27 ก.ย. 2021 เวลา 14:14 • ประวัติศาสตร์
Kingdom: Ashin of the North: มินชีรกกับตัวแทนผู้มีความคิดแบบทหาร
โปสเตอร์ภาพยนต์ Kingdom: Ashin of the North
ในขณะที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Kingdom เป็นซีรีย์เกาหลีที่ปฏิสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง สังเกตได้จากการซีรีย์มีการประกาศทำซีซั่น 3 ต่อ รวมถึงทำ Spin off ที่มีเนื้อเรื่องแยกจากเส้นเรื่องหลักในรูปแบบภาพยนตร์อย่าง Kingdom: Ashin of the North
Kingdom: Ashin of the North จะเล่าถึงช่วงเวลาก่อนซีรีย์ Kingdom หากอ้างอิงตามช่วงเวลาตามประวัติศาสตร์เกิดขึ้นก่อนช่วงสงครามอิมจินหรือสงครามญี่ปุ่น-เกาหลี (ค.ศ.1592-1598) สังเกตได้จากในภาพยนตร์ราชสำนักโซซอนจะพึงระวังความมั่นคงจากชนเผ่าที่อยู่ในที่ราบแมนจูเรียที่รู้จักกันในชื่อ “พาจอวี” เป็นหลัก และจุดที่แน่ชัดว่าเนื้อเรื่อง Kingdom: Ashin of the North เกิดขึ้นก่อนสงครามอิมจิน คือใน Kingdom ซีซั่น 1 ที่องค์ชายอีซางไปขอความช่วยเหลือจากวีรบุรุษสงครามอันฮยอน และอันฮยอนนั้นต่างรู้วิธีในการรับมือกับซอมบี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากอันฮยอนและผู้ติดตามนั้นเคยปลุกชีพคนตายเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นที่มาจากทางภาคพื้นดินในช่วงสงครามอิมจิน
เพื่อทำความเข้าใจ Kingdom: Ashin of the North เราต้องมาทำความเข้าใจกับตัวละครสามกลุ่มหลักซึ่งจะมีผลต่อเนื้อเรื่องของซีรีย์ Kingdom ซึ่งจะประกอบไปด้วย หนึ่ง ฝ่ายโซซอน ในภาพยนตร์ทางราชสำนักโซซอนเกรงกลัวภัยคุกคามจากชนเผ่าที่อยู่บนที่ราบแมนจูเรียจึงได้มาสร้างค่ายทหารและป้อมระวังภัยที่ชูพาจินนำโดยมินชีรก อีกทั้งในขณะนั้นโชซอลกำลังจะเผชิญภัยคุกคามจากญี่ปุ่น ดังนั้นค่ายรักษาการณ์ชายแดนที่ชูพาจินจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับโชซอน
มินชีรกและทหารโชซอน
ฝ่ายที่สองคือชาวหนี่ว์เจิน เผ่าซองจอยาอินซึ่งเป็นเผ่าของอาชิน โดยมีทาฮับพ่อของอาชินเป็นผู้นำ โดยเผ่าซอจอยาอินอาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำอัมนกหรือแม่น้ำยาลู่ อันเป็นแม่น้ำที่แบ่งพรมแดนระหว่างโซซอนกับที่ราบสูงแมนจู และรอบ ๆ ค่ายรักษาการณ์ชายแดนที่ทางโซซอนให้ตั้งถิ่นฐานได้
อาชินยืนส่งทาฮับไปทำภารกิจที่ดินแดนของพาจอวี
ฝ่ายสุดท้ายคือชาวหนีว์เจิน เผ่าพาจอวี โดยเผ่าพอจอวีเป็นเผ่าที่ปกครองชาวหนีว์เจินแทบทั้งหมด และขึ้นชื่อในเรื่องของความเชียวชาญในการต่อสู้และความโหดร้ายทารุณ ดั่งที่โซซอนเป็นกังวลว่าพาจอวีถ้ารวมกันหมื่นโซซอนคงถึงคราวพินาศถ้าถูกโจมตี และในขณะนั้นชาวพาจอวีได้กำลังรวบรวมไพร่เพื่อเตรียมคุกคามบริเวณชายแดนของโชซอนอันเป็นเวลาเดียวกันกับที่โชซอลกำลังโกลาหลในการเตรียมรับมือกับการบุกของญี่ปุ่น
เผ่าพาจาวี
แต่ความที่โซซอนเกรงกลัวในคววามอันตรายของชาวหนี่ว์เจิน เผ่าพาจอวีและซองจอยาอินจะรวมตัวกัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความน่ากลัวให้กองทัพชาวหนี่ว์เจินเป็นอย่างมาก โซซอนจึงคิดอุบายที่จะแยกเผ่าพาจอวีแลซอจอยาอินให้แยกออกจากกัน โดยผู้รับหน้าที่นี้คือมินซีรก ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาการป้อมรักษาการชายแดนที่ชูพาจิน ทางมินชีรกได้ยื่นข้อเสนอให้กับทาฮับว่าถ้ายอมช่วยเหลือโซซอนในการสืบหาข่าวของพาจอวีให้ โซซอนจะยอมมอบตำแหน่งในการปกครองให้กับทาฮับและจะให้หมู่บ้านของเผ่าซองจอยาอินอยู่ในอาณัติของโชซอน
มินชีรกขณะที่อยู่ในค่ายรักษาการณ์ที่ชายแดน
ด้วยความที่ทาฮับต้องการที่จะให้ชีวิตของเผ่าซองยาอินดีขึ้น เขาตอบรับข้อเสนอของมินชีรกในการเป็นสายลับให้กับโชซอน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถ้าไม่พลาดก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าพลาดคือชีวิตของทาฮับหรือเผ่าซองจอยาอินจะต้องถูกพวกพาจอวีทำลายล้าง แม้จะอาชินแต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่พ่อเธอทำให้กับโซซอนมันคุ้มจริงหรือปล่าว เพราะพ่อของเธอยังถูกเหยียดยามจากชาวโซซอน แม้จะถูกอาชินถามเช่นนี้แต่ทาฮับกลับยังจงรักภักดีต่อโชซอนอย่างถวายหัว เพื่อเขาหวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะได้รับการแต่งตั้งและเผ่าซองจอยาอินจะได้มีชีวิตอย่างองอาจในแผ่นดินโซซอน
อาชินในวัยเด็ก
เรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อมีชาวพาจอวีจำนวนหลายสิบตายในพเยซากุนอันเป็นดินแดนของโชซอน ทำให้มินชีรกเป็นกังวลเพราะถ้าหากข่าวนี้รั่วไหลไปถึงพวกพาจอวีสงครามขนาดใหญ่คงเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มินชีรกจึงมอบมารกิจครั้งสำคัญให้กับทาฮับไปปล่อยข่าวลือว่าพวกพาจอวีที่ตายไปพเยซากุนนั้นตายด้วยฝีมือของเสือ
หลังจากให้ทาฮับไปปล่อยข่าวมินซีรกได้สั่งให้มีการล่าเสือ ซึ่งในการล่าเสือพวกพาจอวีได้แทรกซึมเข้ามาเพื่อตรวจดูว่าข่าวลือที่ได้รับมานั้นเป็นความจริง เมื่อล่าเสือได้สำเร็จพวกพาจอวีได้รีบมาผ่าท้องเสือเพื่อตรวจดูว่ามีชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ในข้างในท้องเสือหรือไม่ ปรากฎว่าพวกพาจอวีไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์รวมถึงอวัยวะภายในเสือตัวนั้นได้เน่ามานานอีกด้วย ทำให้พวกพาวอวีที่แทรกซึมเข้าเกิดความสงสัยว่าข่าวลือที่ได้รับมานั้นจะไม่ใช่ความจริง และประเด็นนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หมู่บ้านของชาวซองจอยาอินถูกทำลาย
มินชีรก
สาเหตุที่ทำให้หมู่บ้านของชาวซองจอยาอินนั้นถูกทำลายนั้นเกิดจากวิธีที่มินชีรกใช้เลี่ยงสงครามที่จะเกิดขึ้นกับโชซอล เพราะหลังจากที่มินชีรกได้ไปตรวจสถานที่ที่พบศพชาวพาจอวี มินชีรกก็สงสัยว่าชาวพาจอวีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรบจะถูกฆ่าทั้งหมดก็ต้องเป็นฝีมือของนักรบที่มีฝีมือ จนมินชีรกได้พบกับลูกศรซึ่งเมื่อตรวจดูก็พบว่าเป็นลูกศรของโจบอมอิล
มินชีรกพบลูกศรที่เป็นของโจบอมอิล
โจบอลอิลนั้นเป็นลูกชายโจฮักจูผู้เป็นผู้นำของตระกูลแฮวอนโจซึ่งเป็นขุนนางที่มีอำนาจมากที่สุดในราชสำนัก มินชีรกได้เพียงแต่เรียกโจบอมอิลเข้าตักเตือน แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เนื่องจากแม้จะลงโทษโจบอลอิลไปยังไงโจฮักจูก็เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้จนโจบอลอิลไร้ซึ่งความผิด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือถ้ามินชีรกยอมรับว่าการที่ชาวพอจาวีตายในพเยซากุนเกิดจากชาวโชซอล พวกพาจอวีที่พร้อมจะทำสงครามจะใช้เหตุผลดังกล่าวเข้ารุกรานชายแดนของโชซอล ถ้าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นโชซอลต้องถึงคราวล่มสลายอย่างแน่นอน
โจบอมอิล
มินชีรกจึงใช้วิธีที่โชซอลไม่ต้องสูญเสียอะไรทั้งสิ้น วิธีดังกล่าวคือการโยนความผิดให้กับชาวซองจอยาอิน โดยระหว่างพบกับพวกพาจอวีในการล่าเสือมินชีรกได้บอกแก่พวกนั้นว่าผู้ที่ฆ่าชาวพาจอวีตายในพเยซากุนคือชาวซองจอยาอิน พร้อมกับแสดงหลักฐานที่พบในที่ที่พบศพเป็นสิ่งที่มินชีรกได้รับจากทาฮับเพื่อแสดงการความนับถือผู้ที่ใหญ่กว่า แต่มินชีรกได้ใช้ของสิ่งนั้นย้อนกลับไปทำลายชาวซองจอยาอิน
เมื่อได้ทราบดังนั้นพวกพาจอวีที่นำโดยไอดากัน (ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าของเผ่าพาจอวี) ได้บุกมาทำลายหมู่บ้านและฆ่าชาวซองจอยาอินหมดทุกคน แต่โชคดีของอาชินที่ตอนนั้นเธอได้เข้าไปหาสมุนไรจึงไม่ถูกคมดาบของพาจอวีฆ่าตาย เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านอาชินพบว่าหมู่บ้านถูกทำลายและทุกคนถูกฆ่าหมด เธอซึ่งไร้หนทางอื่นนอกจากไปขอความช่วยเหลือจากโชซอนที่พ่อของเธอภักดีมาโดยตลอด โดยเธอหวังว่าโชซอลจะช่วยแก้แค้นให้กับเผ่าของเธอเพื่อตอบแทนกับสิ่งที่พ่อของเธอได้ทำให้โชซอล
ไอดากัน
แต่เมื่ออาชินไปขอความช่วยเหลือจากโซซอล มินชีรกได้เพียงแต่บอกว่ายังไม่ถึงเวลาและให้อาชินอาสัยอยู่กับโชซอลที่นี่ ซึ่งสิ่งที่มินชีรกพูดไปคือบอกปฏิเสธอย่างอ้อม ๆ เพราะหากมินชีรกปฏิเสธไปตรง ๆ ก็คงไม่สามารถเก็บอาชินไว้ใช้งานในฐานะสายลับได้ โดยอาชินก็ทำงานเป็นสายลับให้โชซอลด้วยความักดีแม้เธอจะถูกย่ำยีจากทหารโชซอล แต่เธอก็หวังว่าซักวันหนึ่งโชซอลจะแก้แค้นให้กับเผ่าซองจอยาอิน
อย่างไรก็ดีความจริงปรากฏเมื่อระหว่างที่เธอเข้าไปสืบข้อมูลที่ค่ายพาจอวี อาชินได้พบกับทาฮับพ่อของเธอที่ถูกทรมานอย่างหนักจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมและเอก็ได้รู้ความจริงในวันนั้นว่าตลอดเวลาที่ผ่านโชซอลได้หลอกใช้เธอเพื่อประโยชน์ของโชซอลเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอนำแค้นทั้งหมดไปปลุกชีพคนตายให้ลุกขึ้นมาเพื่อทำลายโชซอลอันเป็นจุดเริ่มต้นของซอมบี้แห่งโชซอล
อาชินกำลังโจมตีโชซอลที่ชูพาจิน
เมื่อเรากลับมาพิจารณาที่ตัวมินชีรก ถ้าเรามองตัวเขาในมุมมองคนธรรมดาจะเห็นว่ามินชีรกนั้นเป็นคนที่เลือดเย็นที่ทำลายได้แม้กระทั่งชีวิตของชาวบ้านซึ่งไม่มีความผิดรวมถึงหลอกใช้เด็กคนหนึ่งเป็นสิบปี อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อความยุติธรรมทั้งที่รู้ว่าใครคืคนผิด ถ้าเรามองเขาด้วยมุมมองแบบนี้มินชีรกจะกลายเป็นคนเลวอย่างไม่ต้องสงสัย
ในทางกลับกันถ้ามองมินชีรกในมุมมองของทหารยุคโบราณเขาคือทหารที่มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก พิจารณาได้จากที่เขาเลือกที่จะปฏิเสธว่าโชซอลไม่ได้ฆ่าชาวพาจอวีที่พเยซากุน แต่โยนความผิดให้กับขาวซองจอยาอิน เพราะเขาคิดแล้วว่าการเสียละหมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านหนึ่งกับความปลอดตามแนวชายแดนของโชซอลนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า และการทำลายชาวซองจอยาอินนี่ยังเป็นกำจัดเสี้ยนหนามในอนาคตหากชาวซองจายาอินคิดทรยศโชซอล
และการที่มินชีรกจะแก้แค้นให้กับอาชินนั้นคือเรื่องที่เป็นไม่ได้ เพราะมินชีรกนั้นรู้ดีว่าการทำตามคำขอของเด็กคนเดียวและเธอก็ไม่ใช่ชาโชซอลอีกด้วย (ถึงแม้เป็นเด็กโชซอลเขาก็ไม่ทำตามคำขอเหมือนกัน) ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่โชซอลจะถูกชาวพาจอวีทำลาย
อีกทั้งการที่มินชีรกหลอกใช้อาชินในการสืบความเคลื่อนไหวของพาจอวีก็เพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดนของโชซอล เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวการรู้ความเคลื่อนไหวพวกพาจอวีเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโชซอลต้องรับมือการรุกรานของญี่ปุ่น ถ้าปล่อนให้พวกพาจอวีหลุดลอดสายตาไป โชซอลจะต้องทำสงครามถึงสองแนวรบซึ่งผลสุดท้ายโชซอลจะต้องล่มสลาย
มินชีรกและองค์ชายอีชางใน Kingdom ซีซั่น 2
ที่สำคัญความคิดของทหารยุคก่อนที่ปลูกฝังมาโดยตลอดคือการปกป้องราชวงศ์อันเป็นรากฐานของประเทศ การเสียสละชีวิตของประชาชนเพื่อค้ำจนรากฐานของประเทศจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่า สาเหตุหนึ่งที่เหล่าทหารหรือพวกขุนนางต่างยกย่องราชวงศ์นั้นมาจากความคิดเรื่องอาณัติแห่งสวรรค์ที่กษัตริย์คือร่างจุติของเทพเจ้า ดังนั้นแล้วมินชีรกนั้นคือตัวแทนของผู้มีความคิดแบบทหารยุคก่อนได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง
Michael J. Seth (2021). A history of Korea: from antiquity to the present. United States of America: Published by Rowman & Littlefield Publishers, Inc.
เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์ (24 กรกฎาคม 2564). ไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส Kingdom: Ashin of the North ความแค้นของคนชายขอบที่รัฐไม่เคยเหลียวแล. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2564, จาก https://thestandard.co/kingdom-ashin-of-the-north-3/.
ศิลปวัฒนธรรม (23 กรกฎาคม 2564). ปมสงครามญี่ปุ่นบุกเกาหลี ภูมิหลังอิงเรื่องจริงใน Kingdom สู่ภัย “ซอมบี้” ที่ถูกเติม. สืบค้นเมื่อ 27 กันยายน 2564, จาก https://www.silpa-mag.com/history/article_46871.
โฆษณา