23 ก.ย. 2021 เวลา 02:36 • ความคิดเห็น
พระอุดมวัฒนมงคลละสังขาร
1
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
พระอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดถ้ำวัฒนมงคล จ.ระยอง ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 13.59 น.ของวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564
ระหว่าง 21-25 กันยายน 2564 เวลา 18.00 น. พระพิธีสวดพระอภิธรรม
วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2564 เวลา 15.30 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ
จึงขอเรียนเชิญท่านที่เคารพนับถือร่วมเป็นเกียรติเพื่อไว้อาลัยแก่ท่าน
นอกจากพ่อแม่ผู้มีพระคุณแล้ว สมัยเป็นเด็ก ผมได้รับการอุปการะจากพระสองรูป
รูปแรกคือท่านพ่อมหาเข้ม จิตธมฺโม (ปัจจุบันคือพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์) เจ้าอาวาสวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี
รูปที่สองคือพระสุวัฒน์ ด้วงบ้านยาง วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พระสุวัฒน์ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่พระอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดถ้ำวัฒนมงคล
สามสิบกว่าปีก่อน พระครูปลัดสุวัฒน์ให้ผมไปพบในป่าแห่งหนึ่งของ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ท่านบอกว่า “เราจะอยู่ที่นี่” ปัจจุบันสถานที่นั้นก็คือวัดถ้ำวัฒนมงคล
พวกเราเรียกท่านเจ้าคุณว่าพระอาจารย์
พระอาจารย์เกิดเมื่อ พ.ศ.2497 คุณแม่คือท่านประยงค์เป็นคนคลองใหญ่ จ.ตราด
ตอนอุปสมบทใหม่ๆ พระอาจารย์รับอุปการะเด็กจากตราดไว้ 2 คน ถือได้ว่าเป็นเด็กวัด 2 คนแรกของท่าน คือบุญชัย สีหะ (นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 17) และผม ซึ่งเป็นผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกคนแรก
หลังจากที่ผมไปเรียนที่ออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ.2521 แล้ว พระอาจารย์ก็อุปการะเยาวชนอีกเป็นจำนวนมาก
เกือบ 100% ของเด็กที่ท่านอุปการะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ ศิษย์ของเจ้าคุณอุดมวัฒนมงคลในปัจจุบันเป็นนายพลนายพันทหารบก เรือ อากาศ และตำรวจ
ในหนังสือเด็กชายจากเขาสมิง หน้า 113-124 ผมเล่าถึงท่านพ่อลี  ธมฺมธโร จาริกธุดงค์มาถึงตัวเมืองจันทบุรีเมื่อ พ.ศ.2478 และได้สร้างวัดบนป่าช้าสาธารณะบ้านคลองกุ้ง
1
ท่านพ่อลีจำพรรษาที่วัดป่าคลองกุ้งนานถึง 14 พรรษา ก่อนที่จะเดินทางมาสร้างวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ซึ่งภายหลัง ผมก็เป็นเด็กวัดที่ท่านพ่อลีสร้างเป็นวัดแรกนี้เอง
หน้า  125-135 ผมเล่าถึงชีวิตสมัยอยู่กับพระอาจารย์สุวัฒน์ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม มีข้อความตอนหนึ่งว่า...
“สมัยนั้น คนเดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่จะใส่สูทและผูกเนคไท คืนก่อนเดินทาง พระสุวัฒน์เรียกผมไปสอนวิธีการผูกเนคไท ปรากฏว่าใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทั้งพระอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ผูกกันไม่ได้ เพราะเป็นเสื้อที่มีคอกว้างและไม่มีกระดุมคอ วันรุ่งขึ้น ผมจึงเดินทางไปออสเตรเลียโดยที่ไม่ได้ผูกเนคไท”
หลังจากผมไปอยู่ออสเตรเลียได้ครบ 1 ปีแล้ว ก็ได้ทุนกองทัพบกออสเตรเลียเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกพอร์ตซี
ได้กลับมาอยู่กับพระอาจารย์ที่วัดอาวุธวิกสิตารามเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนกลับไปออสเตรเลียอีกครั้ง แต่กลับไปใหม่ได้ไม่นาน ผมก็ถูกถอนทุนและถูกส่งกลับประเทศไทย
ถึงเมืองไทยในเวลาเช้าตรู่ ผมวางกระเป๋าไว้หน้ากุฏิแล้วก็เดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินถือปิ่นโตตามหลังพระอาจารย์
พระอาจารย์เป็นพระเคร่งกัมมัฎฐานสายวิปัสสนาธุระ แม้ไม่มีการสื่อสารใดแจ้งข่าวกันได้เหมือนในสมัยนี้ แต่พระอาจารย์ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นหน้าผม ท่านให้กำลังใจด้วยด้วยความเห็นใจสงสาร
อีกหลายปีต่อมา ผมไปเรียนปริญญาเอกที่กรุงมอสโกด้วยทุน ก.พ.ประเภท 2 ตามความต้องการของกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย
ทันทีที่ได้รับพระราชทานยศร้อยตำรวจเอก ผมเดินทางมาไทยและพาลูกชายซึ่งตอนนั้นอายุ 4 ขวบไปกราบพระอาจารย์เพื่อขอให้พระอาจารย์ติดยศให้
พระอุดมวัฒนมงคลเพียงรูปเดียวช่วยเยาวชนให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทำประโยชน์ให้ประเทศได้นับร้อยเป็นพันคน
หากวัดที่มีมากกว่า 4 หมื่นแห่งช่วยเยาวชนให้ได้รับโอกาสอย่างที่พระอาจารย์ทำ
วัดทั้งประเทศจะสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้ชาติได้เป็นล้านคน
บทความวันนี้ ขออนุญาตเขียนถึงพระอาจารย์ผู้มีพระคุณครับ.
โฆษณา