1 ต.ค. 2021 เวลา 12:00 • หนังสือ
โลกนี้มีคนอยู่ 3 ประเภท
7
1.
รู้ทุกเรื่องที่พูด แต่ไม่ต้องพูดทุกเรื่องที่รู้ ...หลายคนพังเพราะพูดมันทุกเรื่องที่รู้ ทั้งที่บางเรื่องไม่สมควรพูด แม้มันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แต่ที่พูดเพราะอยากอวด กลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่าฉันรู้ ฉันฉลาดนะเว้ย ...โลกเป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง คนพูดมาก มักรู้ไม่จริง คนรู้จริง มักไม่พูดมาก
14
ภาพถ่ายโดย Steven Arenas จาก Pexels
ถ้าไม่อยากมีปัญหาเพราะปาก ให้ถามตัวเองเสมอว่า ที่ฉันจะพูดออกมานั้น มันเป็นความจริงมั้ย? ถ้าไม่แน่ใจ ก็อย่าพูดเลย ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอก
5
เอาล่ะ...แต่ถ้ามันเป็นความจริง คันปากอยากพูดจะแย่ ให้ถามตัวเองต่ออีกนิดว่า แล้วเรื่องที่ฉันจะพูดออกมานั้น มันเป็นเรื่องดี ๆ หรือเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่น? ถ้าเป็นเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่น ฉันจะพูดเพื่ออะไร?
1
เอาล่ะ...แต่ถ้าคิดว่าเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่นมันเป็นเรื่องดี โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว อยากจะพูด ให้ถามตัวเองต่ออีกนิดว่า แล้วเรื่องที่ฉันจะพูดออกมานั้น มันเป็นประโยชน์มั้ย? ไม่พูดได้มั้ย? ถ้าไม่พูดก็ได้ ก็อย่าพูดเลย ชีวิตแสนสั้น ไปทำอย่างอื่นดีกว่า
แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ อยากพูดใจจะขาด ก็เอาเถิด...เอาที่สบายใจ
1
2.
การด่าทอผู้อื่น ช่วยยกตัวเราเองให้ขึ้นสูงตั้งแต่เมื่อไหร่? การเสียดสีผู้อื่น ทำให้เราสุขใจได้อย่างแท้จริงหรือไม่? การประจานข้อผิดพลาดของผู้อื่น ทำให้เราสะใจได้อย่างนั้นหรือไร? การเห็นความทุกข์ของคนที่เราเกลียด ทำให้เรามีความสุข? แบบนี้ถูกแล้วหรือไม่?
14
ลองแบ่งเวลามองเข้ามาข้างในตัวเรา พิจารณาข้อบกพร่องของตนเอง เปลือยความผิดตัวเองของตัวเองออกมา
กางแผ่ แล้วจะเห็นข้อบกพร่องนั้น ...ก็ในเมื่อเรายังไม่อยากให้ใคร ด่าทอ เสียดสี ประจาน หรือสะใจที่เห็นเรามีความทุกข์ คนอื่นก็ย่อมไม่อยากให้เราทำแบบนั้นเหมือนกัน
3
จำไว้เสมอว่า ความสุขของเราเกิดจากการที่เรามีความสุข มิใช่เกิดจากที่เราเห็นความทุกข์ของผู้อื่น และชีวิตของเราก็ก้าวหน้าเพราะเราพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่เพราะจดจ้องมองความล่มจมของผู้อื่น ความสุขของเราเกิดจากการที่เรามีความสุข มิใช่เกิดจากที่เราเห็นความทุกข์ของผู้อื่น
9
จงให้อภัย หรือให้คำแนะนำกับเขาผู้นั้นซึ่งกำลังประสบหายนะ ไม่ใช่ชวนพรรคพวกมาร่วมสหบาทา ถล่มซ้ำด้วยความสะใจ ราวกับว่าความล่มจมของใครคนหนึ่ง จะช่วยดึงให้ชีวิตเราขึ้นสูงได้อย่างนั้น
2
วันนี้เราบางคนอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อวันที่ชีวิตต้องล้มลงบ้าง เราจะพบว่า ในวันร้าย ๆ เราไม่ได้ต้องการตีนใครก็ไม่รู้ที่ถล่มลงมาเหยียบ แต่คือมือใครสักที่จะช่วยฉุดให้เราลุกขึ้น
1
ด้วยหัวใจที่เข้าใจว่า "มนุษย์ทุกคน ย่อมมีวันหมา ๆ ด้วยกันทั้งนั้น"
5
3.
แต่ก็อีกนั่นแหละ ...จะอยู่ในสังคมได้ เราต้องพร้อมรับคำคน ไม่อย่างนั้นคงต้องย้ายไปอยู่หลังเขา ...ซึ่งในเวลาต่อมา อย่าคิดว่าจะรอดปากคน เพราะหากมีคนรู้ว่าเราย้ายไปอยู่หลังเขาเข้าสักวัน เขาก็จะพร้อมพูดถึงอยู่ดีว่า แล้วไปอยู่หลังเขาทำไม?
10
คนเรามักเป็นเช่นนี้ ออกความคิดเห็นได้กับทุกเรื่อง แม้จะรู้เรื่องนั้นจริงหรือไม่ก็ตาม ความคิดเห็นทำให้เรารู้สึกฉลาดและมีส่วนร่วม เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราจึงชอบออกความคิดเห็น
1
สำหรับคนที่เจอคำติชม ให้น้อมรับไว้ ...ฟัง แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด ถ้าคิดว่าเราทำดีแล้ว จงทำต่อไป จำไว้ว่าไม่มีใครทำแล้วถูกใจไปหมดทุกคน ...ก็ขนาดบางครั้งเรายังไม่ถูกใจตัวเองเลย
2
แล้วจะหวังให้ทุกคนมาถูกใจเราได้อย่างไร?
4.
โลกนี้มีคนอยู่ 3 ประเภท หนึ่ง คนที่ชอบเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม สอง คนที่เกลียดเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม และสาม คนที่เฉย ๆ กับเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม
9
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ให้เวลากับคนที่ชอบเรา ยังชอบเรา หรือกำลังจะชอบเรามากขึ้น ...แต่คนส่วนใหญ่กลับทำตรงข้าม คือ ทุ่มเทความพยายามทั้งหมด ทำให้คนที่เกลียด หันมาชอบเราให้จงได้ หรือไม่ก็ทุ่มเถียงเพียงเพื่อจะเอาชนะเขาให้ได้ สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ อย่าได้พยายามเลย เสียเวลาเปล่า ๆ คนที่เกลียดเรา เขาไม่ฟังอะไรเราทั้งนั้น และเขาก็ไม่คิดจะหันมาชอบเราด้วย
5
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พยายามยกหางตัวเองว่าฉันมีเหตุผล ฉันศิวิไลซ์เหนือสัตว์ทั้งปวงในโลกนี้ ...ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า คนเราใช้อารมณ์นำ แล้วหาเหตุผลมารองรับด้วยกันทั้งนั้น
3
จงใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดของเรา ทุ่มเทให้กับคนที่รักเรา ชื่นชอบเรา เข้าใจเรา และสนับสนุนเรา ไม่ใช่ใช้แรงกายแรงใจของเราทั้งหมด ทุ่มเถียงคนที่เกลียดเรา ริษยาเรา ไม่เข้าใจเรา และต่อต้านเรา ส่วนคนที่เฉย ๆ กับเรา ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับเขาหรอก เพราะเขาเฉย ๆ กับเรา ไม่ว่าเราจะทำดีหรือไม่ดีก็ตาม เราแทบไม่มีตัวตนอยู่ในโลกของเขาเลย
3
ชีวิตแสนสั้น โฟกัสให้ถูกจุด อย่าให้เวลากับคนที่เกลียดเรา แต่จงมอบเวลาให้กับคนที่รักเรา.
9
โฆษณา