ในหนังสือ หุ้นพลิกชีวิต เคยย้ำไปแล้วว่า ถ้าต่ำกว่า 20 period ในกราฟ day ไม่ควรใช้เส้นเดียว เพราะทุกงานวิจัยจากทุกสำนักผ่านการทดสอบกับหุ้นทุกตัวตลอด 30 ปี ผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ และโอกาสมันไม่ต่างอะไรจากการโยนเหรียญ หนำซ้ำจะส่งผลเสียต่อการอยู่รอดของพอร์ตในระยะยาวอีกด้วย
มันจึงมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือ การใช้หลักการของ value zone ซึ่งเครื่องมือนี้เขียนไว้ในหนังสือ CMT Level || 2017 : Theory and Analysis เครื่องมือที่ใช้ได้แก่
1. เส้นยาว (longer EMA) ซึ่ง "ยาว" ในที่นี้ ก็ยังมีค่า period ไม่ต่ำกว่า 20 แต่ก็ไม่ควรเกิน 50 เพราะนั่นจะเป็นระยะกลางไป วิธีคำนวณค่า period คือ จะเอาจำนวนว่ากี่วันกี่สัปดาห์มาเป็นตัวคำนวณ เช่น period 22 วัน ก็คือเป็นเส้น EMA ที่ใช้ค่าเฉลี่ย 22 วันที่ผ่านมามาคำนวณ
ดังนั้น ถ้าค่า period ของ EMA ที่เป็น longer EMA คือ 26 สัปดาห์ ค่า shorter EMA ก็จะเป็น 13 สัปดาห์ หรือแม้กระทั่งใครที่ชอบเล่นสั้นกว่านี้จะเปลี่ยนเป็นไทม์เฟรม day แทน เช่น ใช้ 22 วัน (longer EMA) คู่กับ 11 วัน (shorter EMA) เป็นต้น
หากจะเข้าใจเรื่องของ dual EMA ต้องมีความเข้าใจเรื่องของความชันของเส้นค่าเฉลี่ยเสียก่อน ถ้าเมื่อใดที่เส้นค่าเฉลี่ยยังชันลงอยู่ก็อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน แต่ถ้าเมื่อไหร่เส้นค่าเฉลี่ยนิ่งๆ แล้วก็ยังสามารถไว้ใจได้อยู่ ว่าแนวโน้มกำลังจะถูกเปลี่ยนทิศทาง
ดังนั้น การใช้สองเส้นนี้ เส้น slow EMA จะช่วยบอกถึงทิศทางของแนวโน้ม ขณะที่ fast EMA จะเป็นตัวบอกขอบเขตของ value zone
หากนำมาผนวกกับเรื่องของ Elliott Wave ก็จะเห็นว่า การที่ Elliott Wave ทำ new high ราว 3 ครั้ง จากนั้นก็จะอ่อนแรงลง เกิด correction มันก็คล้ายคลึงกับการใช้ dual EMA และ value zone ว่าจะรับหุ้นเด้งขึ้นไปเพื่อทำ new high ได้ราว 3 ครั้งเช่นกัน (new high จะไม่ค่อยไหวแล้วสำหรับเครื่องมือระยะสั้นเช่นนี้)
ดังนั้น value zone จึงได้มาจากเส้น EMA 2 เส้น ที่เอาค่าเฉลี่ยของเส้นชันมาลบกับเส้นยาว (คุ้มๆ ไหมครับ มันก็คือหลักการของ MACD นั่นเอง) ซึ่ง value zone หากซูมเข้าไปดูแต่ละขั้นตอน จะมีดังนี้
1. เส้น slow EMA ยังชันขึ้นอยู่ แต่ขณะนั้นราคาหลุดเส้น fast EMA ลงมา และเผลอๆ จะหลุดเส้น slow EMA ลงมาด้วย ในแท่งเทียนแท่งนั้นแท่งเดียว
2. ราคาวิ่งใน value zone วิ่งในช่องว่างระหว่างเส้น slow EMA, Fast EMA ยึกๆ ยักๆ อยู่แบบนี้ หรืออย่างมากก็เป็นแท่งเทียนที่มีราคา open, close คาบเกี่ยวทั้งสองเส้นนี้ในแท่งเดียว (นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไม value zone จึงใช้กับ short term นั่นเพราะถ้าไปใช้กับ middle term เช่น เส้น EMA 50 ลองนึกสภาพแท่งเทียนที่ความยาว open, close คาบเกี่ยวเส้น 20, 50 ในแท่งเดียว จะเกิดได้ยากมากๆ ถึงเกิดก็คงเป็นการทำราคาแบบหุ้นปั่น)
3. พอแท่งเทียนยึกๆ ยักๆ ระหว่าง value zone เสร็จ แท่งใดที่ทำให้ fast EMA มีความชัน "เพิ่มขึ้น" แท่งนั้นจะเป็นแท่งของจุดซื้อซึ่งย้ำอีกที