25 ก.ย. 2021 เวลา 12:46 • ความคิดเห็น
เนื่องด้วยสใบได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์นักโทษในเรือนจำ แล้วก็ผู้พ้นโทษ
วันนี้สใบก็จะมาแชร์เรื่องราวเล็กๆ ของชีวิตนักโทษบางคนที่อยู่ในเรือนจำให้ทุกท่านได้ฟังกันค่ะ
ตอนสใบสัมภาษณ์นักโทษเสร็จ สใบรับรู้ทันทีว่า
ชีวิตในเรือนจำค่อนข้างลำบาก และคุณภาพชีวิตแย่มากจริงๆ หากต้องการผงซักผ้า ยาสีฟัน หรือกินอัดลมสักขวด สิ่งที่ต้องมีคือ "เงิน" ซึ่งการที่นักโทษจะมีเงินในเรือนจำนั้นมี 2 วิธี คือ 1.การที่ญาติฝากเงินไว้ให้ 2.ต้องทำงานรับจ้างในเรือนจำ บางครั้งก็ไม่มีงานที่ทำแล้วได้เงิน มาให้ทำตลอด
คนที่ไม่มีญาติมาเยี่ยมเลย คงต้องอยู่แบบทนทุกข์ หรือไม่ก็เพื่อนนักโทษคนอื่นช่วยแบ่งปันให้
ชีวิตประจำวันของนักโทษค่อนข้างจำเจ กินอาหารเดิมๆ ที่มื้อกลางวันเป็นข้าวต้มจืดๆ เวลาราวๆบ่าย3 ก็ขึ้นเรือนนอน ไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าหนาว หรือหน้าร้อน ก็ต้องทนแอดอัดกันอยู่ในเรือนนอน ที่มีคนลุกเดินเข้าห้องน้ำ พร้อมกลิ่นที่ไม่น่าชอบใจนัก บางทีก็มีนักโทษที่จิตไม่ปกติมาปนอยู่กับเพื่อน มีบ้างบางวันที่วุ่นวายกันเล็กน้อย นักโทษหลายคนมักมีความเครียดสะสม แต่สิ่งที่น่าเศร้าที่สุด คือ บางคนสิ้นหวัง เลยเลือกที่จะจบชีวิตในเรือนจำ ด้วยอุปกรณ์ไม่กี่อย่าง
สิ่งที่สใบเล่าดูเฉยๆไหม?
สมควรที่นักโทษเหล่านั้นจะได้รับแล้วใช่ไหมคะ?......
ตอนแรกๆที่ยังไม่เคยได้สัมภาษณ์นักโทษ สใบก็ตั้งคำถามและคาดหวังว่า ชีวิตนักโทษในคุกมันลำบากเขาจะได้จำ เมื่อพ้นโทษมาแล้วจะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีกและ ควรต้องกลับตัวกลับใจเป็นคนดี
แต่ถ้าสังเกตสิ่งที่สใบเล่าเรื่องมาตั้งแต่ต้น เราจะรับรู้ได้ว่านอกจากการเล่าเรื่องที่เฉยๆ น่าเบื่อแล้ว มันยังมี"ความสิ้นหวังของนักโทษอยู่ในนั้น"
เราคาดหวังว่าให้เขาเป็นคนดีได้อย่างไร ในเมื่อชีวิตในนั้นเหมือนตกนรก มีแต่ความวุ่นวาย ไร้ทิศทางและจุดหมายในการดำเนินชีวิต บางคนติดคุกนานหลายสิบปี จนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกข้างนอกไปไกลถึงไหนแล้ว เราคาดหวังให้เขากลับใจเป็นคนดี กับคนที่ไม่เคยได้สัมผัสสภาพแวดล้อมดีๆเลยสักครั้งอย่างนั้นหรือ
ปัญหานี้มันเหมือนไร้ทางออก แต่พอสใบได้สัมภาษณ์นักโทษอีกคนหนึ่งกับรู้สึกดีมากๆ
เขาเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นนักโทษใกล้พ้นโทษ มีความประพฤติดี เรือนจำจึงสอนทักษะอาชีพให้กับเขาและอนุญาตให้เขาออกมาทำงานกับสถานประกอบการข้างนอกได้ เช้าไปเย็นกลับ พอเขาได้เงินปันผล เขาก็ส่งเงินกลับบ้านไปให้แม่ และลูกสาวที่กำลังเรียนหนังสืออยู่มัธยม คนในครอบครัวเหมือนจะยอมรับในตัวเขาและพร้อมให้อภัย เขาดีใจมาก ที่อย่างน้อยแม้จะหลงผิด แต่ก็ยังมีโอกาสให้แก้ตัว แล้วหวังว่าผู้ประกอบการจะจ้างเขาต่อหลังพ้นโทษ (ซึ่งสใบเคยไปสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมจ้างนักโทษทำงานต่อหลังพ้นโทษ)
เคสนักโทษเคสนี้ เป็นเคสตัวอย่างได้ว่า หากเราเข้าไปให้ความรู้และแนวทางในการปรับตัวเข้าสู่สังคมให้กับเขา ก็มีแนวโน้มที่เขาจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้
แต่ก็ใช่ว่านักโทษจะได้รับโอกาสนี้ทุกคนที่จะได้รับโอกาสแบบเคสนี้
คงจะดีกว่าถ้านำครูเข้าไปสอนนักโทษ ทั้งในเรื่องวิชาชีพ การปรับทัศนคติในการเข้าสังคม พ่วงด้วยกับการนำงานไปให้นักโทษทำในเรือนจำ และหางานให้นักโทษทำในสถานประกอบการข้างนอก เพื่อลดความเครียดและเพิ่มโอกาสมีงานทำให้เขาหลังพ้นโทษ อย่างน้อยๆ นักโทษได้ใช้ศักยภาพที่เขามีให้เป็นประโยชน์ มากกว่าการนั่งคิดฟุ้งซ่านในเรือนจำ เขาจะได้มีแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นมาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
หากเขาไม่โดนจ้างงานต่อ ทักษะอาชีพที่เรียนมาก็จะติดตัวเขาไปตลอด
อาจไม่ใช่ทุกคน แต่เราเชื่อว่าก็มีอีกหลายคนที่ต้องการแสงสว่างและโอกาสให้กับชีวิตอีกครั้ง
หวังว่าบทความนี้ จะทำให้ผู้อ่านได้รับมุมมองใหม่และเข้าใจนักโทษมากขึ้นนะคะ
หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 😉 🤍
โฆษณา