสยี่ห้อดัง หรือช็อคโกแลตอร่อยๆ ที่ นอกนั้นก็จะมีอุปกรณ์เพื่อการปีนเขา และเล่นสกีอีกมากมาย ... แต่ในฤดูใบไม้ร่วง ร้านจะปิดเร็วราว 6 โมงเย็นเท่านั้น
จุดหมายของเราในการเดินทางมาที่นี่ คือ การเดินทางขึ้นไปยังบริเวณยอดเขา Matterhorn .. ซึ่งสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือไปขึ้นสถานีกระเช้า Matterhorn Express ซึ่งจะขึ้นไปที่สถานี Kline Matterhorn ซึ่งชาวสวิสมักจะใช้ในการเดินทางไปเล่นสกีในฤดูหนาว
เราเลือกเดินทางโดยรถไฟทางฝั่ง Gornergrat ซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เพราะคิดว่ารถไฟใช้ได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องลมเรื่องหมอกเหมือนการใช้บริการกระเช้า .. บัตรโดยสารรถไฟสามารถใช้ได้ทั้งวัน จะลงสถานีไหนเพื่อลงไปชมวิว แล้วกลับมารอรถไฟขบวนรถไฟขบวนถัดไปก็สามารถทำได้ .. แต่ควรจะศึกษาจำนวนบวนรถไฟ และตารางการเดินรถก่อนล่วงหน้า จะได้ไม่พลาด
เรานั่งรถไฟสีสดที่ค่อยๆไต่ความสูงขึ้นไป จนมองเห็นเมือง Zermatt ด้านล่างเหลือเล็กราวกับบ้านตุ๊กตา และเมื่อมองย้อนกลับมาด้านหลังจะสังเกตได้ชัดเจนว่าเมือง Zermatt นั้นอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์จริงๆ และสวยงามมากมาย
โบกี้โดยสารของรถไฟกว้างขวางและสะอาดสะอ้าน .. มีโซนที่นั่งแยกเป็นสัดส่วนดี และส่วนที่ดีที่สุด คือ ตู้โดยสารออกแบบมาเพื่อการชมวิวแบบพาโนรามาด้วยกระจกใสบานใหญ่ สามารถมองเห็นเทือกเขาได้รอบด้าน แต่ภูเขาทรงปีรามิดของ Matterhorn จะโดดเด่นที่สุด ล่อเสียงชัตเตอร์กล้องอยู่ตลอดทาง
การจะขึ้นไปยังสถานีชั้นบนสุดที่ชื่อว่า สถานี กอร์เนอร์ .. เราสามารถที่จะแวะสถานีระหว่างทางได้ แต่ละสถานีจะต้องใช้ตั๋วโดยสารใบเดิมนี้ในการผ่านประตูทั้งขาไป-กลับ ดังนั้นต้องใส่ใจรักษาตั๋วไว้ให้ดี
เราแวะชมวิวที่สถานี Rotenboden ..
ทิวเขาตระการตาเบื้องหน้า ทำให้เราตื่นตาตื่นใจมากมาย .. แวะถ่ายรูป และนั่งมองเขาสวยๆ
จากสถานีรถไฟ เมื่อเดินต่อไปอีกราว 10 นาที เรามาถึงทะเลสาบ Riffelsee
.. ภาพสะท้อนน้ำของ Matterhorn นั้นดั่งมีมนต์ที่สะกดให้ทุกคนส่งสายตาไปชื่นชมความงดงามที่มากเกินจะบรรยายออกมาให้ตรงตามที่สายตามองเห็น
ฟ้าใส .. มุมสวยๆที่งดงามเหมือนในโปสการ์ดที่เคยเห็น ดึงดูดให้ทุกคนที่ผ่านเข้ามา เข้าไปเก็บภาพภูเขาเดี่ยวๆไปเป็นที่ระลึกอย่างไม่รู้เบื่อ
เราเดินทางต่อ เพื่อไปยังสถานี กอร์เนอร์การ์ด ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย .. รถไฟของสวิสจะตรงเวลาเป๊ะๆ ดังนั้นทุกคนจะต้องมารอบริเวณหน้าทางเข้ากันให้ทัน ..
สถานี กอร์เนอร์การ์ด เป็นสถานีสุดท้ายของที่นี่ .. แค่ออกมาจากรถไฟ เราก็เห็นไอหมอกฟุ้งกระจายมาเป็นพักๆ อากาศหนาวทีเดียว .. จากสถานีเราเดินไปยังอาคารชมวิวด้านบน ซึ่งเป็นอาคารทรงโดม ภายในโดมอากาศอบอุ่น มีร้านอาหาร และช้อปปิ้งมอลล์ที่สูงที่สุดในโลก ส่วนด้านนอกอาคาร มีเทอเรซให้มานั่งดูวิว หรือทอดอารมณ์ชิลล์ๆ
ยอดเขา Matterhorn .. ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีความสวยงามที่สุดในสวิส รูปทรงพีระมิดสูงเสียดฟ้ากว่า 4,478 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี จึงมีความสวยงาม และมีเสน่ห์ ที่ดึงดูดใจให้เหล่านักท่องเที่ยวให้มาเยือนมากมายในแต่ละปี
ลานชมวิวกว้างขวาง .. ถือเป็นจุดชมวิวของยอดเขา Matterhorn ที่สวยงามแห่งหนึ่ง แม้บางครั้งจะมีเมฆมาบดบังอยุ่บ้าง แต่เมื่อใดที่ท้องฟ้าเปิด ยอดเขาสูงชะลูดก็แย้มหน้าออกมาให้ยลโฉมให้มองได้เพลินๆ
ฉันต้องการภาพมุมกว้างแบบพาโนรามิควิวของพื้นที่ที่รายล้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนที่มองเห็น จึงเดินท่ามกลางลมแรง และอากาศที่เย็นยะเยือกขึ้นไปตามทางที่ค่อนข้างมีสโลปที่ลาดชันพอสมควร สูงขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุดของที่นี่
จุดชมวิวพาโนรามา Panorama Platform .. มองเห็นยอด Matterhorn แบบเต็มตา แม้จะไม่ใช่ยอดเขาที่สูงที่สุดในแถบเทือกเขาแอลป์ แต่กลับโดดเด่นมากที่สุด ด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมสูงลิ่วคล้ายพีรามิด และเมื่อภูเขาข้างเคียงไม่สูงมาก ก็ยิ่งทำให้ Matterhorn โดดเด่น อลังการมากขึ้นไปอีก
เมื่อยืนอยู่ ณ ที่นี่ .. ทำให้เรารู้สึกอยากสูดลมหายใจให้เต็มปอด ซึมซับเอาอากาศแสนบริสุทธิ์ให้แทรกเข้าไปในทุกอณูของร่างกาย .. คงมีเพียงไม่กี่แห่งบนโลกนี้ที่จะชวนให้เราคิดอย่างนั้น
ด้านบน ณ จุดที่ฉันยืนอยู่ในวันที่ฟ้าเป็นใจ .. สามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้อย่างชัดเจน .. หิมะสีขาวเจิดจ้าปกคลุมเทือกเขาแอลป์มาตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเมื่อหลายหมื่นหลายแสนปีก่อนโยไม่ยอมละลายไปไหน เมื่อควบแน่นจึงกลายเป็นธารน้ำแข็งอย่างที่เราเห็น
ภาพถ่ายจาก Matterhorn .. มากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอในการเก็บความประทับใจ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลาจาก เราได้ส่งสายตาไปร่ำลา Matterhorn ที่เปี่ยมเสน่ห์อย่างอาวรณ์
.. Till we meet again ..
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
