25 ก.ย. 2021 เวลา 13:03 • หนังสือ
ผมเคยกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่าสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้รูปแบบของการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงตาม และหนึ่งในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามความทันสมัยของโลกในปัจจุบันก็คือ “วัฒนธรรมในการอ่านหนังสือ”
ปัจจุบันนี้ มีเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการอ่านหนังสือ จากเดิมที่อ่านหนังสือเป็นเล่มก็เปลี่ยนไปอ่านเป็นไฟล์ผ่านระบบดิจิทัลต่างๆ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักอ่านหลายคนที่ไม่อยากเก็บหนังสือเล่ม หรืออยากเก็บแต่ไม่มีที่ให้เก็บอีกต่อไป
Arn เป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่เปิดตัวขึ้นท่ามกลางการแข่งขันของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในการอ่าน และในการเปิดตัวครั้งแรก Arn เลือกที่จะเปิดตัวด้วย Arn Exclusive ที่นำเสนอหนังสือสี่เรื่องสี่รสในแก่นแกนเดียวกันเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งแรก
The Fridge ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตาย ของภาคินัย เป็นหนึ่งในสี่เรื่องที่ถูกเลือกมาเปิดตัว Arn และเป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างนักเขียนนิยายสยองขวัญท่านนี้กับเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Arn ซึ่งหัวใจสำคัญของนิยายในชุด Arn Exclusive นั้นคือการใช้แกนเรื่องเดียวกัน คือแกนเรื่องที่พูดถึง “โลกคู่ขนาน”
The Fridge ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตาย เล่าเรื่องสลับสับหว่างระหว่างโลกคู่ขนานที่มีเวลาแตกต่างกัน 10 ปี ในฝั่งปัจจุบัน พ.ศ. 2564 นั้น เล่าเรื่องของมกร ที่ตัดสินใจหนีแฟนหนุ่มผีพนันมาเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ บ้านหลังนี้มีอุปกรณ์ครบถ้วนเว้นแต่ตู้เย็น มกรเลยไปซื้อตู้เย็นมือสองมาใช้ ปรากฏว่าตู้เย็นดันเป็นประตูเชื่อมโลกคู่ขนาน และทำให้เขาได้พบกับเปลว ที่อยู่ในอดีต พ.ศ. 2554
เปลวเป็นคนที่น่าสงสาร พ่อของเขาเป็นโจรที่ปล้นร้านทอง ถูกวิสามัญตาย ทำให้ครอบครัวถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว จนแม่ของเขาตัดสินใจผูกคอตาย ทองของกลางก็หายไป จนเปลวมาทราบภายหลังว่าทั้งหมดเป็นแผนของตำรวจ เปลวตัดสินใจฆ่าตำรวจเลว ตัดคอมาเสียบประจาน จนลูกชายของตำรวจที่เป็นคนชอบกร่างตามล่า และทำให้เปลวหนีมาอยู่ในโลกปัจจุบันกับมกร แต่ก็ยังพบเห็นลูกชายของตำรวจ ศัตรูเก่าอีก เมื่อเขาตัดสินใจจะฆ่าศัตรู มกรก็ห้ามไว้ เปลวจึงตัดสินใจกลับไปอยู่ในโลกของอดีตและนัดหมายว่าจะมาเจอกับมกรในอีก 10 ปี ก่อนที่ทุกอย่างจะมาเฉลยในสไตล์ของภาคินัยที่ชอบหักมุมเรื่องให้คนอ่านอ้าปากค้าง
หากเทียบกับงานก่อนๆ ของภาคินัย ผมรู้สึกว่า The Fridge ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตาย เป็นแนวทางที่แตกต่างจากงานที่เคยคุ้นของภาคินัยพอสมควร เวลาเรานึกถึงภาคินัย เรามักจะนึกถึงนิยายสยองขวัญ มีภูตผี ไม่ก็คนชั่วร้าย จริงอยู่ The Fridge ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตายก็มีคนชั่วร้าย (และมีเต็มเรื่องเลย) แต่วิธีการเล่าเรื่องที่จำต้องพึ่งกับแกนที่ถูกจัดสรรอย่างโลกคู่ขนานทำให้ความสยองขวัญในแบบภาคินัย ไม่ว่าจะเป็นความสยองจากผี หรือความสยองจากฝีมือมนุษย์ลดลงอย่างไรชอบกล อารมณ์ตอนที่อ่านเหมือนกำลังดูละคร “ฟ้ามีตา” หรือ “กฎแห่งกรรม” อย่างไรอย่างนั้น
แต่การที่แนวทางไม่เข้ากับแนวทางเดิมที่เราคุ้นเคยไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับ ภาคินัยยังคงไว้ลายแสดงฝีไม้ลายมืออันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอยู่ โดยเฉพาะการผูกเรื่องให้หักมุมซ้ำซ้อนไปมา ยิ่งพอเป็นเรื่องของโลกคู่ขนาน อดีต ปัจจุบัน การแก้อดีตเท่ากับเปลี่ยนแปลงอนาคตด้วยแล้ว (ขออภัย ไม่อาจเล่าได้เพราะจะเป็นการ spoil อยากรู้ต้องอ่านเองนะครับ) ก็ยิ่งทำให้ลายเซ็นของเขาเด่นชัดขึ้นมา เพียงแค่มันออกแนวที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อนก็เลยอ่านไปแบบตะหงิดๆ ไปนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง
และเพราะรู้สึกไม่คุ้นเคย ผมจึงมีความคิดว่าประเด็นต่างๆ ที่เรื่องแตะนั้นผิวเผินเกินไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนว Y ความรู้สึกรักและผูกพันระหว่างเปลวกับมกร ก็ออกแนวรวบรัดตัดความไปนิด ไม่เป็น Y ในแบบที่คิดว่าจะเป็น เรื่องบาปบุญคุณโทษก็เห็นว่าพยายามอธิบายอยู่แต่ก็กระเหม็ดกระแหม่ไปหน่อย หรือเรื่องโลกคู่ขนาน ที่มีคำตอบชัดเจน (เป็นเรื่องเดียวที่ถูกขับเน้นมากกว่าเรื่องอื่น) แต่ก็ไม่ได้จับต้องได้มากจนทำให้อินกับเรื่องราวได้หมดจดแบบที่นิยายหลายๆ เรื่องของภาคินัยทำได้ จะบอกว่านี่คือข้อเสียของนิยายเรื่องนี้ก็ได้ เพียงแค่ไม่ใช่ข้อเสียที่ทำลายอรรถรสของการอ่านจนไม่อยากอ่านต่อเท่านั้นเอง
ก่อนหน้านี้ ผมมีโอกาสได้อ่านนิยาย Arn Exclusive อีกเรื่องหนึ่งด้วย (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อเรื่อง) แต่ไม่ได้ติดอกติดใจจนอยากจะนำมารีวิว สำหรับผม ผมมองว่าการเปิดตัวช่องทางใหม่สำหรับอ่านหนังสือเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่จะดีกว่านี้หากใช้เวลาในการสร้างสรรค์งานให้ชัดเจนและน่าสนใจมากขึ้น จะเป็นการเปิดตัวที่ดีและทรงพลังมากกว่านี้
ส่วน The Fridge ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตาย ของภาคินัย ก็ถือเป็นแนวทางใหม่ที่ผมไม่คุ้นเคย (เพราะปกติผมอ่านแต่นิยายผีที่ภาคินัยเขียน) ก็นับว่าเป็นการทดลองที่ดีครับ แต่ผมคงติดใจแนวทางเดิมของนักเขียนท่านนี้มากกว่า
#ReadingRoom #TheFridge #ย้อนเวลาเป็นข้ามเวลาตาย #ภาคินัย
โฆษณา