Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Future Trends
•
ติดตาม
4 ต.ค. 2021 เวลา 10:00
เมื่อสังคมเชิดชูคนขยัน ฉันจึงทำตัวยุ่งตลอดเวลา
รู้จัก Toxic Busyness วงจรอุบาทว์ของความยุ่งที่เป็นพิษ
“โอ้โหพี่ เลิกงานแล้ว ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ สุดยอดมาก”
“โอ้โหพี่ ทำงานจนเช้า ไม่ยอมหลับยอมนอน เก่งมาก”
“โอ้โหพี่ ขนาดวันหยุดยังหาอะไรทำอีก ขยันจัง”
ประโยคที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดีในสังคมไทย แต่พอลองมาคิดดูดีๆ แล้ว ก็เป็นเรื่องน่าแปลกเหมือนกันเนอะ ที่สังคมในบ้านเรามีค่านิยมในการยกย่อง เชิดชูคนที่ทำงานหนักหรือคนที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา คนที่มีอะไรทำอยู่ตลอดมักจะได้รับเสียงชื่นชมจากคนรับข้างเสมอว่า เป็นคนที่ ‘ขยัน’ ในทางกลับกัน คนที่อยู่เฉยๆ กลับถูกหาว่า เป็นคน ‘ขี้เกียจ’ ทุกวันนี้ สังคมเรายกย่องความยุ่งซะจนราวกับว่า เป็น ‘badge of honor’ หรือ ‘ตัวบ่งชี้คุณค่าความเป็นมนุษย์’ ทั้งที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่สังคมให้ค่า ให้ราคาเพียงเท่านั้น
ฟังแล้ว ความยุ่งเหมือนจะดีใช่ไหมล่ะ เพราะทำให้เราดูเป็นคนที่ขยัน และโปรดักทีฟในสายตาคนอื่น แต่ในบางครั้ง เจ้าความยุ่งเนี่ยแหละ ก็สามารถเป็นพิษภัยต่อตัวเราได้เช่นกัน
Toxic Busyness คือสภาวะความเป็นพิษที่เราพยายามหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา เนื่องจาก กลัวคนอื่นกล่าวหาว่า ‘ขี้เกียจ’ และทำไปเพื่อหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลของตัวเอง เหมือนกับที่หลายๆ คนชอบคิดว่า “ฉันต้องหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ว่า จะได้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องฟุ้งซ่านในหัว”
มาดู 4 วิธีหลีกเลี่ยงตัวเองให้ห่างจาก Toxic Busyness วงจรอุบาทว์ของความยุ่งที่เป็นพิษกัน
1. เลิกเป็นแม่พระ ปฏิเสธคนอื่นให้เป็น
People pleaser คือกลุ่มคนที่มักจะพยายามอย่างหนักทำให้คนอื่นพอใจ โดยการสละเวลาที่มีค่าของตนเอง เพื่อตอบรับทุกคำขอ และเติมเต็มความต้องการของคนอื่น
คุณไม่จำเป็นต้องช่วยทุกคนบนโลกก็ได้ เลิกทำตัวเป็นแม่พระ หรือ ‘people pleaser’ ได้แล้ว เห็นแก่ตัวกับเวลาของคุณบ้าง หันกลับมาใส่ใจความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว ฉกฉวยวันเวลาที่มีอยู่ ณ ตอนนี้เอาไว้ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องเอาคนอื่นมาแบกไว้บนหลังของคุณหรอก มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรขนาดนั้นด้วยซ้ำ ทุกอย่างมักต้อง ‘แลก’ มาด้วยบางสิ่งบางอย่างเสมอ ลองคิดดูสิ หากในตอนนี้คุณตอบตกลงคำขอของคนอื่นไปแล้ว แต่จู่ๆ 5 นาทีหลังจากนั้น คุณได้รับ offer โอกาสอันมีค่า จะไม่เสียดายหรอกเหรอ?
2. วางแผนตารางชีวิต และเผื่อเวลาสำหรับ ‘พื้นที่ส่วนตัว’ บ้าง
ตั้ง goal ระยะสั้นของแต่ละวัน ทำ to-do list ลำดับความสำคัญ และบล็อกเวลาการทำงานของคุณดูสิ แยกชีวิตส่วนตัวกับการทำงานออกจากกัน แน่นอนว่า การทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อทำงานอย่างหนักเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่อย่าลืมว่า ร่างกายคนเราก็เหมือนกับ ‘รถยนต์’ นั่นแหละ หากใช้งานอยู่ตลอดเวลา ไม่จอดพักเครื่องเลย ในท้ายที่สุดแล้ว เครื่องยนต์ก็อาจจะร้อนจนระเบิดออกมาก็ได้
ดังนั้น ลองแบ่งสล็อตเวลาสำหรับการพัก และพื้นที่ส่วนตัวเอาไว้ด้วย ไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบัน active อยู่ตลอดเวลาก็ได้ ขนาดนักมวยยังมีพักยกเลย ร่างกายของคุณก็ต้องการมันเช่นกัน ดับเครื่องลง แล้วพักสักแป๊บเถอะนะ
3. กำหนดขอบเขตของตัวเอง และเคารพมัน
เมื่อวางแผนตารางชีวิตจากข้อก่อนหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไป คุณควรที่จะ ‘take action’ กับมันด้วย กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน และสัญญาว่า “จะไม่ล้ำเส้น” หากในวันนี้คุณไม่เคารพขอบเขตของตัวเอง ก็อย่าไปคาดหวังให้คนอื่นมาเคารพด้วยเลย การนั่งเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องผิด คุณไม่จำเป็นต้องหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลาก็ได้ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้เวลากับตัวเองบ้างสิ
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หลายคนอาจจะคิดว่า การอดนอนทำให้เรามีเวลาเหลือเฟือสำหรับทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น และทำให้เราดูเป็นคนที่โปรดักทีฟในสายตาของคนอื่น แต่ที่จริงแล้ว มันกลับส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิดต่างหากล่ะ เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพย่ำแย่แล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดต่ำลงอีกด้วย ฉะนั้น ทางที่ดีควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าปล่อยให้ความยุ่งมาเบียดบังเวลานอนของคุณ
คำถามต่อมา “แล้วนอนเท่าไรถึงจะเพียงพอล่ะ” ซึ่งคำตอบมันก็มีได้หลายร้อยแบบเลยทีเดียว เพราะคำว่า ‘นอนพอ’ ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก บางคนมียีนพิเศษที่ชื่อว่า “เอดีอาร์บีวัน (ADRB1)” ทำให้สามารถทำงานได้ดี โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าด้วยการนอนหลับเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ในทางกลับกัน บางคนต้องการเวลาพักผ่อนถึง 9 ชั่วโมง เพื่อ ‘refresh’ ประสิทธิภาพตัวเองให้พร้อมกลับมาทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้นได้อีกครั้ง
หยุดเอาไม้บรรทัดของสังคมมาวัดตัวเอง ค่อยๆ บรรจงขีดเขียนชีวิตลงไปอย่างงดงามเถอะ เขียนทุกหน้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเอาแต่เร่งเร้าตัวเองให้เขียนเร็วๆ มีแต่จะเสียกับเสียนะ งานออกมาไม่ดี แถมคุณเองก็จะไม่แฮปปี้กับมันด้วย เสร็จแล้วก็พัก บอกเลิกกับความยุ่งซะ อยู่กับปัจจุบัน ให้เวลาตัวเองบ้างก็ได้ แรกๆ อาจจะยากหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า สักพักคุณจะเคยชินกับมันไปเอง
เรียบเรียงโดย Chompoonut Suwannochin
Sources:
https://www.thetemper.com/4-ways-kick-toxic-busyness-and.../
.
https://muslimgirl.com/how-to-tackle-the-toxic.../
.
https://www.scienceofpeople.com/people-pleaser/
.
https://www.facebook.com/infographic.thailand/posts/2808920339151253
.
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
Facebook :
https://bit.ly/38fXEYs
Youtube :
https://bit.ly/3gBYyzG
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
6 บันทึก
2
1
3
6
2
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย