26 ก.ย. 2021 เวลา 10:53 • ประวัติศาสตร์
เรื่องตลกร้ายเบื้องหลังคำสาบานในสวนท้อ
2
สามก๊กตอนต้นเรื่องนั้นเท้าความเล่าที่มาที่ไปกันยาวมาก ว่ากันตั้งแต่ตั้งราชวงศ์ฮั่นกันเลยทีเดียว มาเริ่มเค้าโครงเรื่องจริง ๆ จัง ๆ เอาตอนสมัยพระเจ้าฮั่นเต้ไม่มีลูกเลยรับลูกข้าราชสำนักมาเลี้ยงซึ่งต่อมาได้ครองราชย์เป็นพระเจ้าเลนเต้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าเลนเต้ไม่ใช่ลูกของฮองเฮาหรือพระสนมคนใดคนหนึ่งของพระเจ้าฮั่นเต้ ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจอบรมสั่งสอน เติบใหญ่ขึ้นภายใต้การเลี้ยงดูของขันทีไม่ได้เรียนรู้วิถีของกษัตริย์ เมื่อขึ้นครองราชย์ก็เละเทะ บ้านเมืองวุ่นวายเต็มไปด้วยกังฉิน ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก จนเกิดกบฏผู้มีบุญหรือโจรโพกผ้าเหลืองนั่นเอง มาถึงตรงนี้สามก๊กจึงเปิดฉากอย่างเป็นทางการ
สามก๊กเปิดฉากด้วยการเดบิวเล่าปี่หลิวเป้ยลูกหลานสุดปลายแถวของพระเจ้าฮั่นเกงเต้ บรรยายลักษณะเล่าปี่เสียจนแทบไม่เป็นมนุษย์ ในฉบับแปลไทยเล่าปี่สูง 5 ศอกเศษ ซึ่งเป็นการแปลมาแบบผิด ๆ ถ้าเล่าปี่สูง 5 ศอก เล่าปี่จะสูง 3 เมตรตามมาตรวัดไทย จริง ๆ แล้วเล่าปี่สูงประมาณ 7 ฉื่อเศษหรือสูงประมาณ 170 เซนติเมตรครับ เล่าปี่นั้นมีลักษณะของลิงอุรังอุตังผสมกับคนที่มีภูมิปัญญาบกพร่องแต่กำเนิด คือมือยาวถึงเข่าหูยานถึงบ่า หน้าขาวเนียนปากแดงแปร๊ด ตาห่างจนชำเลืองมองเห็นหู ลองนึกภาพตามดูก็แล้วกันว่าเหมือนอะไร
3
คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเล่าปี่เป็นคนสานเสื่อสานรองเท้าฟางจน ๆ ในภาพยนตร์หรือละครซีรีย์มักจะเปิดตัวเล่าปี่ในชุดปอน ๆ บ้าน ๆ ในความเป็นจริง เล่าปี่ไม่ธรรมดาครับ พ่อของเล่าปี่เป็นข้าราชการระดับล่างแต่ตายตั้งแต่ยังหนุ่มไม่ได้ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้ลูกเมียมากมาย แม่ของเล่าปี่จึงต้องสานเสื่อสานรองเท้าฟางขายเลี้ยงชีพ ดังนั้นต้นกำเนิดของเล่าปี่จึงเป็นชนชั้นสือ เป็นผู้มีชาติตระกูลแต่ตกต่ำลงไปเป็นชนชั้นซางเพราะเปลี่ยนอาชีพไปค้าขาย ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันนิดหน่อยครับ
1
ประเทศจีนสมัยโบราณนั้นแม้จะไม่มีระบบวรรณะแต่ก็มีระบบชนชั้นที่ซับซ้อนตามแบบของราชวงศ์โจวยุคก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้ นั่นคือแบ่งออกเป็น 士农工商 สือหนงกงซาง สือคือผู้มีชาติตระกูลรวมไปจนถึงบัณฑิตผู้มีความรู้ เป็นหัวใจเป็นมันสมองของรัฐ หนงคือเกษตรกร เกษตรกรคือผู้ผลิตอาหารเลี้ยงดูผู้คน สร้างความมั่งคั่งจากผืนดิน อาหารคือความมั่นคงของรัฐ ดังนั้นจึงได้รับการยกย่องรองจากสือ กงคือช่างฝีมือด้านต่าง ๆ รัฐจะเจริญก้าวหน้าได้ต้องมีช่างฝีมือ ซางคือพ่อค้า พ่อค้าถือเป็นอาชีพหลักที่ขาดไม่ได้ของรัฐ แต่ก็เป็นชนชั้นที่อยู่ด้านล่างสุดในสี่กลุ่มอาชีพ นัยว่าจำเป็นแต่ไม่ยกย่อง ยังมีที่ต่ำกว่าสือหนงกงซาง นั่นก็คือ 贱民 เจี๋ยนหมิน เจี๋ยนหมินเป็นชนชั้นต่ำ ไม่ได้รับการนับถือจากผู้คน คนกลุ่มนี้คือพวกทาสแรงงาน โสเภณี คนฆ่าสัตว์ เพชฌฆาต สัปเหร่อ คนเก็บอาจม ฯลฯ
5
ระบบชนชั้นของจีนสมัยโบราณนั้นทั้งซับซ้อนและกีดกัน การเลื่อนลงนั้นง่ายดาย แต่การไต่ขึ้นนั้นยากเย็น หนงนั้นเลื่อนขึ้นเป็นสือได้ ลูกชาวนาเรียนหนังสือสอบเป็นบัณฑิตได้ รับราชการได้ กงนั้นรับราชการได้แต่ก็ยากที่จะไต่เต้า ส่วนซานนั้นหมดสิทธิ์ ถ้าใครยึดอาชีพเป็นพ่อค้าก็แปลว่าหมดสิทธิ์รับราชการ ในรุ่นลูกของกงกับซานรับราชการได้ แต่ก็นั่นแหละไต่เต้าลำบากเพราะไม่มีชาติตระกูล ไม่เหมือนกับหนงแม้เป็นเกษตรแต่ก็ยังถือว่ามีชาติตระกูล พวกเจี๋ยนหมินไม่ต้องพูดถึง ไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่เกิดไปยันลูกหลาน
2
เล่าปี่นั้นอยู่ระหว่างกงกับซานเพราะแม่เปลี่ยนอาชีพไปทอเสื่อสานรองเท้าฟางขาย เป็นกึ่ง ๆ ช่างฝีมือกับพ่อค้า แม่ของเล่าปี่ก็เหมือนกับแม่ของคนทั่วไปคือหวังจะให้ลูกได้ดีมีอนาคตเลยส่งเล่าปี่ไปเล่าเรียน เล่าปี่เรียนหนังสือถึงสิบปี ไม่แตกต่างอะไรกับบรรดาลูกหลานของคนชนชั้นสือหรือหนง เรียนมาทั้งบุ๋นและบู้ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับโลติดและกองซุนจ้านตัวละครที่จะโผล่มาในตอนหลัง
1
เมื่อเรียนจบเล่าปีอายุได้ 25 ปี แทนที่คุณชายหลิวเป้ยจะไปสอบเป็นบัณฑิต สมัครเข้ารับราชการหรือสมัครเป็นทหารอย่างที่คนปกติเค้าทำกัน คุณชายหลิวเป้ยกลับกลับมาทอเสื่อกับสานรองเท้าฟางขาย ตรงนี้คนแต่งสามก๊กอวยกันไส้แตกทุกเวอร์ชั่นว่าเล่าปี่เป็นคนกตัญญูทอเสื่อสานร้องเท้าฟางขายเลี้ยงแม่ ตลกมาก รับราชการเลี้ยงแม่ไม่ได้เหรอ? เป็นทหารเลี้ยงแม่ไม่ได้เหรอ? มีความรู้ต่อให้ไม่สอบเป็นบัณฑิต ก็ยึดอาชีพที่ปรึกษาได้ สอนหนังสือก็ได้ แต่คุณชายหลิวเป้ยไม่ทำ เพราะอะไร?
2
เหตุผลมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เล่าปี่รอเวลารอจังหวะแจ้งเกิดครับ หลังจากที่เล่าปี่ไปเรียนหนังสือได้สองปี พระเจ้าเลนเต้ก็ขึ้นครองราชย์ จากนั้นบ้านเมืองก็เริ่มวุ่นวาย ตอนเรียนจบบ้านเมืองก็แทบจะอยู่ในสภาพไม่มีขื่อไม่มีแปกันแล้ว ด้วยสถานะชนชั้นซางของเล่าปี่ ต่อให้รับราชการก็เป็นได้แค่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับล่างเหมือนพ่อ เป็นทหารก็เป็นได้แค่นายสิบเต็มที่ก็นายร้อย เล่าปี่ทะเยอทะยานกว่านั้น ไม่รับราชการไม่เป็นทหารและไม่ผูกมัดตัวเองกับอาชีพที่สร้างภาระทางสังคม คุณชายหลิวเป้ยทอเสื่อสานรองเท้าฟางขายเลี้ยงแม่ สร้างภาพลูกกตัญญู ใช้เวลาว่างคบหาผู้คนสร้างภาพคนดีมีน้ำใจ ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อรอเวลา เวลาที่จะทะยานขึ้นเทียบชั้นกับลูกหลานผู้ดีมีตระกูล เป็นขุนนาง เป็นแม่ทัพ
3
ก่อนที่จะไปพูดกันถึงเรื่องคำสาบานในสวนท้อ เราต้องพูดถึงเตียวหุยกับกวนอูกันก่อนครับ ขอละเรื่องส่วนสูงน้ำหนักหน้าตาเอาไว้นะครับ เอาเป็นว่าเตียวหุยสูงพอ ๆ กับเล่าปี่ กวนอูสูงกว่านิดหน่อยคือสูงราว 210 เซนติเมตร ส่วนหน้าตานั้นทั้งสองคนหน้าตาแปลกประหลาดเหมือนเล่าปี่นั่นแหละ เตียวหุยนั้นมีสถานะทางสังคมต่ำกว่าเล่าปี่ครับ
1
เตียวหุยเป็นชนชั้นที่อยู่ระหว่างซางกับเจี๋ยนหมิน คือเป็นทั้งพ่อค้าและเป็นทั้งคนฆ่าสัตว์ ในขณะเดียวกันเตียวหุยก็รวยกว่าเล่าปี่ที่หลังจากเรียนจบไม่ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คนแต่งสามก๊กวาดภาพเตียวหุยว่าเป็นคนไม่มีความคิดอ่านมุทะลุดุดัน เตียวหุยอาจเป็นคนมุทะลุดุดันแต่ไม่มีทางเป็นคนไม่มีความคิดความอ่านครับ ในทางกลับกันเตียวหุยก็เหมือนกับเล่าปี่ คืออยากยกสถานะทางชนชั้นของตนเอง กวนอูเป็นคนขายเต้าหู้ เป็นคนในชนชั้นซางแต่ได้รับการอัพเกรดให้เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีมีหมายจับโดยอัตโนมัติหลังจากไปฆ่าคหบดีที่นิสัยชั่วร้ายรายหนึ่ง กวนอูนั้นหลบหนีการจับกุมมาหลายเมืองก่อนที่จะมาเจอเล่าปี่กับเตียวหุย
2
คำสาบานในสวนท้อ เรื่องตลกร้ายของสามก๊ก
ในปีที่ 12 ของรัชสมัยพระเจ้าเลนเต้ ประชาชนลุกฮือขึ้นก่อกบฏ พระเจ้าเลนเต้โปรดให้รับสมัครผู้ห้าวหาญเพื่อช่วยเหลือทางการปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลือง โดยสัญญาว่าผู้ที่สร้างผลงานจะได้รับการปูนบำเหน็จให้เป็นขุนนาง เล่าปี่เสือซุ่มที่รอจังหวะมาถึงสี่ปีก็รับรู้ได้ในทันทีว่าโอกาสมาถึงแล้ว ว่าแล้วก็จัดแจงแต่งตัวไปยืนหน้าป้ายประกาศถอนหายใจเฮือก ๆ ถอนหายใจเสร็จก็ไม่ไปไหนไกล พอคนมาเยอะ ๆ ก็มาถอนหายใจเฮือก ๆ อีก ใช่แล้วครับ เล่าปี่มารอตกปลาใหญ่สายเปย์ ถอนหายใจอยู่นานจนกระทั่งเตียวหุยสายเปย์โผล่มานั่นแหละถึงได้เลิกถอนหายใจ
7
ตอนเจอกัน เตียวหุยถามเล่าปี่ว่ามายืนถอนหายใจหน้าป้ายทำไร เล่าปี่ตอบเตียวหุยว่าอยากไปอาสาปราบโจรกบฏแต่ไม่มีตังค์ เป็นเชื้อเจ้าแต่บ่จี้ ผางเข้าให้ นี่คือคนที่เตียวหุยรอมานาน นี่คือคนที่ฟ้าประทานมาให้เตียวหุยเหมือนกับที่ฟ้าประทานเซียงอ๋องมาให้หลี่ปู้เหว่ย เล่าปี่คือตั๋วเลื่อนขั้นของเตียวหุย เป็นหุ้นที่น่าลงทุน เตียวหุยไม่ได้ด่วนตัดสินใจเพราะเห็นว่าเล่าปี่นั้นโหงวเฮ้งดีหรอกนะครับ เล่าปี่เตรียมการมานาน สร้างสมชื่อเสียงเอาไว้เยอะ เตียวหุยเป็นคนบ้านเดียวกับเล่าปี่ย่อมต้องได้ยินชื่อเสียงกิตติศัพท์ของเล่าปี่มาไม่มากก็น้อย พอเจอเล่าปี่ฮาร์ดเซลก็เลยขายบ้านขายรถทุ่มลงทุน
7
เล่าปี่ฮาร์ดเซลอย่างไร? การไปอาสาปราบโจรนั้นตัวคนเดียวก็ไปได้ครับ แทบทุกเมืองมีคนเรียกระดมคนกันอยู่แล้ว ต่อให้เล่าปี่ไม่ระดมคน สักพักก็จะมีคนออกมาระดมพล ถ้าแค่มีใจอยากช่วยชาติไปเข้าร่วมกับคนอื่นก็ได้ ไม่ต้องใช้เงินทองอะไร ที่เล่าปี่ขายให้กับเตียวหุยคือ เล่าปี่คิดการใหญ่ อย่างน้อยที่สุดต้องได้เป็นขุนนางใหญ่โต การจะสร้างผลงานระดับนั้นได้ต้องเป็นหัวหน้ากลุ่ม เป็นนายทัพ และการเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นต้องใช้เงิน ใช้เงินซื้ออาวุธชุดเกราะ ใช้เงินซื้อเสบียง ใช้เงินจ่ายเบี้ยหวัดเงินเดือน ไม่งั้นระดมให้ตายก็ไม่มีใครเข้าร่วม ที่เตียวหุยต้องการก็คือคนคิดการใหญ่นี่แหละ เสี่ยเขียงหมูไม่มีเครดิตแต่เจ้าตกยากมี
5
มาดูกวนอูกันบ้าง กวนอูนี่ก็ตลกครับ กวนอูเป็นใคร? กวนอูเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีฆ่าคนตาย กวนอูฆ่าใคร? กวนอูฆ่าคหบดีโฉดที่ชอบรังแกชาวบ้าน โปรไฟล์ของกวนอูดูยังไงก็คือโปรไฟล์ของโจรโพกผ้าเหลือง กวนอูร้องสั่งเสี่ยวเอ้อให้รีบยกสุราอาหารมาเสิร์ฟบอกว่ากินแล้วจะรีบไปอาสาปราบโจร นี่มันเรื่องตลกชัด ๆ กวนอูหนะตั้งใจจะไปเข้าร่วมกับโจรโพกผ้าเหลืองมากกว่า ถ้าตั้งใจรับใช้ชาติจริงสมัครที่เมืองไหนก็ได้ ไม่ต้องหนีมาสมัครที่เมืองนี้หรอก การอ้างของกวนอูก็เพื่อความสะดวกในการเดินทางแค่นั้นเอง พอเล่าปี่เข้าไปเลียบเคียงถามก็เลยสบช่องตีเนียนเข้าเป็นพวกชุบตัวมันซะเลย
4
หลังจากนั้นก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ชวนกันไปสาบานในสวนท้อ ทั้ง ๆ ที่สาบานในบ้านก็ได้ คำสาบานก็ตามสูตรสำเร็จของนักการเมืองคือเพื่อชาติเพื่อประชาชน อย่างว่าแหละครับ ถ้าประกาศว่าทำไปเพื่อเป็นใหญ่เป็นโตยกฐานะตัวเองใครมันจะเข้าร่วม
4
สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา