Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
•
ติดตาม
19 ก.ย. 2021 เวลา 07:09 • ท่องเที่ยว
ล่องน้ำของ(1)
เรื่อง/ภาพ นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
ไปหลวงพระบางเมื่อยามแล้ง กลางเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๔๒ โชคดีที่มีพี่ป่อง-คุณรังสิต จงญานสิทโธ นักดนตรีวง "ต้นกล้า" ร่วมทางไปด้วย เวลายาวนานสองวันเต็มที่อยู่ในเรือโดยสารจากเชียงของ เมืองเชียงราย ถึงเมืองหลวงพระบาง จึงมีเสียงซอพี่ป่องบรรเลงขับกล่อมให้รื่นรมย์ตลอดเส้นทาง พวกเรายึดที่นั่งด้านหัวเรือเป็นที่วางข้าวของ ทั้งกระเป๋าสัมภาระและกระเป๋าของกิน พอพี่ป่องเริ่มพรมนิ้วชักคันซอบรรเลงเพลง ก็มีหนุ่มลาวและสาวลาวมาร่วมแจม ครึกครื้นม่วนซื่นกันทั้งลาว ไทย ฝรั่ง คุณป้าอลิซาเบธนั้นอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมาจากมิชิแกน สหรัฐอเมริกา คุณป้าบอกว่าตั้งใจจะแวะเมืองหลวงพระบางสักพักแล้วค่อยไปเมืองจีน ส่วนสาวลาวอารมณ์ดีที่มานั่งคุยนั่งร้องเพลง และติดใจเสียงดนตรีพี่ป่อง จนเรือจอดท่าไหนเป็นต้องขึ้นฝั่งไปซื้อ "เบียร์ลาว" รสนุ่มละมุน มาเลี้ยงนักดนตรีตลอดทางนั้น ชื่อเอื้อยวันกับเอื้อยแดง
ทั้งสองคนทำมาหากินเก่ง ขึ้นล่องเชียงของ-หลวงพระบาง ซื้อสินค้าจำเป็นจากฝั่งไทยพาไปขายให้กับชาวบ้านลาว จำพวกบะหมี่สำเร็จรูป แชมพู ผงซักฟอก เครื่องสำอาง รองเท้าแตะ เครื่องใช้พลาสติกต่างๆ ฯลฯ เอื้อยแดงกำชับนักหนาว่า อาชีพแบบนี้ตามปากคนลาวต้องเรียก "ค้าเครื่อง" ห้ามเรียก "ขายของ" เด็ดขาด เพราะจะไพล่ไปหมายถึงขายของประจำตัวที่แม่ให้มา จึงต้องจำให้ดี อย่าเผลอพูดตามปากไทย ถือว่าดูถูก สาวลาวได้ยินโกรธกันตายไปเลย
.
ผู้หญิงหลวงพระบางทำการค้าเช่นนี้หลายคน ชวนให้สงสัยจนต้องตะโกนถามเอื้อยแข่งกับเสียงเครื่องยนต์เรือว่า แล้วผัวเอื้อยไปไหน ถึงปล่อยให้เมียวิ่งล่กๆแบกสินค้าถุงเบ้อเริ่มเทิ่ม ขึ้นล่องเรืออยู่คนเดียว
.
ทั้งสองเอื้อยบอกตรงกันว่า-เลิกกับมันแล้ว อยู่คนเดียวสบายกว่า แถมบอกอีกว่าผู้หญิงหลวงพระบางเป็นหม้ายกันมาก พบได้ทั่วไป มีทั้งเมือง เนื่องจากผู้ชายเมืองหลวงไม่ชอบทำงาน กินแต่เหล้า เอาแต่เกาะเมียกิน โมโหขึ้นมาลงไม้ลงมือ ตบเตะเมียเสียอีก เลยไม่รู้จะเอามันไว้ทำพระแสงอะไร--ตรงนี้เอื้อยพูดตามปากไทยได้อย่างชัดแจ้ง
.
เฮ้อ...หนุ่มไทยสามสี่คนที่ร่วมขบวนไปด้วยถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคุณสมชัย จากเมืองระยองนั้นดูท่าจะเห็นใจเอามากๆ ส่วนพี่ป่องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สีซอบรรเลงเพลงเซเรเนด เอาใจคุณป้าอลิซาเบธที่ยิ้มร่าอย่างชอบใจ
.
ไปหลวงพระบางที่คนลาวเรียก "เมืองหลวง" ในคราวนี้ ผู้ร่วมเดินทางแต่ละคนต่างมีจุดหมายของตัวเอง พี่ป่องตั้งใจจะไปต่อเพลง ไปหาครูเพลงพื้นบ้าน หาลายเพลงเก่าๆ และเยี่ยมเยือนบ้านเมืองกับเส้นทางที่เคยผ่านเข้าไปเมื่อร่วม ๒๐ ปีก่อน ตั้งแต่ครั้งยังเป็น "สหาย" ในสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ส่วนพ่อ-อาจารย์ล้อม เพ็งแก้ว ก็ตั้งใจจะไปหาข้อมูลเรื่องเหรียญชนิดต่างๆทั้งเงินจีน เงินแถบ เงินหมัน ดังที่เคยเขียนเล่าให้ผู้อ่านศิลปวัฒนธรรมได้ผ่านตาไปแล้วหลายตอน สำหรับดิฉันนั้น นอกจากจะไปเยี่ยมยามกราบไหว้ญาติทางเมืองหลวงแล้ว ก็สนใจมันเรื่อยไป สงสัยมันเสียทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเส้นทางและตำแหน่งร่องน้ำในแม่น้ำโขง ที่คนลาวออกเสียงว่า "น้ำของ"
.
เรือโดยสารที่พาพวกเราเดินทางล่องสู่หลวงพระบาง เริ่มบ่ายหัวออกจากท่าเมืองห้วยทรายแขวงบ่อแก้ว ฝั่งตรงข้ามเมืองเชียงของตั้งแต่ราวๆ เพล พวกเราเตรียมอาหาร ข้าวกล่อง น้ำ และกองทัพขนมนานาชนิดอัดแน่นเต็มกระเป๋า เพราะไปข้างหน้าหาของกินลำบาก เรือช้าแบบนี้บรรทุกผู้โดยสารได้เต็มที่ในราวสามสิบกว่าคน แล้วยังบรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก ดิฉันเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องคนขับเรือ ซึ่งชื่ออ้ายผุย วันนี้ยังไม่คุ้นกัน เลยขอแค่ไปนั่งข้างๆอ้ายเพื่อดูบรรยากาศแม่น้ำก่อน อ้ายผุยบอกว่าเรือจะแล่นแท่ดๆไปตามสายน้ำ แล้วจะไปค่ำให้นอนค้างคืนได้พอดีที่ปากแบ่ง เช้ารุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อ กว่าจะไปถึงชายฝั่งหน้าเมืองหลวงพระบางก็เย็นย่ำ รวมเวลาเดินทางสองวันเต็มๆ
ระหว่างนั่งเรือดูแม่น้ำ อ้ายผุยให้ความรู้ว่า ก่อนถึงปากแบ่ง แม่น้ำของมี "แก่งฮ้าย(ร้าย)" อยู่มาก เป็นจุดที่น้ำเชี่ยววน คดเคี้ยว อย่างเช่นแก่งแผ่ว และคอนดิน ซึ่งมีเรือจากเชียงแสนมาล่มบ่อยๆ เวลาโดนน้ำฟาดไปตำหิน แต่ที่ "ฮ้ายสุด" บนเส้นทางปากแบ่งไปเมืองหลวงพระบางคือแก่งฮ่างน้อย เพราะสองฝั่งมีหินใหญ่สองก้อนตำกัน ประจันหน้ากันอยู่ ทำให้น้ำเชี่ยวแรง มีอันตรายมาก
.
ตำนานแม่น้ำ
.
แม่น้ำโขงในเดือนเมษายนแห้งงวดกว่าปกติ ตลอดเส้นทางมีคนร่อนทองให้เห็นเป็นระยะๆ สองฝั่งน้ำต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ฝั่งไทยมีแต่บ้านคนและพงหญ้ารก ต้นไม้ใหญ่มีน้อย ขณะที่ฝั่งลาวเต็มไปด้วยไม้สูง ไพรระหง หมู่บ้านตั้งห่างๆกัน หากบริเวณไหนมีบ้านคนหนาแน่น จะพบเด็กๆเล่นอยู่ชายน้ำ เด็กเยอะจริงๆ บางที่เรียกว่ายั้วเยี้ยเลยก็ได้ เคยคุยกับเพื่อนซึ่งทำงานในองค์กรระหว่างประเทศ เขาเล่าว่าอัตราการเกิดของเด็กลาว เด็กเขมรมีสูงมาก คนลาวตามที่ห่างไกลไม่มีการคุมกำเนิดใดๆ จึงออกลูกกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะยังมีที่ทำกินพอแจกกันเหลือเฟือ
ระหว่างทางนานๆหลายชั่วโมงจะผ่านวัดที่อยู่ริมน้ำบ้าง บนแก่งหินกลางน้ำมีเณรน้อยเกือบ ๒๐ คนถอดจีวรเหลือง กองโปะๆไว้บนหิน กระโดดหงายหลังทิ้งตัวลงแม่น้ำกันตูมๆ ดำผุดดำว่ายเล่นไล่จับเสียงดัง เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำ--เอ้อ นี่เราลืมไปตั้งนานแล้วว่า เณรก็เป็นเด็กเหมือนกัน!
.
ขณะนั่งเอามือวักน้ำโขงเล่น ดิฉันหวนนึกถึงตำนานพื้นบ้านเรื่องน้ำคง(สาละวิน)-น้ำของ ที่เคยได้ฟังมานานแล้ว เป็นเรื่องเก่า หากไม่ได้เล่า(ต่อ)เดี๋ยวจะหลงลืมกันไป
.
น้ำคงน้ำของมีกำเนิดที่แคว้นคำ มณฑลชิงไห่ ประเทศจีน ในอดีตนั้นนายคงนายของแข่งกันว่า ใครขุดแม่น้ำออกทะเลได้ก่อนจะชนะ เล่ากันว่าน้ำของไหลระรินนุ่มนวล เซาะซอนเลี้ยวลดไปตามหุบเขา เส้นทางยืดยาว ส่วนน้ำคงขี้โกง ตัดตรงทะลุแผ่นดินและภูผา เจาะช่องเขาลงมาอย่างเกรี้ยวกราด แรงเชี่ยวกรากดุดันของน้ำคงมีมากจนเล่ากันว่า บางแห่งแม้แต่ใบไม้สักใบยังไม่อาจลอยแตะผิวน้ำ เพราะมีวังน้ำวนที่จะดูดกลืนทุกสิ่งจมหาย ไม่ให้เหลืออะไรผ่านผิวน้ำไปได้
.
การแข่งขันจบลงที่วิธีขี้โกงของน้ำคง รีบรุดเจาะช่องเขาลงใต้ เต็มไปด้วยแก่งหินอันตรายโหดร้าย
.
สองลำน้ำขึ้งโกรธกันมาแต่บัดนั้น ชาวบ้านเชื่อว่า น้ำสองสายไม่มีวันรวมกันได้ หากต้องมาบรรจบกันวันใด ความพินาศฉิบหายจะคอยอยู่ข้างหน้า ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
.
เพราะแค่เอาน้ำคงน้ำของใส่ขวดแก้วรวมกัน ขวดก็แตกเปรี๊ยะให้เห็นมาแล้ว-คนที่เล่าเรื่องว่าไว้อย่างนั้น
.
แต่มาวันนี้ ตำนานที่เล่าต่อมาหลายชั่วอายุคนกลับถูกเหวี่ยงทิ้งไม่ไยดี ไม่มีใครใส่ใจค้นหาความหมายเบื้องหลัง ขณะที่เทคโนโลยีและความโลภของรัฐบาลไทย กำลังผลักดันให้เกิดอภิมหาโครงการ วางแผนจะสูบน้ำคงผ่านแม่ฮ่องสอน มาลงน้ำแม่แจ่ม และไปรวมกับน้ำของโดยสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นไว้รองรับ แล้วจะผันน้ำสองสายนี้มารวมกันลงแม่น้ำเจ้าพระยา
.
คนเล่าตำนานให้ฟังทำท่าสยดสยอง ย้ำแล้วย้ำอีก สองแม่น้ำรวมกันเมื่อใด บรรลัยจริงๆ ส่วนใครจะรับความพินาศฉิบหายบ้างนั้น แน่ชัดอยู่แล้วว่า หมายเลข ๑ ก็คือประชาชนตาดำๆที่ต้องเฉลี่ยแบ่งปันความวินาศร่วมๆ กันไป
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย