The Post เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯกำลังพัวพันกับสงครามเวียดนาม โดยภาพยนตร์จะเล่าถึงการทำงานของสื่อมวลอย่าง The Washington Post และ The New York Times
แต่โดยหลัก ๆ แล้วภาพยนตร์จะเน้นไปที่การเล่าผ่านมุมมองของ The Washington Post ที่มีแคทเธอรีน เกรแฮม (Katharine Graham) เจ้าของหนังสือพิมพ์ที่รับไม้ต่อจากสามีที่เสียชีวิตและเบน แบรดลี (Ben Bradlee) บรรณาธิการของ The Washington Post เนื้อหาหลัก ๆ ที่ภาพยนตร์ต้องการสื่อคือการที่แบรดลีต้องการที่จะตีพิมพ์เอกสารลับจากเพนตากอนหรือที่เรียกกันว่า “Pentagon Papers”
ภายหลังจากการตีพิมพ์เอกสารลับเพนตากอน แคทเธอรีนและสำนักพิมพ์ของเธอตเองรับผลที่ตามมาคือการต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งคู่กรณีของเธอคือรัฐบาลของนิกสัน และที่สำคัญการที่ The Washington Post ได้ตีพิมพ์เอกสารลับเพนตากอนยังเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ต่อวงการสื่อมวลชน
เนื่องจากหลังจากที่ The Washington Post ได้ตีพิมพ์เอกสารดังกล่าว ปรากฏว่าหนังสือพิมพ์จากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ได้ตีพิมพ์ข่าวที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม ซึ่งทำให้ทาง The Washington Post ไม่ได้สู้คดีกับทางรัฐบาลเพียงลำพัง แต่ท้ายที่สุด The Washington Post สามารถเอาชนะรัฐบาลนิกสันได้ในการต่อสู้ในชั้นศาลด้วยผลการตัดสิน 6:3
แต่ที่สำคัญที่สุดจากการที่ The Washington Post ได้ตีพิมพ์เอกสารลับซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำสงครามเวียดนาม ได้ก่อให้เกิดกระแสการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ต่อต้านการทำสงครามเวียดนามของสหรัฐฯ ซึ่งการประท้วงดังกล่าวถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศลัทธินิกสัน อันเป็นการประกาศว่าสหรัฐฯจะเริ่มทำการถอนทหารออกจากเวียดนาม
สิ่งที่สำคัญที่ภาพยนตร์เรื่อง The Post สะท้อนให้เห็นคือชัยชนะของเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลให้สาธารณชนได้รับทราบ หาก The Washington Post ไม่ทำการเปิดโปงเอกสารลับเพนตากอน ชาวอเมริกาก็จะไม่ทราบเลยว่าทางรัฐบาลได้ปกปิดข้อมูลของสงครามเวียดนามมากว่า 30 ปี โดยในภาพยนตร์ได้บอกว่าสหรัฐฯนั้นพัวพันกับปัญหาสงครามเวียดนามมาตั้งแต่ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ ประธานาธิบดีเคนเนดี้ ประธานาธิบดีจอห์น จนกระทั่งถึงประธานาธิบดีนิกสัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์ The Post สะท้อนออกมาได้เป็นอย่างดีคือบทบาทของสื่อมวลชนที่ดีที่มีหน้าที่รับใช้ประชน ซึ่งในภาพยนตร์เราจะเห็นบทบาทนี้จากการตัดสินใจให้ตีพิมพ์เอกสารลับของเพนตากอนของแคทเธอรีน ซึ่งการกระทำดังกล่าวของเธอเป็นสิ่งที่กล้าหาญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเธอแพ้คดีต่อรัฐบาลทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีจะมลายหายไปจนหมดสิ้น
และอีกหนึ่งประเด็นที่จะต้องกล่าวถึงคือในประเทศที่เป็นเสรีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์อย่างสหรัฐอเมริกาจะเห็นได้ว่า The Washington Post กับรัฐบาลนิกสัน ได้ต่อสู้ภายในชั้นศาลด้วยมาตรฐานของกฎหมายเดียวกัน ไม่มีข้อได้เปรียบสำหรับหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