4 ต.ค. 2021 เวลา 02:00 • ท่องเที่ยว
Chapter 11 : Taiwan I'll Be Back
วุ้ย ใครว่าไต้หวันมีแต่ชาไข่มุก (เรื่องเก่าเล่าใหม่ 😁)
ต้องขอออกตัวอีกครั้งนะคะว่าความตั้งใจจริงของ Blog นี้คือการเล่าเรื่องการเดินทางครั้งใหม่ๆ ที่ได้ไปมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ย้อนกลับมามาคุอีกครั้งตอนสิ้นปี 2020 ทำให้ความหวังในการเดินทางท่องเที่ยว (แม้แต่ในประเทศ) ก็ยังริบหรี่ เลยทำให้ไม่มีการเดินทางที่ update เลย เราก็เลยต้องขุดเอาประสบการณ์การเดินทางเก่าๆ ที่เมื่อย้อนกลับไปคิดถึง ก็ยังคงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและสนุกเสมอมาเล่าแทน 😊
ใครจำกันได้มั่งว่า F4 เรื่องแรกสุดที่ดังถล่มทลายมาจากประเทศไหน…ใช่แล้ว ไต้หวันนั่นเอง (พูดไปก็แสดงถึงความแก่เพราะมันผ่านมาร่วม 20 ปีได้ละ 😱) สมัยก่อนที่ F4 จะดัง เรานี่แทบจะไม่รู้จักประเทศไต้หวันเลยนะ คนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจเหมือนเราว่าไต้หวันเป็นประเทศอุตสาหกรรมจ๋าๆ ที่มีแต่โรงงานผลิตโน่นนี่เต็มไปหมด
แต่พอละคร F4 มานี่แหละถึงเปิดโลกทัศน์ให้เราได้รู้ว่าไต้หวันนี่เค้าโคดเจริญอ่ะ บ้านเมืองสวย สะอาด เป็นระเบียบกว่าไทยแลนด์แดนสยามนัก 🥴 แต่ตอนนั้นมันยังไม่มีกระแสไปเที่ยวตามรอยละครดังเหมือนในสมัยนี้ คนก็เลยยังไม่ได้ฮิตไปไต้หวันมากนัก
แต่อยู่ๆ ประมาณช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา กระแสท่องเที่ยวไต้หวันก็เปรี้ยงปร้างมาเลย อาจจะเป็นเพราะคนไทยเคยไปญี่ปุ่น เกาหลีจนพรุนแล้ว อาจจะอยากหาที่ใหม่ๆ เที่ยว ไต้หวันเลยดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยค่าครองชีพที่ไม่ได้สูงมาก ประกอบกับไต้หวันเปิดให้คนไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แถม Low Cost Airline ก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทำให้ราคาตั๋วไม่โหดร้ายมากนัก คนก็แห่ไปเที่ยวไต้หวันกันเต็มไปหมด ซึ่งเราก็เป็น 1 ในนั้นแหละ อิอิ
1
เดือนกรกฎาคมปี 2016 เราก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวไต้หวัน (ช่วงที่เค้าฮิตๆ ไปกันนั่นแหละ 😆) เพราะเป็นช่วงหยุดพักร้อนของที่บริษัทฯ พอดี มันเป็นพักร้อนซั้นนนสั้น แค่ 3-4 วันเอง ก็เลยคิดกันว่าจะไปไหนดี ไปญี่ปุ่นรึก็แพ๊งแพง ไปเกาหลีรึก็ไม่ใช่เวเรา คิดไปคิดมา ไปไต้หวันดีก่าเพราะยังไม่เคยไปเลย เห็นเค้าบอกมีที่เที่ยวเก๋ๆ ร้านอาหารน่าอร่อยเต็มไปหมด ก็อาศัยดูจากรีวิวที่เหล่า Youtuber ทั้งหลายพาเที่ยวนั่นแหละ ดีจังเลย ไม่ต้องหาข้อมูลเอง แค่เที่ยวตามเค้าพอ 😁
ทริปนี้ไปกันสั้นๆ แค่ 3 วันพอ เพราะก็ไม่รู้จะทำอะไร เรานั่งการบินไทยเหมือนเดิมตามประสาผู้ภักดีหวังสะสมไมล์ 555 ส่วนโรงแรมก็จองที่ Westgate Hotel แถวซีเหมินติง แนะนำเลย 👍โรงแรมดีมาก สะอาดสะอ้านสะดวกสบาย เพราะใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน (ใช้เวลาเดินแค่ 1 นาที) ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง และหาของกินสะดวกมาก
วันแรกของการเดินทาง ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 7.30 น. เครื่องถึงสนามบินเถาหยวนที่ไต้หวันประมาณเที่ยง ใช้เวลาบินแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งเอง ผ่าน ตม.ออกมาก็มารับกระเป๋าแล้วนั่งรถ taxi ไปโรงแรม Westgate Hotel เลย
ตกแต่งโรงแรมน่ารักดี มีตัวอะไรไม่รู้อ้วนๆ บินอยู่เต็มไปหมดเลย
Westgate Hotel
แต่เนื่องจากยังไม่บ่ายสองยังเข้าห้องไม่ได้ ก็เลยฝากกระเป๋าไว้แล้วออกไปเที่ยวที่แรกกันก่อน
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)
เป็นอนุสรณ์สถานที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1976 เพื่อเป็นการรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก ผู้เป็นที่รักและศรัทธาของชาวไต้หวัน
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)
ตัวอาคารสีขาวขนาด 4 ชั้นตั้งอยู่กลางจัตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) ภายในเป็นที่จัดแสดงเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีเจียงไคเชก รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว มีการจำลองพื้นที่ทำงานและขั้นตอนต่างๆ ในขณะปฎิบัติงานของท่านให้ชมด้วย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพิธีการเปลี่ยนเวรยามทหารให้ดูด้วยนะ
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)
บริเวณโดยรอบของอนุสรณ์สถานก็สวยงามมาก
เสร็จจากชมที่นี่ เราก็ไปหาอะไรหม่ำกันต่อเพราะเกือบจะหกโมงละ วันนี้เราไปร้าน hot pot ชื่อดังที่อยู่แถวซีเหมินติงนี่แหละ ใกล้โรงแรมดี ชื่อร้าน Mala Yuanyang Hotpot
Mala Yuanyang Hotpot
อืม มันก็แซ่บดีนะ เนื้อใช้ได้อยู่ แต่ปรุงน้ำจิ้มไม่เป็น เลยออกมารสชาติทะแม่งๆ 😬
Mala Yuanyang Hotpot
ข้อดีของที่นี่คือ ราคาบุฟเฟ่ต์รวมค่าเบียร์แล้วเรียบร้อย 🤩 ไต้หวันเบียร์ก็ไม่เลว
หลังจากทานอาหารอิ่มแปร้ ก็ไปเดินเล่นต่อที่ย่านซีเหมินติง (Ximending)
ซีเหมินติง จัดว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อปและแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น ที่ถูกเรียกว่า "ฮาราจูกุของไทเป" เลยนะ ที่นี่มีทั้งร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ร้านเก๋ๆ ให้นั่งชิลจิบเบียร์ คาราโอเกะ โรงหนัง ร้านขายของ รวมทั้งห้างใหญ่ๆ อีกเพียบ มีโชว์เปิดหมวกให้ดูด้วย เจ๋งดี
ซีเหมินติง (Ximending)
ช็อปกันนิดๆ หน่อยๆ เสร็จละก็กลับโรงแรมไปพักผ่อน จบวันที่ 1 ด้วยความเรียบง่าย
วันที่ 2 ตื่นสายๆ ไปหาอาหารเช้าด่วนๆ ทานที่ 7–11 แถวโรงแรม จากนั้นก็นั่งรถไฟไป กงก่วน (Gongguan) กัน
ภารกิจงวดนี้คือการตามหารองเท้า sneaker ของหลานชายและพี่เขย เราเลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกะการเดินตามร้านรองเท้าย่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีเหมินติง หรือกงก่วน
ร้านรองเท้าที่ไต้หวันนี่เยอะโฮก เดินกันได้เป็นวันๆ เลยนะ
เคยสงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมที่ไต้หวันนี่ถึงขายรองเท้าได้ราคาถูกกว่าประเทศอื่น แถมรุ่นรองเท้าก็เยอะกว่าบ้านเราเย๊อะเลย ก็ได้คำตอบมาว่า คนไต้หวันนิยมใส่รองเท้า sneaker หรือรองเท้าออกกำลังกายกันมาก ทำให้รองเท้าเข้ามาที่ไต้หวันเยอะ แถมภาษีนำเข้าเค้าก็ไม่แพงเหมือนบ้านเรา เลยเป็นที่มาว่าทำไมรองเท้าที่นี่ถึงราคาถูกกว่าเรา
จากกงก่วน เราไปทานอาหารเที่ยงกันที่ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
หูววว ตลาดปลาไรเนี่ยไฮโซหรูหราหมาเห่ามาก มันมีโซนขายอาหารทะเลสดที่ให้ลูกค้าซื้อแล้วไปให้เชฟปรุงให้ทานหรือซื้อกลับบ้าน กะโซนนั่งทานและยืนทานที่จะมีเมนูให้เลือก เราก็จิ้มๆ ไป แล้วเชฟก็จะปรุงให้ทานกันสดๆ เห็นๆ เลย เป็นครัวแบบเปิดอ่ะ
ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโซนขายเนื้อสัตว์ ร้านขายของชำ ตลาดดอกไม้ และบาร์เก๋ๆ ด้วยนะ คือร้านสวยมากอ่ะ เข้ามาแล้วประทับใจ (สมัยก่อน ไม่เคยมีร้านเก๋ๆ แบบนี้ แต่หลังจากร้านนี้ฮิตโตะ คนไทยก็ทำร้านอาหารคล้ายๆ กัน สวยไม่แพ้กันเลย รู้สึกจะชื่อร้าน Shinsen Fish Market)
วันที่เราไปคนเยอะพอสมควร ต้องคอยคิวแป๊บนึง ลูกค้าที่เห็นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซะเยอะเลย
เอาล่ะ อิ่มกันแล้วก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ ตึกไทเป 101 (Taipei101)
ตึกไทเป 101 (Taipei101)
ตึกไทเป 101 ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวไต้หวันเลย เพราะตึกนี้เคยถูกจัดให้เป็นตึกที่สูงที่สุดของโลกในช่วงปี ค.ศ. 2004-2010 ด้วยความสูง 101 ชั้นที่อยู่เหนือพื้นดิน และ 5 ชั้นอยู่ใต้ดิน
ตึกนี้ได้รับการรับรองจาก Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) ให้เป็นอาคารสีเขียวที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดอีกด้วย
คนกลัวความสูงอาจจะหวาดเสียวกันซักหน่อย
ตึกไทเป 101 (Taipei101)
ภายในตึกนอกจากจะเป็นอาคารสำนักงานแล้ว ยังมีร้านอาหารและภัตตาคาร ช็อปปิ้งมอลล์ ร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ มากมาย
ตึกไทเป 101 (Taipei101)
ไฮไลต์ของตึก 101 คือ Damper Baby มาสคอตหน้าตาเหมือนหลอดไฟ
เจ้า Damper นี่คือลูกตุ้มยักษ์สีทองขนาดใหญ่มหึมา มีน้ำหนักถึง 660 ตัน เป็นเหมือนตัวที่คอยพยุงตึกไว้ ป้องกันไม่ให้ตึก 101 สั่นไหวโคลงเคลงเนื่องจากแรงลมพายุ เพราะว่าด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นเกาะของไต้หวัน ทำให้มีการเกิดพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวรุนแรงอยู่บ่อยๆ
ทีแรกตั้งใจว่าจะไปหมู่บ้านจิ่วเฟิน แต่ช่วงที่ไปอากาศไม่ค่อยดี ฝนตกตลอด ก็เลยเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวคราวหน้ามาใหม่ 😆
จบจากตึก 101 ก็เลยกลับมาเดินเล่นแถวซีเหมินติง หาข้าวเย็นทานก็เป็นอันจบวันที่ 2
วันสุดท้าย ตื่นมาเก็บข้าวของเตรียมตัวจรลี หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ก็ไปไหว้พระที่วัดหลงซาน
วัดหลงซาน (Longshan Temple) เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป ตั้งอยู่ในแถบย่านเมืองเก่า มีอายุเกือบ 300 ร้อยปีแล้ว สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี๊ยนช่วงปีค.ศ. 1738
วัดหลงซาน (Longshan Temple)
เดิมวัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่ก็จะมีเทพเจ้าองค์อื่นๆ ตามความเชื่อของชาวจีนอีกมากกว่า 100 องค์ที่ด้านใน
ภายในวัดสวยงามมาก
วัดหลงซาน (Longshan Temple)
ออกจากวัดแล้ว ไม่รู้จะไปไหนต่อ ไป Fish Market อีกดีกว่า 🤣🤣🤣 (บอกละ ทริปนี้ว่างจัด ไม่มีไรทำ)
ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
ลุงคนขับ taxi กรุณามาก อุตส่าห์บอกพวกเราว่า จริงๆ คนไต้หวันเค้าไม่มาทานอาหารทะเลที่นี่กันหรอกเพราะมันแพง มันมีเอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยว 🤣 ถ้าเป็นคนไต้หวันเค้าไปอีกที่นึงกัน เราก็…เอาวะ ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาละ บรรยากาศที่นี่มันก็โอเคอยู่ ถึงจะโดนฟันนิดหน่อย 🥴 ไว้คราวหน้ามาใหม่จะไปจัดย่านที่ลุงเค้าแนะนำ
เชื่อมะ เสร็จจากที่นี่ ก็ยังจะไปซ้ำนมไข่มุกร้านลุงแว่นกันอีกรอบ
ร้านเฉินซานติ่น (นมไข่มุกลุงแว่น)
อ้อ ลืมเล่าว่าที่กงก่วนมีร้าน "นมไข่มุก" ไม่ใช่ "ชานมไข่มุก" อยู่ร้านนึง ชื่อร้านเฉินซานติ่น หรือร้านลุงแว่นแห่งย่านกงก่วน อร่อยมากกกกก (สำหรับเรานะ คนอื่นไม่รู้ 😁) โคดชอบเลย มะวานที่มาเดินหารองเท้าก็ซื้อมาทานกันแล้วรอบนึง วันนี้ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร นั่งรถไฟมาซื้ออีกรอบ กินมันให้จุใจก่อนกลับเลย 🤣
ไข่มุกที่นี่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยทานมาเลย หอมน้ำตาลทรายแดง ไม่หวานจนเกินไป ดื่มพร้อมกะนมสดซึ่งก็เป็นนมขวดนี่แหละ แต่มันช่างเข้ากั๊นเข้ากัน เอาเป็นว่าถ้ามีใครมีโอกาสมาเที่ยวย่านกงก่วน อย่าลืมแวะมาทาน "นมไข่มุก" ร้านลุงแว่นกันน้า
โอเค มาชิมลางเที่ยวไต้หวันกันจุ๊บๆ จิ๊บๆ พอหอมปากหอมคอละ ก็ได้เวลากลับบ้านกันซะที
ถ่ายรูปเล่นกันอีก สนามบินสวยดี 😁 ไปละ เดี๋ยวตกเครื่อง
เป็นอันว่าจบทริปไต้หวันซ้าาาานสั้น 3 วัน 2 คืน ของเราละ ไอ้ที่แพลนๆ ว่าจะไปก็ขี้เกียจเพราะฝนตกแหมะๆ ทุกวัน ไม่รู้จะไปไหนก็เลยไปมันแต่ที่เดิมๆ ที่ชอบ 😆 แต่ตั้งใจไว้ว่าเดี๋ยวจะต้องกลับมาซ้ำไต้หวันอีกแน่นอนเพราะถูกจริตมาก ของกินน่าสนใจเยอะ
อีกอย่างที่ประทับใจก็คือคนไต้หวันน่ารักนะ เป็นคนมีระเบียบวินัยคล้ายๆ ญี่ปุ่นเลย ไม่ได้เหมือนคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่จะดูยุ่งเหยิงอยู่ซักหน่อย ทำอะไรก็ต้องรีบๆ แย่งๆ กันอะไรแบบนั้น ประเทศก็สะอาดสะอ้านมาก ระบบสาธารณะดีสะดวกมาก โดยรวมคือชอบไต้หวันมากค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ 😊
โฆษณา