25 ก.ย. 2021 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
การเป็นจักรพรรดินีในยุคสมัยที่ราชวงศ์ล่มสลายก็นับว่าโชคร้ายอยู่แล้ว แต่พระนางหวั่นหรงยังเสพติดฝิ่นจนสติไม่สมประดีอีก ยิ่งทำให้พระองค์ต้องเผชิญชะตากรรมที่สะเทือนใจเหลือทน และสิ้นพระชนม์ลงอย่างอนาถา
1
พระมเหสีของจักรพรรดิผู่อี้ (หรือปูยี) ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน เป็นผู้เลอโฉมมาแต่วัยเยาว์ พระนางหวั่นหรงประสูติในปี 1906 และอภิเษกเมื่ออายุสิบหกปีกับจักรพรรดิผู่อี้ เฉกเช่นสตรีผู้สูงศักดิ์มากมาย พระชมน์ชีพของพระนางได้รับการปรนเปรอ ไร้เป้าหมาย และเกือบจะปราศจากความรัก
2
พระนางเริ่มใช้ฝิ่นตั้งแต่ยังวัยเยาว์และไม่เคยเลิก เป็นเวลากว่าสิบปีจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิจีนผ่านกระบวนการปฏิวัติและการรุกรานในช่วงทศวรรษ 1920 และ 1930 ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกพระสวามีทอดทิ้งในเวลาต่อมา
4
พระนางทรงใช้ฝิ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปลอบพระทัยพระองค์เอง เมื่อถึงปี 1946 จักรวรรดิจีนก็กลายเป็นผุยผง พระนางหวั่นหรงทรงพยายามหลบหนีไปยังเกาหลี แต่ไม่สำเร็จ ถูกกองกำลังคอมมิวนิสต์จับได้ จักรพรรดินีองค์สุดท้ายจึงกลายเป็นนักโทษโดยสมบูรณ์ ทั้งจากพฤติกรรมของพระนางเองและจากจีนคอมมิวนิสต์
4
พวกคอมมิวนิสต์ที่ต่อต้านระบอบราชวงศ์ นำองค์จักรพรรดินีมาแสดงโชว์ โดยจับพระนางเข้าห้องคุมขัง ทำให้อับอาย และไม่ให้พระนางสูบยา จากนั้นก็อนุญาตให้ทหารและคนงานเรียงแถวเข้าดูผ่านกรงเหล็ก จ้องมองและหัวเราะเยาะได้
5
จักรพรรดินีหวั่นหรงมีพระอาการข้างเคียงจากการเลิกฝิ่นรุนแรงมาก พระองค์ทรงอยู่ท่ามกลางพระบังคนและพระอาเจียน ทรงบ่นพึมพำ กันแสง และเรียกหาบ่าวไพร่ที่ไม่มีตัวตน ผู้คุมต่างไม่ยอมทำความสะอาดและถวายพระกระยาหารให้ จนกระทั่งจักรพรรดินีเสด็จสวรรคตจากภาวะขาดอาหารและการขาดยาในปี 1946 ปิดฉากชีวิต 39 ปีอันแสนเศร้า กล่าวกันว่าพระศพของพระนางถูกห่อแล้วนำไปทิ้งอย่างไร้ใยดี จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าพระศพอยู่ที่ไหน
5
ในปี 1950 รัฐบาลคอมมิวนิสต์ออกกฎห้ามการผลิต ขาย และใช้สารเสพติดทุกชนิด นับจากที่อังกฤษเลิกค้าฝิ่นแล้ว จีนก็เริ่มปลูกต้นฝิ่นเอง ในตอนนี้ต้นฝิ่นทั้งหมดถูกเผา ฝังกลบ และเปลี่ยนมาผลิตอาหาร ฝิ่นที่เก็บไว้ทั้งหมดถูกเผา ถ้ำฝิ่นถูกทำลาย ผู้ขายและผู้เสพหลายหมื่นคนถูกจำคุก ฝึกสอนใหม่ และหากยังปฏิบัติตนเช่นเดิมก็จะถูกประหารชีวิต
2
นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเพื่อล้มเลิกการเสพติดระดับชาติที่กินเวลายืดเยื้อยาวนาน กระทั่งในปี 1960 ฝิ่นก็หมดไปจากจีน
1
อ่านอีกหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ในประวัติศาสตร์แห่งโลกเภสัชกรรมได้ใน
"Ten Drugs สิบยาเปลี่ยนโลก"
เขียนโดย โทมัส เฮเกอร์
สำนักพิมพ์ Sophia
2
โฆษณา