20 ก.ย. 2021 เวลา 01:08 • ธุรกิจ
เกาหลีใต้จากประเทศที่เคยมีรายได้พอๆกับไทย เขาทำอย่างไรจึงทำให้ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยมากกว่าคนไทยถึง 4 เท่า
ที่มา  H2 View South Korean hydrogen council to be launched this week
ย้อนไปเมื่อ 60 ปีที่แล้วคือปี ค.ศ. 1960 หรือ พ.ศ. 2503 ในช่วงเวลานั้นทั้งไทยและเกาหลีใต้ ต่างมีรายได้เฉลี่ยต่อคนที่ 440 บาท/เดือน ผ่านมาถึงปัจจุบันนี้คนเกาหลีใต้ มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 85,000 บาท ในขณะที่คนไทยมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 20,000 บาท หรือ 4 เท่ากว่าๆ
เมื่อมามองดูเงื่อนไขของเกาหลีใต้ จะเห็นว่าหนักหนาสาหัสกว่าประเทศไทยมาก เป็นประเทศที่ถูกแบ่งแยกเป็นเหนือ-ใต้ เป็นประเทศที่เคยถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศยากจนในแถบประเทศเอเชียตะวันออก รวมถึงทรัพยากรก็แทบจะมีไม่มีอะไร ทำการเกษตรก็ได้เพียงปีละครั้ง เพราะมีหน้าหนาวที่แสนโหดร้าย แล้ว 60 ปีที่ผ่านมาเขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาแซงไทยแทบทุกด้านได้อย่างไร
ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวเกาหลีในชนบทก็ล้วนแล้วแต่ทำการเกษตร แบบตามมีตามเกิด ซึ่งก็ไม่ต่างจากประเทศไทย ในยุคนั้นผลผลิตทางการเกษตรก็ต่ำมาก ทั้งยังต้องใช้แรงงานจำนวนมาก แล้วยังเป็นแรงงานที่มีคุณภาพต่ำอีกต่างหาก ใช้ทั้งเวลาที่นานและต้นทุนการผลิตที่สูงเมื่อเทียบกับผลผลิตที่ออกมา
ที่มา  Flickr 1960 Korean Street Life ~ Marketplace Near Seoul | Korean st… | Flickr
หลังจากที่แยกตัวมาเป็นประเทศเกาหลีใต้ในปี ค.ศ. 1950 หรือ พ.ศ. 2493 ก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่ เพราะเกาหลีเหนือได้อุตสาหกรรมหนักไปเป็นส่วนใหญ่ ที่สร้างรายได้จำนวนมาก แต่เกาหลีใต้ ได้การเกษตรและการประมงมา ในสมัยนั้นการที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ก็จะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกเพื่อสร้างรายได้
ณ ช่วงเวลานั้นค่าจ้างแรงงานของเกาหลีใต้ก็ไม่สูงเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่มีพื้นฐานใกล้เคียงกัน จึงทำให้เป็นฐานการผลิตที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งโรงงาน
อีกอย่างที่สำคัญคือเกาหลีใต้เป็นรัฐกันชนหรือหนังหน้าไฟ ระหว่างประเทศฝั่งประชาธิปไตยที่นำโดยสหรัฐอเมริกา กับฝั่งคอมมิวนิสต์ที่นำโดยโซเวียตและประเทศจีน ทำให้เกาหลีใต้ได้รับเงินลงทุนจากประเทศฝั่งประชาธิปไตยหลายชาติ
ที่มา CNN North Korea launches second ICBM missile
แต่ทว่าการเป็นประเทศที่เปิดรับเงินลงทุนจากต่างชาติ ก็จะทำให้มีสถานะเป็นเพียงประเทศผู้รับจ้างผลิตเท่านั้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลายประเทศพบกับปัญหานี้ ที่ทำให้ไม่สามารถขยายฐานรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้เท่าไร
ดังนั้นเกาหลีใต้จึงได้มียกระดับเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม โดยการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ เพราะจะได้สร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกกลุ่มธุรกิจนี้ว่า “กลุ่มแชโบล” เช่น SAMSUNG LG HYNDAI Lotte SK Group เป็นต้น
ในช่วงเวลานั้นเกาหลีใต้ก็เกิดความวุ่นวายทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการประท้วงทั้งการยึดอำนาจของทหาร แต่ทว่าในช่วงปี ค.ศ. 1960 รัฐบาลทหารของประธานาธิบดีปาร์ค จุง ฮี มีนโยบายในการส่งเสริมกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ให้มีศักยภาพเพื่อไปแข่งขันกับต่างประเทศ โดยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าเป็นการค้ำประกันเงินกู้ เอื้อกฎหมายให้สะดวกต่อการทำธุรกิจ และอีกหลายมาตรการ ทำให้เกาหลีใต้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
ที่มา  The Korea Times Is South Korean President considering martial law?
โชคดีที่ยุคสมัยนั้นไม่มีโซเชียลเน็ตเวอร์คอย่างทุกวันนี้ ไม่งั้นรัฐบาลคงโดนแซะโดนโจมตีจนทำอะไรไม่ได้ เพราะมีผู้เสีบผลประโยชน์มากมายจากมาตรการของรัฐ ที่สำคัญมีผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงไม่กี่กลุ่ม จึงทำให้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ในระยะเวลาไม่กี่สิบปี
ในช่วงปี ค.ศ. 1960-1980 การส่งออกที่เคยอยู่ที่ 3% ของ GDP (ผลผลิตมวลรวม) กลายมาเป็น 35% ของ GDP ระยะเวลาเพียง 20 ปี มูลค่าการส่งออกของเกาหลีใต้โตขึ้นเกือบ 12 เท่า ทำให้รายได้ของเกาหลีใต้ หนีห่างประเทศไทยออกไปหลายเท่า ในช่วงนั้นประเทศไทยเราเองก็วุ่นวายอยู่กับการประท้วงการยึดอำนาจของเหล่าบรรดานายพลทหาร
ที่มา ThinkaboutWealth
ปัจจุบัน “กลุ่มแชโบล” มีการขยายอิทธิพลไปมากขึ้น ทั้งเรื่องอิทธิพลทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ อิทธิผลต่อสังคมในประเทศ และอีกหลากหลายทาง จนกลายมาเป็นประเด็นว่า “กลุ่มแชโบล” มีอำนาจมากเกินไปหรือไม่ในสังคมคนเกาหลีใต้ ทั้งยังปิดกั้นการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ
ส่งผลให้คนในประเทศเกาหลีใต้มีการแข่งขันกันกันสูง เพื่อที่จะได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ๆเหล่านี้ สร้างความกดดันให้กับเด็กๆนักเรียนนักศึกษา ทำให้เกิดระดับความเครียดที่สูงมาก ทำให้มีอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงด้วย
1
ในปัจจุบันรูปแบบการดำเนินการของเกาหลีใต้ ว่ากันว่าประเทศจีนลอกเอาไปเต็มๆ โดยเริ่มจากการรับจ้างผลิตและพัฒนาสินค้าเป็นของตัวเอง จะเห็นได้ว่าประเทศจีนมีแบรนด์สินค้าระดับโลกมากมายเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ แต่จีนได้เปรียบตรงที่มีทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคลมากกว่า และจีนยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเกาหลีใต้ด้วย หากปล่อยเป็นแบบนี้อีกไม่นาน รายได้จากการส่งออกของเกาหลีใต้ต้องลดลงอย่างแน่นอน
ที่มา THiNKNET
รัฐบาลเกาหลีใต้รู้ตัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 แล้วว่ายังไงจีนก็เติบโต จึงทำให้เกิดนโยบายการส่งเสริมวัฒนธรรม ความเป็นเกาหลีให้ชาวโลกได้รับรู้ โดยเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา เป็นที่มาของละครและภาพยนตร์ของเกาหลี รวมถึงความร้อนแรงของ K-POP ที่กระจายไปทั่วโลก
ผู้คนทั่วโลกต่างรับรู้ในวิถีชีวิต อาหารการกิน สถานที่ต่างๆ และแบรนด์สินค้าต่างๆของเกาหลี ทำให้ความเป็นแบรนด์เกาหลีได้รับความนิยมการยอมรับและความเชื่อถือ
ช่วงที่ไปเยือนเกาหลีใต้
รัฐบาลเกาหลียังได้ส่งเสริมการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้นด้วย โดยมีการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท/ปี (4% ของ GDP) หรือ 50% ของงบประมาณของประเทศไทย ด้วยผลของการส่งเสริมในเรื่องนี้เราจะพบว่ามีมหาเศรษฐีใหม่ในเกาหลีใต้ ที่มาจากธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีหลายคน ที่สามารถแทรกกลุ่มธุรกิจแชโบลขึ้นมาได้
South Korea’s richest men include five billionaires whose net worth ranges from US$16.4 billion to US$3.1 billion. Photos: Handouts/Bloomberg via Getty Images/Hyundai Motor Group
แต่ทว่าในประเทศไทยกลับพบว่า มหาเศรษฐี 30 อันดับแรก ล้วนแล้วแต่มาจากอุตสาหกรรมเก่าแทบทั้งนั้น
แม้ว่าไทยและเกาหลีใต้ช่วงเริ่มต้นจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ปัจจุบันเกาหลีใต้สามารถเปลี่ยนจากประเทศผู้รับจ้างผลิต กลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า มีนวัตรกรรมส่งออกไปขายทั่วโลก
ด้วยความได้เปรียบของไทยที่สูงกว่าในเรื่องของทรัพยากร วัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง สามารถทำการเกษตรได้ทั้งปี มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม เราสามารถเรียนรู้จากเกาหลีใต้ได้ และสามารถนำมาปรับใช้ได้กับคนไทย ในการสร้างแบรนด์สินค้า ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา
มั่นใจมากๆว่ายังไงประเทศไทยก็สามารถก้าวไปเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของโลกได้
ที่มา  StartUp in Thailand
อ้างอิง
Facebook ประธานเหมียว, ศึกษา "เกาหลีใต้" จากรายได้พอๆ กับไทย แต่ตอนนี้รวยกว่า 4 เท่า!!
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
โฆษณา