15 ก.ย. 2021 เวลา 01:55 • ประวัติศาสตร์
“มีเกลันเจโล (Michelangelo)” หนึ่งในศิลปินเอกแห่งยุคเรเนสซองส์
“มีเกลันเจโล (Michelangelo)” หรือที่หลายคนนิยมเรียกว่า “ไมเคิลแองเจโล” คือปฏิมากร ศิลปิน และสถาปนิก ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคเรเนสซองส์
1
ผลงานของมีเกลันเจโล สะท้อนถึงจิตวิทยา ความเสมือนจริง และความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ผู้คนต่างตระหนักถึงอัจฉริยภาพของเขา อีกทั้งเหล่าผู้มีอำนาจและร่ำรวย ต่างก็ให้การสนับสนุนเขา แม้แต่พระสันตะปาปาก็สนับสนุนมีเกลันเจโล
ผลงานของเขาหลายชิ้นยังถูกเก็บรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้ และยังคงเป็นที่สนใจของผู้คนในยุคหลัง
สำหรับประวัติของมีเกลันเจโล “มีเกลันเจโล ดี โลโดวีโก บูโอนาร์โรตี ซีโมนี (Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni) เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.1475 (พ.ศ.2018) ที่ประเทศอิตาลี
4
พ่อของมีเกลันเจโลเป็นข้าราชการ และภายหลังจากที่มีเกลันเจโลเกิดได้ไม่นาน พ่อก็ได้พาครอบครัวย้ายไปยังเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นที่ๆ มีเกลันเจโลเรียกว่าเป็น “บ้าน” ที่แท้จริงของตน
ฟลอเรนซ์ในเวลานั้นเปรียบเหมือนศูนย์กลางของศิลปะ และเป็นที่ๆ ทำให้ความสามารถของมีเกลันเจโลเบ่งบาน
แต่เส้นทางของมีเกลันเจโลก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยแม่ของเขาเสียชีวิตขณะมีเกลันเจโลมีอายุได้หกขวบ และพ่อก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องศิลปะแก่ลูกชายเท่าไรนัก
1
ฟลอเรนซ์ในสมัยศตวรรษที่ 15
ขณะมีอายุได้ 13 ปี มีเกลันเจโลได้เป็นลูกมือของจิตรกรคนหนึ่ง ก่อนที่ปีต่อมา ความสามารถของมีเกลันเจโลจะไปเตะตาของ “โลเรนโซ เด เมดีชี (Lorenzo de' Medici)” รัฐบุรุษผู้ทรงอิทธิพลของฟลอเรนซ์ และนิยมชมชอบศิลปะและผู้มีปัญญา
2
โลเรนโซได้เชิญมีเกลันเจโลเข้าพักในบ้านหลังใหญ่ของตน
โลเรนโซ เด เมดีชี (Lorenzo de' Medici)
ช่วงที่พักอยู่กับโลเรนโซ มีเกลันเจโลได้เรียนรู้ศิลปวิทยาการต่างๆ จากเหล่าบัณฑิตรอบๆ ตัวโลเรนโซ ซึ่งจะสะท้อนออกมาในงานของเขาในช่วงหลังๆ
1
ในช่วงที่อยู่ในบ้านของตระกูลเมดีชี มีเกลันเจโลได้เรียนรู้เทคนิคศิลปะจาก “แบร์โตลโด ดิ โจวันนี (Bertoldo di Giovanni)” ปฏิมากรฝีมือดี และเป็นผู้ดูแลงานศิลปะของโลเรนโซ
ภายในปีค.ศ.1498 (พ.ศ.2041) มีเกลันเจโลก็ได้ทำงานที่กรุงโรม ก่อนจะได้รับคำสั่งจาก “พระคาร์ดินัลเบเนดิกติน (cardinal Jean Bilhères de Lagraulas)” คาร์ดินัลชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นทูตของ “พระเจ้าชาร์ลที่ 8 แห่งฝรั่งเศส (Charles VIII of France)”
1
ท่านคาร์ดินัลขอให้มีเกลันเจโลสร้างรูปปั้นของ “พระแม่มารีย์ (Virgin Mary)” กำลังอุ้มลูกที่ตายอยู่ในอ้อมแขน
2
พระแม่มารีย์ (Virgin Mary) ของมีเกลันเจโล
รูปปั้นพระแม่มารีย์ของมีเกลันเจโลนั้นยอดเยี่ยมมาก และยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาจนถึงทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 500 ปี
มีเกลันเจโลเดินทางกลับฟลอเรนซ์ในปีค.ศ.1501 (พ.ศ.2044) และได้รับการติดต่อให้ปั้นรูปปั้นของชายหนุ่มที่จะสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของวิหารในฟลอเรนซ์
มีเกลันเจโลเลือกที่จะปั้นรูปของ “เดวิด (David)” ซึ่งมีอยู่ในพันธสัญญาเดิม และปั้นออกมาอย่างยิ่งใหญ่
เดวิด (David) ของมีเกลันเจโล
เดวิดของมีเกลันเจโลยังคงยิ่งใหญ่ และโด่งดังจนถึงทุกวันนี้
1
ในปีค.ศ.1505 (พ.ศ.2048) “สมเด็จพระสันตะปาปายูลิอุสที่ 2 (Pope Julius II)” ได้มีรับสั่งให้สร้างสุสานที่ยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งรูปปั้นอีกกว่า 40 ชิ้น
หากแต่ได้เกิดความวุ่นวายในกองทัพ ทำให้พระสันตะปาปาเลิกสนพระทัยในการว่าจ้างมีเกลันเจโล และไม่ได้สนับสนุนเงินทุนแก่มีเกลันเจโลอีกต่อไป ทำให้มีเกลันเจโลไม่พอใจ และออกไปจากโรม
แต่ในปีค.ศ.1508 (พ.ศ.2051) พระสันตะปาปาได้มีรับสั่งเรียกให้มีเกลันเจโลกลับมาอีกครั้ง และว่าจ้างให้วาดภาพอัครสาวกบนเพดานของโบสถ์น้อยซิสทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวาติกัน และมีเกลันเจโลก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม
1
เพดานของโบสถ์น้อยซิสทีน
นอกเหนือจากนี้ ตั้งแต่ค.ศ.1520-1527 (พ.ศ.2063-2070) มีเกลันเจโลยังตกแต่งภายในของโบสถ์เมดีชี ทั้งกำแพง หน้าต่าง และจุดต่างๆ ซึ่งล้วนแต่ล้ำสมัยและน่าตื่นตาสำหรับยุคนั้น และยังมีงานต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
1
มีเกลันเจโลเสียชีวิตในปีค.ศ.1564 (พ.ศ.2107) ด้วยวัย 88 ปี ทิ้งเพียงชื่อเสียงและผลงานศิลปะหลายชิ้นให้โลกชื่นชมจนถึงทุกวันนี้
1
โฆษณา