29 ก.ย. 2021 เวลา 10:01 • ท่องเที่ยว
Turkey (02) .. พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce)
พระราชวัง Dolmabahce สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจิตที่ 1 (Sultan Abdülmecid I, ค.ศ. 1839 – ค.ศ. 1861) ในระหว่างปี ค.ศ. 1843-1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน และจักรวรรดิกำลังเสื่อมอำนาจ
พระราชวังโดลมาบาห์เช .. สร้างด้วยการผสมผสานศิลปะตะวันออกกับตะวันตก .. ตัวอาคารยาว 600 เมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลมาร์มาร่า ในช่องแคบฟอสฟอรัส บนฝั่งทวีปยุโรป … วิวทิวทัศน์ของที่นี่งดงามมาก
พระราชวังโดลมาบาห์เช .. สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาวเติร์ก ที่พยายามผลักดันตัวเองให้ทันสมัยทัดเทียมกับประเทศยุโรปอื่นๆในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยสร้างพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ สุดหรูหรา อลังการ
... ที่ทุ่มสร้างคิดเป็นเงินในปัจจุบันคงราวๆประมาณพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (เงินที่ใช้สร้างตอนนั้น 5 ล้านเหรียญทองลิร่า หรือเท่ากับทองคำ 35 ตัน)
พระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahçe Palace) ทำหน้าที่เป็นพระราชวังหลัก และศูนย์กลางการปกครอง ของจักรวรรดิออตโตมัน ให้กับสุลต่านถึง 6 รัชสมัย .. โดยมีการใช้งานทดแทนพระราชวังโทพคาปี (Topkapı Palace) ซึ่งล้าสมัย และไม่มีความสะดวกสบาย เมื่อเทียบกับพระราชวังในยุโรปในยุคนั้น
เมื่อเดินผ่านประตูชั้นนอกเข้าไป .. จะเจอกับหอนาฬิกาสไตล์บารอกตั้งอยู่อย่างโดดเด่น
เมื่อเดินลึกเข้าไป .. จะเจอกับประตูพระราชวังชั้นนอกขนาดใหญ่ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรงดงาม โดยมีทหารยืนรักษาการณ์หน้าทางเข้าอย่างขรึมขลัง สงบนิ่ง แต่กลับได้รับความสนใจไม่น้อยเลย
ผ่านจากประตูชั้นนอกไปจะมีประตูชั้นในกั้นอีก 1 ชั้น ..
ก่อนจะเจอกับอุทยานที่มีสระน้ำพุตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง
เดินเก็บภาพด้านนอกของพระราขวัง
ภายในประกอบไปด้วยอาคารขนาดใหญ่ 2 หลัง เชื่อมต่อกัน
.. อาคารด้านหน้าเป็นพระราชฐานชั้นนอก ส่วนของสำนักพระราชวัง และห้องสำหรับพระราชพิธีต่างๆ
… พระราชฐานชั้นใน เป็นเขตพระราชฐานชั้นใน (ฮาเร็ม) เป็นที่ประทับของสุลต่านและพระราชวงศ์
อาคารพระราชวังด้านหน้า … สถาปัตยกรรมของอาคารดูสวยงาม
การเข้าไปชมด้านในของพระราชวังนอกจากจะต้องซื้อตั๋วที่ค่อนข้างแะงแล้ว .. ยังต้องมีไกด์พาเข้าชมเท่านั้น ซึ่งจะมีไกด์ที่บรรยายด้วยภาษาต่างๆเป็นรอบๆไป .. จะเข้าไปเดินชมคนเดียวไม่ได้ จึงต้องไปตรวจสอบก่อนว่าเราจะตามไปชมเวลาไหนได้บ้าง
ตัวพระราชวังข้างในนั้น ประดับตกแต่งอย่างสุดวิจิตรอลังการ นับเป็นพระราชวังที่สวยเป็นอันดับต้นๆของยุโรปเลยทีเดียว
ภาพจาก Internet
พระราชวังมีเนื้อที่มากถึง 110,000 ตารางเมตร .. ถูกออกแบบ ด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม แบบผสมผสานกันของ สไตล์บาร็อค (Baroque), โรกโกโก (Rococo), นีโอคลาสสิก (Neoclassical) และออตโตมันแบบดั้งเดิม สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของวัฒนธรรม และศิลปะยุโรป ที่มีผลต่ออาณาจักรออตโตมันในช่วงเวลานั้น
ภายในพระราชวังโดลมาบาห์เชประกอบด้วยห้องจำนวนมากถึง 285 ห้อง ... แต่ละห้องประดับแต่งในในสไตล์ยุโรปแตกต่างกันออกไป ทั้งบารอก รอกโคโค และเรเนอซองส์
.. ทุกห้องล้วนมีการตกแต่งประดับประดาอย่างประณีตตระการตา ด้วยทองคำ คริสตัล เฟอร์นิเจอร์ พรม โคมไฟ เครื่องแก้วเจียรนัย และภาพวาด รวมถึงรูปถ่ายต่างๆที่มีชื่อเสียง และสิ่งของที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก
1
าพจาก Internet
ห้องที่เด่นที่สุดขอพระราชวังแห่งนี้ คือ ห้องท้องพระโรงที่ยังคงใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงและงานรับรองสำคัญของตุรกี ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสุดหรูหราอลังการวิจิตร ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปแทบทุกอณูห้อง ...
