28 ก.ย. 2021 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์
จะตามหา ‘ความสุข’ ได้อย่างไรในช่วงเวลายากลำบาก
12
“เมื่อไหร่ถึงจะมีความสุขเสียที”
2
หลายๆ คนอาจถามคำถามนี้กับตัวเองตลอดช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อโลกผันผวนและทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ บางคนต้องสูญเสียคนสำคัญ บางคนต้องออกจากงาน และบางคนต้องปิดกิจการ สูญเสียรายได้ไปจำนวนมาก
4
ปัญหาส่วนตัวที่ต้องเจอก็หนักมากแล้ว พอหันไปมองรอบๆ ก็ต้องเจอกับเศรษฐกิจซบเซา การเมืองน่าปวดหัว ชีวิตติดเคอร์ฟิว และภัยน้ำท่วมที่กำลังจะมาถึง เรายิ่งรู้สึกสิ้นหวังไปอีก
3
จะมี ‘ความสุข’ ได้อย่างไรในสถานการณ์ที่มืดมนเช่นนี้
3
รู้จักกับ Nightbirde ผู้หญิงที่เชื่อว่าชีวิตนี้มีโอกาสอยู่เสมอ
10
ในช่วงเวลาแบบนี้ ผู้เขียนเองพบว่าเผลอนอนไถโทรศัพท์อย่างไร้จุดหมายอยู่บ่อยๆ ไม่แน่ใจนักว่าเป็นความพยายามในการหนีออกจากโลกความเป็นจริงหรือเปล่า แต่ในช่วงดึกของคืนหนึ่ง วิดีโอหนึ่งใน Youtube ก็สะดุดตาเข้า
1
เป็นไฮไลท์จากรายการ America’s Got Talent ชื่อคลิปว่า ‘เพลงแต่งเองของ Nightbirde ทำให้ Simon Cowell ซึ้งสุดๆ’
แม้จะเลิกดูรายการนี้ไปนานหลายปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงตัดสินใจกดเข้าไปดู เพราะคลิปนี้พึ่งปล่อยตัวไม่กี่เดือนแต่มียอดผู้ชมกว่า 30 ล้านคน เพราะอยากเห็น Simon Cowell กรรมการจอมโหดเสียน้ำตา หรือเพราะ ‘รอยยิ้ม’ ของผู้หญิงบนหน้าปก
“สวัสดี ฉันชื่อเจน แต่เวลาร้องเพลงจะเรียกตัวเองว่า Nightbirde” เธอแนะนำตัวเมื่อก้าวขึ้นบนเวที รูปร่างของเธอดูบอบบาง ผมสั้นจนแทบจะคล้ายทรงสกินเฮดทำให้เธอดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่ แต่เรารู้สึกถึงความมั่นใจจากดวงตาและรอยยิ้มอันเป็นประกายอยู่ตลอดเวลา
1
กรรมการเริ่มถามคำถามเธอตามปกติ เมื่อพวกเขาถามว่าเธอทำอาชีพอะไร เธอยิ้มพร้อมตอบว่า “ฉันไม่ได้ทำงานมาสักพักแล้ว เพราะต้องรับมือกับโรคมะเร็ง”
2
‘โรคมะเร็ง’ ทั้งห้องส่งเงียบไปพักใหญ่ราวกับไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ไม่มีใครคาดหวังว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ พร้อมรอยยิ้มสดใสจะต้องต่อสู้กับมะเร็งในปอด กระดูกสันหลัง และตับ
2
ทว่าความกระอักกระอ่วนและความเห็นใจได้แปรเปลี่ยนเป็น ‘ความประทับใจ’ เมื่อเธอเริ่มร้องเพลง ‘It’s OK’ เพลงที่เธอแต่งเกี่ยวกับประสบการณ์การเป็นโรคมะเร็งของเธอ เรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านเสียงหวานและแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ทำเอาผู้คนในห้องส่งทราบซึ้งไปตามๆ กัน
เสียงปรบมือดังก้องเมื่อบทเพลงจบลง กรรมการต่างบอกว่าเสียงของเธอไพเราะมาก และการที่เธอถ่ายทอดเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เธอต้องเจอ ผ่านรอยยิ้มและเนื้อหาของเพลงที่ปลอบประโลมเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก
1
เจนยิ้มก่อนจะพูดประโยคที่ตรึงใจคนฟังว่า
“You can’t wait until life isn’t hard anymore before you decide to be happy.” (อย่ารอจนถึงวันที่ชีวิตไม่ลำบากแล้วค่อยตัดสินใจว่า ‘จะมีความสุข’)
42
ตามหาแสงของความหวังในวันที่มืดมน
3
แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่จะรับมือกับเรื่องร้ายๆ ด้วยรอยยิ้มได้ การมีความสุขในสถานการณ์แย่ๆ อาจเป็นก้าวที่ใหญ่ไปสำหรับใครหลายคน เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนและใช้เวลา เราอาจเริ่มด้วยก้าวเล็กๆ อย่างการ ‘ไม่สิ้นหวัง’ กันก่อน
1
ความหวังสำคัญอย่างไร? ความหวังจะนำมาซึ่งความสุขเพราะการไม่สิ้นหวังทำให้เรามีความยืดหยุ่น (Resilience) ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ในขณะที่ความสิ้นหวัง ความยอมจำนน หรือความเชื่อว่าเราไร้ความสามารถ สิ่งเหล่านี้มีแต่จะทำให้เรารู้สึกเศร้า
2
“ความหวังช่วยให้จิตใจเรามั่นคงและประคองความสุขไว้เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ตึงเครียด” Mark Manson ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับความหวังและความสุขกล่าว
1
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ยากลำบากแบบนี้เราจะมีความหวังได้อย่างไรแบบ ‘ไม่หลอกตัวเอง’
1
การมองโลกในแง่ดีไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องร้ายๆ ไม่ได้หมายความว่าต้อง ‘ฝืนยิ้ม’ ในวันที่อยากร้องไห้ แต่หมายความว่าเราสามารถมีหวังว่าอนาคตจะดีขึ้น พร้อมๆ กับรับรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร
2
พูดง่ายๆ ก็คือมีความหวังแม้ปัจจุบันเราจะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเลวร้ายแค่ไหนนั่นเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะมีวิธีไหนบ้างให้เราฝึกรับมือกับมันได้
2
1) ควบคุมสิ่งที่ ‘ควบคุมได้’
4
หลายครั้งเรารู้สึกแย่เพราะจมอยู่กับความคิด เช่น ‘ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย’ หรือ ‘เขาจะว่าอย่างไรนะ’ แต่ถ้าหากเราตั้งสติและหายใจเข้าลึกๆ เราจะพบว่าเรากำลังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ การคิดอยู่ซ้ำๆ ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากทำให้เรารู้สึกหมดหนทาง
เราควรหันกลับมาโฟกัสในสิ่งที่เรา ‘ควบคุมได้’ จะดีกว่า อย่างการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำได้ไม่ยาก หากเราทำสำเร็จ ความรู้สึกว่าเรามีความสามารถจะกลับมาอีกครั้ง สิ่งนี้แหละจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
จำไว้เสมอว่า บนโลกนี้มีหลายสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่น การกระทำของผู้อื่น และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นกังวลเรื่องพวกนี้ไปคงไม่ช่วยอะไร หันมาควบคุมสิ่งที่ควบคุมได้ ซึ่งก็คือการกระทำของเราในปัจจุบัน จะดีกว่า
4
2) ฝึกใจดีกับตัวเอง (Self-compassion)
1
ช่วงแย่ๆ เรามักจะมีความคิดในแง่ลบผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความคิดโทษตัวเอง โทษผู้อื่น หรือการจินตนาการถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุด สิ่งที่เราทำได้คือการหยุดความคิดเหล่านี้ และแทนที่มันด้วยสิ่งอื่นแทน เช่น การโฟกัสกับลมหายใจเข้า-ออก การพาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ หรือการพูดจาดีๆ กับตัวเอง
1
ด็อกเตอร์ Sarah Kate McGowan ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งคณะจิตวิทยาและพฤติกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เสนอว่า การคุยกับตัวเองขณะรับมือกับปัญหาช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาอันมืดมนไปได้ อย่างการปลอบตัวเองว่า ‘เราค่อยๆ ทำไปทีละอย่างได้’ หรือ ‘เรื่องนี้น่ากังวลก็จริง แต่ฉันรับมือไหว’ คำพูดเช่นนี้แหละจะช่วยให้เราออกจากวนลูปความคิดแย่ๆ ไม่ว่าเราจะพูดออกมาหรือเขียนลงไปก็ตาม
1
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตระหนักว่าสถานการณ์มันไม่ง่ายแต่เราทำเท่าที่ทำได้ และสิ่งที่เราต้องการจากตัวเองเป็นพิเศษคือความเข้าใจ ความใส่ใจและการดูแลตัวเอง
1
3) ฝึกมองหาสิ่งดีด้วยๆ Gratitude Journal
2
ในหนังสือ The Happiness Advantage ผู้เขียนได้แนะนำให้เขียน “สิ่งดีๆ 3 อย่าง” ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเหตุการณ์ใหญ่โต แค่เรื่องเล็กจิ๋วก็ถือว่าเป็นสิ่งดีๆ แล้ว เช่น ‘วันนี้อาหารเช้าที่กินไปอร่อยมาก’ หรือ ‘วันนี้คนแปลกหน้ายิ้มให้’ เป็นต้น ผลวิจัยพบว่าการเขียนบันทึกเรื่องดีๆ เช่นนี้เป็นประจำทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
6
4) มองเรื่องแย่ๆ ให้เป็นบทเรียน
2
ในงานวิจัยงานหนึ่ง ผู้ทดลองต้องเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ฝังใจของตน 15 นาทีต่อวัน ผลพบว่าคนที่สามารถหา ‘ความหมาย’ หรือ ‘บทเรียน’ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้นั้นมักจะมีความเครียดลดลง อารมณ์ดีมากขึ้น และเจ็บป่วยน้อยลง
แทนที่เราจะนั่งทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้น เรามาลองหาความหมายของมันดูไหมว่ามันให้บทเรียนอะไรแก่เราบ้าง ช่วยให้เราเติบโตได้อย่างไร และในอนาคตเราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกได้อย่างไร บางทีเราอาจค้นพบสัจธรรมบางอย่างและปล่อยวางมากขึ้นก็ได้นะ
5) ให้อะไรแก่สังคมบ้าง
ในช่วงเวลายากลำบาก หากเราได้ช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่าเรา นอกจากเราจะได้ช่วยพวกเขาแล้ว งานวิจัยยังพบว่าการช่วยเหลือคนอื่นทำให้เรารู้สึกดีขึ้นและรู้สึกเป็นมนุษย์มากขึ้นอีกด้วย
3
จริงอยู่ที่หลายคนมองว่าการที่ประชาชนต้องออกมาบริจาคในสถานการณ์เช่นนี้แสดงถึงความล้มเหลวของภาครัฐ แต่การ ‘ให้สังคม’ ของเราไม่จำเป็นต้องเป็นการบริจาคเงินก้อนใหญ่ แค่ช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ในสิ่งที่เราถนัด อย่างการช่วยกระจายข่าวที่ถูกต้องแก่เพื่อนฝูง หรือการสรุปเรื่องวัคซีนในแบบเข้าใจง่ายแก่คนสูงอายุในครอบครัว ก็เป็นการช่วยเหลืออย่างหนึ่ง
อย่างน้อยในวันแย่ๆ การกระทำเล็กๆ ของเราอาจช่วยให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้นนะ
6) อย่าทำเป็นไม่รู้สึก
หากเรารู้สึกไม่ดี โมโหหรือเสียใจ อย่าเก็บความรู้สึกนั้นไว้แล้วฝืนยิ้ม การกระทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายเราเสื่อมเสียเพราะอารมณ์ที่เก็บกดไว้ ที่ถูกต้องคือระบายออกมาให้ถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการร้องไห้ออกมา คุยกับคนอื่น หรือเขียนระบายในสมุดบันทึก
จะลบจะบวก ท้ายที่สุดมันก็คือความรู้สึกของเราและเราต้องซื่อสัตย์กับมันด้วย
2
ในตอนท้ายราย Nightbirde ผู้เข้าแข่งขัน American’s Got Talent ได้เผยเคล็ดลับในการมองโลกในแง่ดีในขณะที่ต้องเผชิญกับโลกร้ายไว้
1
“ฉันมีโอกาสรอดแค่ 2%” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มเช่นเคย “แต่ 2% ไม่ใช่ 0% ถึงจะเป็นแค่ 2% แต่มันก็มีความหมายบางอย่าง และฉันอยากให้คนอื่นรู้ว่ามันมหัศจรรย์แค่ไหน”
5
การตามหาความสุขในช่วงนี้อาจไม่ต่างจากการเดินทางขึ้นภูเขาสูงชันที่แทบจะมองไม่เห็นยอด หนทางเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย จนเราอยากจะถอดใจกลางทาง แต่จำไว้เสมอว่าเมื่อเราขึ้นไปถึงยอดเขา เราอาจเห็นวิวอันงดงามที่ทำให้ความทุกข์ใจที่ผ่านมามลายหายไป จนเรารู้สึกว่าคุ้มค่าเหลือเกินที่ได้สู้ต่อ
4
ชีวิตยังมีสิ่งสวยงามรอคอยอยู่เสมอนะ
6
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- “โตแล้ว ไม่ร้องนะ” ความเป็นผู้ใหญ่กำลังทำร้ายคุณอยู่หรือเปล่า? >> https://bit.ly/3B0JHJq
- ฝึกสมองให้มองเห็นความสุขได้ด้วย "The Tetris Effect" >> https://bit.ly/3kHsu1Y
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration
โฆษณา