30 ก.ย. 2021 เวลา 05:23 • ความคิดเห็น
ทุกข์นั้นมี ๒ แบบ...ครับ...ตามหลักของคำสอนพระพุทธเจ้า...
ทุกข์ แบบคนทั่วไป(ที่มีการเรียนรู้ คำสอนน้อย และไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอน) ส่วนใหญ่จะรู้และเข้าใจตามที่ได้รู้ได้ยินมา คือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ทนได้อยาก ไม่สามารถอยู่ในอริยาบถใดบถหนึ่งได้นาน ต้องเปลี่ยนอริบายถไปเพื่อแก้ทุกข์
ทุกข์ แบบที่พระพุทธเจ้าและพระอริย เข้าถึง ด้วยปัญญา และการปฏิบัติ นั้นคือ ทุกข์ ที่เกิดจากขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือเรียกย่อว่า นามกับรูป การมีขันธ์ ๕ นามและรูป นั้นเป็นทุกข์ จะหมดทุกข์ได้ต้องไม่มี ขันธ์ ๕ หรือรูปนาม นั้นคือหมดทุกข์จริง ตามคำสอนของพระพุทธองค์
ปัจจุบันคนเราส่วนใหญ่ไม่รู้ความเป็นจริงของสิ่งที่มีอยู่ว่า เป็นอย่างไร มี รูป มี นาม มีขันธ์ ๕ แต่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจ (ทางโลกเรียกว่า ไม่รู้จักตัวเอง แต่เรียนรู้ที่ศึกษาคนอื่น สิ่งต่าง ฯลฯ มากมาย
รวมทั้ง ยังมีความอยาก เป็นต้นเหตุ ให้เกิดทุกข์ ผสมกับอวิชชา (คือจิตหรือใจที่ไม่มีปัญญา) ทำให้หลงอยู่กับทุกข์ เช่น คิดว่ามี อย่างนั้นอย่างนี้แล้วก็คงจะมีความสุข แต่ไม่ใช่มันก็แค่คลายทุกข์เท่านั้นเอง
เราทั้งหลายตั้งแต่เด็กเล็กจนแก่ถึงตาย มีแต่คำสอน คำชี้แนะในเรื่องของการสร้างทุกข์ทั้งนั้น หรือก็ไม่แก้ทุกข์ไปวันๆ ไม่มีควาสุขที่แท้จริงครับ มีแต่ความทุกข์ น้อย มาก มากที่สุด...แบบย่อๆ...ถ้าจะอธิบายให้ลึกซึ้งต้องใช้เวลาอีกมากครับ...สาธุๆๆ...
โฆษณา