29 ก.ย. 2021 เวลา 16:15 • ถ่ายภาพ
รักนิรันดร์ พระบรมชนกาธิเบศร 💞 พระพันปีหลวง
วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ แม่เหน่งได้ไปหาซื้อรูปถ่ายใส่กรอบสวยๆ เพื่อให้เป็นที่ระลึกผู้เกษียณอายุราชการที่นับถือท่านหนึ่ง ที่ร้านขายกรอบรูปในตัวเมือง
เมื่อเข้าไปในร้านพบรูปพระ รูปวิว ใส่กรอบไว้หลากหลายแบบ พลันสายตาก็พบกับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
คิดว่าจะนำภาพนี้ให้ท่านผู้เกษียณฯ แต่ไม่ล่ะซื้อเก็บไว้เอง เพราะรู้สึกประทับใจมาก รอยยิ้มน้อยๆของทั้ง ๒ พระองค์ ทำให้แม่เหน่งปลาบปลื้มในหัวใจ
แม่เหน่งมอบรูปอื่นเป็นที่ระลึกแด่ผู้เกษียณฯ และนำรูปของทั้ง ๒ พระองค์กลับมาแขวนไว้เหนือเกล้าเหนือเศียร
นั่งมองยืนมองภาพถ่าย พร้อมรำลึกเรื่องราวความรัก ที่ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
ถ้ามีเครื่อง Time Machine หรือกระจกทวิภพ อยากย้อนเวลาไปอยู่ในช่วงนั้นกับพสกนิกรชาวไทย จังค่ะ
เมื่อทำไม่ได้ แล้วฝันก็คงไม่เป็นจริง แม่เหน่งก็ขอพาท่านผู้อ่านย้อนความทรงจำผ่านตัวอักษร อ่านและจารจำเรื่องราวความรักของกษัตริย์ไทยกับราชนิกุลสาวน้อยแสนสวย
🗼กาลครั้งหนึ่ง ณ ดินแดนอันไกลโพ้นคนละซีกโลกกับแผ่นดินสยาม ณ บริเวณชานเมืองในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ หม่อมเจ้า
นักขัตรมงคล เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศส พร้อมคณะบุคคลในสถานทูต นักเรียนไทย และขบวนรถอารักขา รอรับ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ แห่งสยามประเทศ (ขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ ๒๑ พรรษา)ที่ทรงเสด็จจากพระตำหนักวิลล่าวัฒนา เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาสถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศส ด้วยมีพระราชประสงค์จะซื้อรถยนต์พระที่นั่งคันใหม่แทนคันเก่าที่แสนเก่ามากๆแล้ว
👸หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ...คุณหญิง วัย ๑๕ ปี ธิดาองค์ใหญ่ของ มจ.นักขัตรมงคล ซึ่งได้รับอนุญาตให้มาร่วมรับเสด็จด้วย
🕔 คุณหญิงตั้งอกตั้งใจซักซ้อมถอนสายบัวด้วยความอดทน และใจจดใจจ่อที่จะมีโอกาสเข้าเฝ้าฯชื่นชมพระบารมีของพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ จนถึงเวลากำหนดการ ๔ โมงเย็น...แล้วเวลาก็ล่วงเลยจนถึง หนึ่งทุ่ม ก็ยังไร้วี่แววว่ารถยนตร์พระที่นั่งจะมาถึง
🌜คณะที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ ต่างกระวนกระวาย ด้วยความเป็นห่วง แต่แล้ว ในหลวง ท่านก็ได้เสด็จมาถึงจนได้ สาเหตุที่มาถึงล่าช้า เนื่องจากรถยนต์พระที่นั่งดังได้กล่าวข้างต้นว่าทรุดโทรมและเก่ามากแล้ว เกิดเครื่องเสียและน้ำมันหมดกลางทาง ต้องเสียเวลาแก้ไขอยู่เป็นนาน
🤴👸 เมื่อทรงทักทายคณะบุคคลที่มารอรับเสด็จแล้ว สายพระเนตรของในหลวง ก็สบเข้ากับดวงเนตรสีนิลคมสวยของราชนิกุลสาวแรกรุ่น ดวงเนตรสีนิลอยู่ในวงพักตร์อันผุดผาด และวงพักตร์อันผุดผาดนั้น ก็ถูกล้อมกรอบด้วยเส้นเกศาสีดำขลับ ที่ถูกถักทอเป็นเปียเดี่ยวยาวจนถึงกลางหลัง
🦋 ในขณะที่ในหลวงทรงบังเกิด " รักแรกพบ " กับราชนิกุลสาวน้อย แต่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ณ เวลานั้น กลับกลายเป็น " เกลียดแรกพบ "
🌹ภายหลัง พระบรมราชินีนาถ ใน ร.๙ ท่านทรงพระราชทานสัมภาษณ์ ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ ถึงเหตุการณ์แรกเจอกับในหลวง ร.๙ ไว้ว่า
🌻 " สำหรับข้าพเจ้าเป็นการ "เกลียดแรกพบ " มากกว่า " รักแรกพบ " เพราะพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่า จะเสด็จฯถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่จริงแล้วเสด็จฯมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมายตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้าต้องซ้อมถอนสายบัวอยู่ จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียดเมื่อแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ "
🏰 เหตุการณ์ " รักแรกพบ " ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว แต่เป็น " เกลียดแรกพบ " ของพระบรมราชินีนาถ นั้น ในหลวงท่าน ทรงนำมาล้อ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในภายหลัง
เสมอว่า
🤴 " เดินตุปัด ตุเป๋ หน้างอ คอยถอนสายบัว "
👸 " ที่หน้างอ เพราะให้แต่ผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะเสวย เด็กกลับไล่ไปกินที่อื่น" พระบรมราชินีนาถ ทรงตอบโต้
⏳ เป็นห้วงเวลาที่แสนหวาน และงดงาม หนึ่งในความทรงจำของความรักที่ทั้งสองพระองค์มีให้แก่กัน
🌼 ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งยังมิได้ราชาภิเษกสมรส กับ ม.ร.ว.หญิงสิริกิติ์ เสด็จมาเยี่ยมเยียนพระราชินี โดยขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง จากที่ประทับในสวิตเซอร์แลนด์ข้ามพรมแดนมายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระองค์จะนำ ดอกไม้สีเหลืองที่มีชื่อว่า " แดฟโฟดิล " หรือ " ดอกนาร์ซีซัส " ซึ่งเป็นดอกไม้ชนิดแรกที่ผลิบานออกรับแสงแรกของฤดูใบไม้ผลิ มาประทานให้ราชนิกุลสาวน้อยเสมอ และดอกแดฟโฟดิล มีชื่อในภาษาไทยว่า "ดอกดารารัตน์ "...แทนความหมายของความรักแท้ที่มอบให้แด่ผู้เป็นที่รัก...💐
ดอกดารารัตน์ หรือ ดอกแดฟโฟดิล ความรักแท้ที่มอบให้แด่ผู้เป็นที่รัก
ดวงดาวสุกสกาว มิเทียมเท่าประกายสีนิลในดวงตาเทวี
ดวงดาวสุกสกาวในราวฟ้า
เทียบดวงตาของเทวีนี้มิได้
ดารารัตน์เป็นดอกไม้แห่งหัวใจ
จารึกไว้รักนิรันดร์ราชันย์ไทย
ถ้าข้าพระพุทธเจ้าใช้ราชาศัพท์อันมิบังควร ขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
Reference : https://www.thairath.co.th>ข่าว>พระราชสำนัก
โฆษณา