21 ก.ย. 2021 เวลา 23:30 • หนังสือ
Review หนังสือเศรษฐศาสตร์การเมือง ฉบับนิติ
เบื้องต้นเหตุผลที่ผมนั้นเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่านก็เนื่องจากภาพปกที่ชวนให้คิดว่าเนื้อหาคงจะอ่านง่าย
สำหรับตัวผู้เขียนนั้นก็คิดว่าอ่านค่อนข้างง่าย แต่หากต้องมีความรู้เบื้องต้นทางเศรษฐศาสตร์เพียงสักเล็กน้อย
หนังสือเล่มนี้จะอธิบายข้อดี-ข้อเสียของแต่ละอย่าง โดยหลักจะเปรียบเทียบระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมและระบบตลาดเสรี
ในช่วงแรกหนังสือจะอธิบายให้เห็นว่า หลายสิ่งอย่างที่รัฐนั้นมุ่งหมายกระทำโดยเจตนาที่ดีนั้น บางทีอาจจะมิได้ดีเสมอไปในระยะยาว เช่น การที่รัฐออกแบบนโยบายการศึกษาหลักสูตรบังคับเพื่อให้เด็กเข้าถึงการศึกษาทุกคนเท่าเทียมกัน ในช่วงแรกนั้นทุกคนก็สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ แต่หากมองในระยะยาวล่ะ ? สถิติบอกชัดเจนเลยครับว่าโรงเรียนของเอกชนนั้นมีคะแนนเฉลี่ย O-net ที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหตุผลหลักๆก็อาจเป็นเพราะ
1.โรงเรียนของรัฐนั้นไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร จึงขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนา
2.รับประกันความเสี่ยงโดยรัฐ เพราะหากจะล้มละลายก็จะมีรัฐเข้ามาอุ้ม
แล้วหากไม่มีนโยบายนี้แล้วเด็กจะเข้าถึงการศึกษาอย่างไรล่ะ ? ในต่างประเทศนั้นจะมีโรงเรียนเอกชนแบบประหยัด โดยเป็นโรงเรียนที่เอกชนนั้นบริหารและค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง
โดยมีสถิติบอกชัดเลยว่ามีคุณภาพสูงกว่าโรงเรียนรัฐบาล เพราะ
1.เอกชนทุกคนมุ่งหวังกำไร โดยกำไรจะดีได้นั้น นโยบายและการบริหารนั้นจะมีทิศทางเดียวกัน
2.เมื่อตลาดมีคู่แข่งเยอะ การแข่งขันสูง ทุกคนมุ่งหวังพัฒนาคุณภาพและลดต้นทุน (ค่าเทอม)
3.เอกชนนั้นมีความเสี่ยงเพราะหากล้มละลาย หรือแข่งขันไม่ไหวก็จะล้มหายไปเอง โดยที่มิได้มีรัฐมาอุ้ม จึงดำเนินนโยบายและจัดสรรทรัพยาการอย่างคุ้มค่าที่สุด
และอีกตัวอย่าง
โดยหนังสือเล่มนี้ก็อธิบายความเชื่อที่มีต่อระบบทุนนิยมไว้อีกด้วย เช่น
การที่ท่านมองว่าระบบทุนนิยมนั้นเป็นระบบที่เอื้อนายทุน ออกสัมปทานให้กับนายทุน
แต่อย่าลืมว่าทุนนิยมนั้น เอกชนเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เมื่อการที่รัฐเป็นเจ้าของทรัพย์และเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน กรรมสิทธิ์ดังกล่าาวย่อมมิใช่ของเอกชน เช่นนี้เราจะเรียกว่าเป็นทุนนิยมได้หรอ ?
โดยสรุปนั้นหนังสือเล่มนี้เปิดมุมมองของการที่เรมองว่ารัฐเป็นเหมือนอัศวินนั้นอาจจะมิใช่เสมอไป เพราะอาจยังมีอัศวินที่เก่งกว่าในการสู้รบบางเรื่องเสมอ และอัศวินดังกล่สวอาจจะชื่อว่า เอกชนที่มีเสรีภาพ
โฆษณา