... โดยเฉพาะ โคมไฟระย้าขนาดมหึมาของขวัญที่สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรียแห่งอังกฤษได้พระราชทานแก่อาณาจักรออตโตมัน ซึ่งหนักถึง 4.5 ตัน มีหลอดไฟ 750 ดวง ถือเป็นหนึ่งในโคมไฟระย้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
ภาพจาก Internet
หินที่มีราคาแพงและมีชื่อเสียง ถูกนำมาใช้ในการตกแต่ง โดยเป็นหินที่ผลิตในออตโตมัน ได้แก่
หินอ่อนสีขาวจากเกาะมาร์มาร่า (Marmara Marble) และหินอัคนีสีเข้มจากเมืองเพอร์กามอน (Pergamon Porphyry) รวมไปถึงหินอ่อนซึ่งนำมาจากอียิปต์ ได้แก่ หินอ่อนโอนิกซ์ (Egyptian Alabaster หรือ Calcite หรือที่เรียกว่า Onyx Marble)
ภาพจาก Internet
นอกจากนี้พระราชวังนี้ มีพรมจำนวนมาก ซึ่งผลิตโดยโรงงานเฮเรเคอิมพีเรียล (Hereke Imperial) และยังมีพรมเช็ดเท้าอายุกว่า 150 ปี ซึ่งได้รับเป็นของขวัญจากพระจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 (Tsar Nicholas I) อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีภาพวาดของ จิตรกรที่มีชื่อเสียง ทั้งจิตรกรชาวตุรกีและชาวต่างชาติ รวมแล้วจำนวนกว่า 200 ภาพและถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่ พิพิธภัณฑ์จิตรกรรมพระราชวังแห่งชาติ (National Palace Painting Museum) ซึ่งอยู่ในบริเวณของพระราชวังแห่งนี้
ภาพจาก Internet
Dolmabahçe Palace ประกอบด้วยสามส่วนหลัก คือ
อาคารแห่งจักรวรรดิ (State Apartments (Imperial Mabeyn) .. เป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุด ประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสุลต่านใช้ในการทำงาน และบริหารกิจการของภาครัฐ
ห้องโถงพิธี (Ceremonial Hall, Muayede Salon) ... ห้องโถงที่สูงที่สุด และถูกประดับประดา อย่างงดงามที่สุดของพระราชวัง ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร เป็นส่วนที่ใช้สำหรับเป็นห้องโถงรับรอง ในการต้อนรับแขก และนักการทูตต่างประเทศ และเป็นสถานที่เพื่อพิธีการ ที่สำคัญบางอย่างของรัฐ
อิมพีเรียลฮาเร็ม (Imperial Harem) ... เป็นส่วนที่ถูกจัดไว้ สำหรับการใช้ชีวิตส่วนตัว ของสุลต่านและครอบครัว โดยมีโครงสร้างที่เรียบง่าย และถูกจัดวางภายในอาคารเดียวกัน ซึ่งไม่สลับซ้อนเหมือนฮาเร็ม ในพระราชวังโทพคาปี (Topkapı Palace)
ภาพจาก Internet
นอกจากท้องพระโรงพระราชวังโดลมาบาห์เช .. ยังมีห้องที่น่าชมมาก อย่างห้องโถงชั้นบน ห้องรับรองต่างๆ ห้องนอนพระมารดาของสุลต่าน ห้องสมุด ห้องสีชมพู รวมไปบันไดทางขึ้นหลักอันสวยงาม มีราวบันไดทุกอันเป็นคริสตัลใสแวววาว .. การจัดวางทุกอย่างอย่างกลมกลืน ทำให้เป็นที่ชื่นชมว่ารสนิยมของสุลต่านแห่งออตโตมันนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
ภายหลังที่สุลต่านอับดุลเมจิตสิ้นพระชนม์ สุลต่านองค์ต่อๆมาไม่ค่อยเสด็จมาประทัยที่นี่
ในช่วงเวลาต่อมา .. ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1924 พระราชวังถูกโอนกรรมสิทธิ์ ให้เป็นมรดกแห่งชาติ ของสาธารณรัฐตุรกีใหม่ โดยมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก (Mustafa Kemal Atatürk) ผู้ก่อตั้งและประธานาธิบดีคนแรก ของสาธารณรัฐตุรกี
ซึ่งพระราชวังถูกใช้เป็น ที่พำนักของประธานาธิบดี ในช่วงฤดูร้อน และเขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วย ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 ที่พระราชวังแห่งนี้
นาฬิกาทุกเรือนของที่นี่จะชี้ที่เวลา 09:06 อันเป็นเวลาที่ประธานาธิบดี มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ถึงแก่อสัญกรรมในวันที่
ต่อมาระหว่างปี ค.ศ. 1926 – ค.ศ. 1984 ในบางส่วนของพระราชวัง ถูกเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว ให้สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ และถูกเปิดให้บริการเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 เป็นต้นมา
ภาพด้านหลังของอาคารพระราชวัง ..
อุทยานภานในบริเวณพระราชวัง .. สวย ประณีต บ่งบอกถึงการได้รับการดูแลอย่างดี
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา