16 ก.ย. 2021 เวลา 14:04 • สุขภาพ
ความหวังของเด็กอนุบาลและประถมศึกษา ที่จะมีวัคซีนฉีดก่อนไปโรงเรียน โดย Sinopharm ทดลองในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป พบว่ามีความปลอดภัยและภูมิคุ้มกันขึ้นสูง
2
จากปัญหาการเปิดโรงเรียนในหลากหลายประเทศ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน แล้วพบว่ามีการติดเชื้อจนต้องปิดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่งนั้น
ขณะนี้ หลายบริษัทได้เร่งทำการทดลองการฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่างๆกัน เช่น
Pfizer และ Moderna ทดลองในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และได้รับอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน กำลังเร่งทดลองในเด็กอายุ 5-11 ปี
Sinovac และ Sinopharm ก็ทดลองฉีดตั้งแต่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป และได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศจีนแล้ว
แต่ทางการจีนก็ยังเน้นฉีดเด็กมัธยมศึกษาอายุ 12 ปีขึ้นไป ยังไม่เร่งฉีดในเด็กอนุบาลและประถมศึกษา
ขณะนี้บริษัท Sinopharm ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาทดลองใน Lancet ซึ่งเป็นวารสารการแพทย์ระดับโลก เป็นที่เชื่อถือจากประเทศตะวันตก
1
โดย Sinopharm ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย และมีแนวโน้มที่จะมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เคยฉีดในวัคซีนหลายชนิดมาหลายสิบปีในเด็ก
3
เช่น วัคซีนป้องกันไอกรน วัคซีน ป้องกันโปลิโอชนิดฉีด วัคซีนป้องกันตับอักเสบ และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
1
จึงมีพ่อแม่และผู้ปกครองหลายคน ที่ตั้งตารอผลการศึกษาของวัคซีนเชื้อตาย เพื่อที่จะได้ฉีดให้กับบุตรหลานของตนเอง
ขณะนี้มีข่าวล่าสุดว่า ผลการทดลองในเฟสหนึ่งและสองของวัคซีน Sinopharm ในเด็กอายุ 3-17 ปีได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ
3
โดยทำการแบ่งเด็กออกเป็นสามช่วงอายุ
ช่วงแรก 3-5 ปี
ช่วงที่สอง 6-12 ปี
ช่วงที่สาม 13-17 ปี
โดยฉีดวัคซีนสามขนาดด้วยกัน คือ 2,4,8 ไมโครกรัม
พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นได้สูงทั้งสามกลุ่ม แม้จะได้มีการทดลองฉีดสามเข็มห่างกันเข็มละหนึ่งเดือน แต่ผลสรุปว่า การฉีดวัคซีนเพียงสองเข็ม ด้วยขนาดกลางคือ 4 ไมโครกรัม ก็กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี
1
ที่สำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยและผลข้างเคียง พบว่ามีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย
ที่พบบ่อยคือ เจ็บตำแหน่งที่ฉีด และมีไข้บ้าง ซึ่งก็หายได้ในเวลาไม่กี่วัน
จากงานวิจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นเฟสหนึ่งและสอง ทำให้เป็นความหวังในระยะเวลาอันใกล้นี้ ถ้าผลการวิจัยเฟสสาม ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ สรุปออกมาว่ามีความปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงแล้ว
2
เด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา ก็จะมีวัคซีนฉีดกัน ซึ่งโชคดีสำหรับประเทศไทย ที่เราได้สั่งวัคซีน Sinopharm ผ่านทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เข้ามาแล้วหลายล้านโดส
2
เมื่อมีการศึกษาเรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก ก็จะสามารถฉีดให้กับเด็กไทยได้ต่อไป
2
Reference
โฆษณา