15 ก.ย. 2021 เวลา 09:59 • ธุรกิจ
จุดเปลี่ยน? เมื่อรายได้จาก App Store ของ Apple กำลังจะลดลง
Apple หุ้นเทคโนโลยีแบรนด์หรูซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ 2.46 ล้านล้านดอลลาร์ และกำลังเดินหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรับข่าวการเปิดตัว iPhone13 อย่างไรก็ตามกลับมีข่าวที่ศาลพิพากษาให้ Apple ต้องเปิดทางให้แอพพลิเคชั่นมีช่องทางรับชำระเงินอื่นนอกเหนือจากระบบของ App Store ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงมากกว่า 3% ทันทีซึ่งนับว่าเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับหุ้น Apple
2
บทความนี้จะพาไปหาคำตอบของคำถามที่ว่า ‘นี่จะเป็นโอกาสในข่าวร้ายชั่วคราวหรือจุดเปลี่ยนที่กระทบพื้นฐานของ Apple?’
เดือนสิงหาคม ปี 2020 Fortnite เกมส์ Battle Royale ชื่อดังถูกถอดจาก App Store หลัง Epic Games บริษัทผู้พัฒนาเกมส์ดังกล่าวเพิ่มช่องทางชำระเงินโดยตรง ทำให้ผิดข้อกำหนดของ App Store ที่ห้ามนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นทำระบบชำระเงินที่ไม่ผ่านระบบ In-app purchase ของ Apple ซึ่ง Apple จะแบ่งรายได้ 30% ต่อ Epic Games จึงฟ้องร้อง Apple ในกรณีดังกล่าว
ล่าสุดผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez-Rogers มีคำสั่งให้ Apple เปิดช่องทางให้นักพัฒนามีทางเลือกในการรับชำระเงินทำให้ไม่ต้องเสียส่วนแบ่ง 30% ให้ Apple ด้าน Apple ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาภายใน 90 วัน ซึ่งมีเส้นตายในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ทันทีที่มีข่าวออกมาราคาหุ้น Apple ร่วงกว่า 3.31% ปิดตลาดที่ 148.97 ดอลลาร์
รูปแบบรายได้จาก App Store ที่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้รับมีอยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้
🟢 Paid apps / In-app purchases
การชำระเงินเพื่อใช้แอพพลิเคชั่น (Paid app) หรือดาวน์โหลดฟรีก็อาจมีบางคุณสมบัติที่ผู้ใช้ต้องซื้อเพิ่ม (In-app purchase) โดย Apple จะหักส่วนแบ่งรายได้ 30% ซึ่ง Epic Games ต้องการเพิ่มช่องทางชำระเงินที่ไม่ต้องถูกแบ่งรายได้ตามข้อกำหนดของ Apple
เมื่อต้นเดือนกันยายน Apple อนุญาตให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นประเภทข่าวและนิตยสารรวมไปถึงสื่อบันเทิง เช่น Spotify และ Netflix เพิ่มช่องทางการชำระเงินนอกเหนือจากระบบของ Apple แต่คำพิพากษากรณี Epic Games ทำให้ Apple ต้องเปิดทางให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นทุกประเภทเพิ่มช่องทางชำระเงินอื่นได้
🟢 In-app subscriptions
การชำระเงินเพื่อสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงบริการโดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นนิตยสาร ดนตรี และวิดีโอ ในปีแรก Apple จะหักส่วนแบ่งรายได้ 30% หลังจากนั้นจะลดเหลือ 15% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Apple ประกาศลดการหักส่วนแบ่งรายได้ลงเหลือ 15% สำหรับผู้พัฒนาที่มีรายได้ต่อปีไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ และผู้พัฒนาที่เพิ่งเข้ามาใน App Store
🟢 In-app advertising / In-app sales of physical goods
รายได้ที่ผู้พัฒนาได้จากการโฆษณาภายในแอพพลิเคชั่นและการขายสินค้ารวมไปถึงบริการผ่านแอพพลิเคชั่นจะไม่ถูก Apple หักส่วนแบ่งรายได้
ไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 บริษัท Apple มีรายได้หลักจากการจำหน่าย iPhone คิดเป็น 48.6% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งไตรมาสที่ 1 ปี 2018 รายได้จาก iPhone สูงถึง 70% สวนทาง Services ซึ่งมีรายได้ส่วนหนึ่งจาก App Store ปัจจุบันทำรายได้ให้ Apple 21.5% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 2018 ที่ยังทำรายได้เพียง 10% เท่านั้น
แอพพลิเคชั่นประเภทเกมส์สร้างรายได้ให้ Apple ถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมดจาก App Store แต่รายได้จำนวนนี้มาจากผู้ใช้เพียง 10% ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม App Store เรียกได้ว่าแม้คนจะน้อยแต่จ่ายหนักทุกคน
การเติบโตอย่างโดดเด่นจนเป็นรองเพียงรายได้จาก iPhone จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดจะกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด App Store ในครั้งนี้จะกระทบการเติบโตของ Apple
Apple มีรายได้ปี 2020 ประมาณ 274,515 ล้านดอลลาร์ รายได้ส่วน Services อยู่ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์ คาดกันว่า 1 ใน 3 ของรายได้ Services มาจาก App Store ก็อยู่ที่ราว 18,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2021 นักวิเคราะห์ประมาณว่า Apple จะมีรายได้ 360,000 ล้านดอลลาร์ คำพิพากษานี้ทำให้สูญเสียรายได้ 1,000-4,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับว่าผู้พัฒนาจะเลือกใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน
แม้การเปลี่ยนแปลงจะเปิดกว้างให้ผู้พัฒนาสามารถใช้ช่องทางการชำระเงินอื่นได้เต็มที่ แต่การใช้ช่องทางอื่นอาจหมายถึงการสร้างแพลตฟอร์มชำระเงินขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็จะมาพร้อมต้นทุนการพัฒนาซึ่งอาจมีเพียงบริษัทผู้พัฒนารายใหญ่เท่านั้นที่สามารถแบกรับต้นทุนส่วนนี้และคว้าประโยชน์ไปได้
ฝั่ง Play Store จากค่าย Google ก็ถูกตรวจสอบเช่นกัน แต่แพลตฟอร์ม Android เปิดกว้างให้ผู้พัฒนาสามารถใช้ช่องทางชำระเงินอื่นได้ ส่วนถ้าผู้พัฒนาใช้ระบบชำระเงินของ Google ก็จะถูกหักส่วนแบ่งรายได้ด้วยอัตราเดียวกับ Apple ที่ 30%
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศแรกที่ผ่านร่างกฎหมายห้ามบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มบังคับผู้พัฒนาต้องใช้ระบบการชำระเงินของแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผลให้บริษัทพัฒนาแอพพลิเคชั่นสัญชาติเกาหลีใต้สามารถรับชำระเงินโดยไม่ถูกหักส่วนแบ่งรายได้
การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดที่เปิดกว้างให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นใช้ระบบรับชำระเงินอื่นที่ไม่ต้องเสียส่วนแบ่งรายได้ 30% ให้ Apple จึงยังไม่สามารถเรียกได้ว่าสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อพื้นฐานบริษัท Apple และแทบไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยยะต่อการเติบโตของ Apple
1
แต่ข่าวนี้ปลุกกระแสความกังวลเกี่ยวกับการผูกขาดตลาดซึ่งเป็นประเด็นหลักที่รบกวนบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกมาโดยตลอด จึงพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมราคาหุ้น Apple ถึงร่วงกว่า 3%
ในทางกลับกันหาก Apple เดินหน้าแก้ไขข้อกำหนดเพื่อลดโอกาสถูกตรวจสอบกรณีผูกขาดตลาดพร้อมเพิ่มรายได้ทั้งจากส่วนอื่นในกลุ่ม Services และผลิตภัณฑ์อื่น เช่น iPad, Mac และอุปกรณ์เสริม ก็ทำให้ราคาหุ้นที่ร่วงครั้งนี้เป็นโอกาสท่ามกลางข่าวร้ายชั่วคราว
ชอบ "กดถูกใจ" ใช่ "กดแชร์"
แล้วพบกับบทความดี ๆ จาก SkillLane อีกมากมาย
กดติดตามไว้ได้เลย!
พบกับคอร์สออนไลน์การเงินการลงทุน โดยกูรูระดับประเทศที่ SkillLane
👉 คลิกเลย https://skl.website/3lo4JeF
โฆษณา