22 ก.ย. 2021 เวลา 05:02 • ประวัติศาสตร์
“ทสึโตมุ ยามากุจิ (Tsutomu Yamaguchi)” ชายผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูถึงสองครั้ง
วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) ที่ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น “ทสึโตมุ ยามากุจิ (Tsutomu Yamaguchi)” ได้เดินทางมาทำธุระของบริษัทที่ฮิโรชิม่า
หลังจากที่ทำธุระเสร็จและเตรียมจะกลับบ้าน เขาก็นึกขึ้นได้ว่าลืมเอกสารสำคัญไว้ที่สำนักงาน จึงต้องเดินทางกลับไปเอาเอกสาร
ระหว่างทางกลับไปสำนักงาน ได้มีระเบิดน้ำหนักกว่า 13 กิโลตัน ได้ระเบิดอยู่เหนือเมืองฮิโรชิม่า
ระเบิดลูกนั้นคือ “ลิตเติ้ลบอย (Little Boy)”
ลิตเติ้ลบอย (Little Boy)
ยามากุจิได้ให้สัมภาษณ์ในปีค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) ว่า
“เมื่อผมลืมตาขึ้น ทุกอย่างก็มืดไปหมด ผมคิดว่าผมคงต้องตายแล้ว แต่ความมืดก็ชัดมากและผมก็รู้ตัวว่าตัวเองยังไม่ตาย เมื่อเสียงและแรงระเบิดเบาบางลง ผมก็เห็นดวงไฟรูปเห็ดพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า”
ยามากุจิมีแผลไฟไหม้ที่ลำตัวช่วงบน รวมทั้งแก้วหูแตกและตาบอดชั่วคราว เขาจึงต้องพักรักษาตัวในที่หลบภัย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่นางาซากิ
ยามากุจิกลับถึงบ้านที่นางาซากิในวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) และเข้าทำงานในวันต่อมา โดยเมื่อมาถึงที่ทำงาน เขาก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หัวหน้าฟัง
แต่ขณะที่ยามากุจิกำลังเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่ฮิโรชิม่า ทันใด “แฟตแมน (Fat Man)” ระเบิดลูกที่สองก็ถูกทิ้งลงมาใส่นางาซากิ
แต่ยามากุจิก็ยังคงรอดชีวิต รวมทั้งภรรยาและลูกของเขาก็รอดชีวิต และต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่หลบภัยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ และสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในที่สุด
1
ภายหลังจากสงครามจบลง ยามากุจิก็ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ โดยหลังจากที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บ เขาก็ได้ทำงานเป็นอาจารย์ ก่อนจะกลับไปทำงานในบริษัทเดิมที่เคยทำงาน
แต่ความเศร้าก็มาเยือน เนื่องจากทั้งภรรยาและลูกชายของเขา ถึงแม้จะรอดจากแรงระเบิด แต่ก็เสียชีวิตในภายหลังด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นผลจากกัมมันตภาพรังสี
ภายหลัง ยามากุจิก็ได้ออกมาพูดออกสื่อเรื่องการใช้ระเบิดปรมาณู และยังเขียนจดหมายถึง “บารัค โอบาม่า (Barack Obama)” ผู้นำสหรัฐอเมริกาในเวลานั้น และยังปรากฎในภาพยนตร์สารคดีหลายเรื่อง
1
ยามากุจิเสียชีวิตในปีค.ศ.2010 (พ.ศ.2553) ด้วยวัย 93 ปี
โฆษณา