" คาร์ลอส เวล่า ให้ความสุขนำทาง "
อาร์เซน่อล กลับมามีแสงแห่งความหวังบ้างหลังฟอร์มค่อยๆ ดีขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังเอาชนะอริร่วมลอนดอนเหนืออย่าง สเปอร์ส
ที่น่ารักก็คือการได้เห็นดาวรุ่ง เด็กปั้นโชว์ฟอร์มแจ่ม ชื่อของ เอมิล สมิธ โรว์ ที่ต่อสัญญาใหม่และได้เสื้อเบอร์ 10 ไปจนถึง บูกาโย่ ซาก้า ทำให้แฟนๆ นึกย้อนไปถึงสมัย อาร์แซน เวนเกอร์
ยุครุ่งเรืองของ เวนเกอร์ อาร์เซน่อลมักมีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีขึ้นมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเด็กท้องถิ่นที่ปั้นมาเอง หรือฉกตัวจากที่อื่นมาตั้งแต่อายุน้อยแล้วมาขัดเกลาต่อจนเก่ง
หนึ่งในนั้นมีชื่อของ คาร์ลอส เวล่า อยู่ด้วย ปัจจุบัน กองหน้าชาวเม็กซิกันค้าแข้งอยู่ใน ลอส แองเจลิส เอฟซี ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์
แฟนบอลอาร์เซน่อล ยังคงไม่ลืมเกมแรกที่เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้ทีมเป็นนัดแรก
มันเป็นเกมที่อาร์เซน่อลทำสถิติ 11 ตัวจริงอายุเฉลี่ยน้อยสุดในประวัติศาสตร์สโมสร เพียง 19 ปีเศษเท่านั้น
มีนักเตะอย่าง แอรอน แรมซี่ย์, แจ็ค วิลเชียร์, นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงเล่นร่วมอยู่ด้วย
มันเป็นเกม ลีก คัพ รอบ 3 ที่เจอกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อลชุดฟันน้ำนมชุดนี้ถล่มทีมดาบคู่ไปถึง 6-0 ที่สำคัญ คาร์ลอส เวล่า ทำแฮททริกได้ทันที
ประตูแรกได้บอลแทงขึ้นหน้าแตะเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วสปีดตามไปแปเสียบโคนเสาไกลด้วยซ้ายข้างถนัด
ประตูสอง พักอกบอลหนีตัวประกบแล้วหลุดไปชิพนิ่มๆ ข้ามหัวผู้รักษาประตู
ลูกสุดท้ายได้บอลหน้าเขตโทษ ลากเข้าไปกดเรียดด้วยซ้ายไม่เหลือ
ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ในอนาคตอันใกล้นี้ อาร์แซน เวนเกอร์ บอกว่า "เขามีพรสวรรค์ตามธรรมชาติ, เร็ว, ฉลาด และมีเทคนิคดีมากๆ"
"ตอนนี้คุณต้องการให้เขาเพิ่มเติมด้านความดุดัน และความมุ่งมั่น ที่สามารถทำให้เขาแตกต่าง เขาจะกลายเป็นกองหน้าระดับโลกได้อย่างรวดเร็วเลย เมื่อเขาเพิ่มเติมตรงจุดนี้ได้"
ไม่เพียงแค่เราคาดหวังจากเกมที่เจอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่คนที่เล่นเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ ต่างตั้งตารอเด็กคนนี้อยู่แล้วเพราะในเกม FM คาร์ลอส เวล่า คือกองหน้าระดับวันเดอร์คิด
ปัจจุบัน เวล่า อายุ 32 ปี เขายังน่าจะเล่นในยุโรปได้อยู่ แต่ความจริงเขาย้ายมาเล่นในอเมริกา ตั้งแต่ปี 2018 และเมื่้อมองย้อนกลับไป ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าเขามีเส้นทางอาชีพที่ล้มเหลว
เพียงแต่มันน่าเสียดายเพราะ คาร์ลอส เวล่า ควรเปรี้ยงปร้างมากกว่านี้ ควรอยู่บนเวทีใหญ่ อยู่กับสโมสรใหญ่ๆ มากกว่าที่ผ่านๆ มา มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในเรื่องพรสวรรค์ของเขา อาร์แซน เวนเกอร์ ไปเจอฟอร์มของ เวล่า เข้าตอนปี 2005 ในศึกชิงแชมป์โลกรุ่น ยู17 ซึ่ง เม็กซิโก คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ
ตัวดังอีกคนในทีมชุดนั้นคือ โจวานี่ โดส ซานโต๊ส ซึ่งทั้งคู่อายุ 16 ปี ขณะที่เล่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว และ เวล่า จบด้วยการเป็นดาวยิงของรายการทำไป 5 ประตู
เวล่า ในตอนนั้นเล่นอยู่ในทีมเยาวชนของชีวาส กัวดาลาฮาร่า เมื่อย้ายมาอาร์เซน่อล ยังไม่สามารถร่วมทีมได้ทันทีเพราะติดเรื่องเวิร์ค เพอร์มิต
อาร์เซน่อล ปล่อยตัวไปสเปน ให้ เซลต้า บีโก้, ซาลามังก้า, โอซาซูน่า ยืมตัวก่อน จนกระทั่งใบอนุญาตการทำงานได้รับการอนุมัติในปี 2008
ผลงานของเขาใน สเปน ในฐานะดาวรุ่งวัยแค่ 17-18 ปี ดีจนกระทั่งโค้ชของ ซาลามังก้า ยกย่องอย่างมาก บอกว่านี่คือเด็กที่มีฝีเท้าดีสุดๆ มีคุณสมบัติครบบวกความมั่นใจ ที่จะก้าวไปสู่ระดับสุดยอด
เวนเกอร์ เองก็เห็นไม่ต่างกัน จึงได้ให้โอกาสเด็กคนนี้ทันที กระทั่งเปิดตัว ในฐานะตัวจริงด้วยแฮททริกนัดดังกล่าว
เวล่า นั้นโดนเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ไปก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2007 และสัญญานเตือนอย่างหนึ่งเริ่มมีให้เห็นตั้งแต่เขาอายุน้อยๆ
อย่างที่ เวนเกอร์ บอกเอาไว้ หาก เวล่า เพิ่มเรื่องความดุดันเอาจริงเอาจังและมุ่งมั่นได้เมื่อไหร่ เขาจะกลายเป็นยอดกองหน้า
ซึ่งในสายตาของ เวนเกอร์ เด็กคนนี้ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ พรสวรรค์อย่างเดียวไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้ ในช่วง 2-3 ปีที่กลับมาเล่นให้อาร์เซน่อล โอกาสลงสนามของเขาน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และโดนปล่อยให้ เวสต์บรอม ยืมตัวในครึ่งหลังของฤดุกาล 2010/11
ตอนปี 2010 หลังเกมทีมชาติเม็กซิโกเจอกับโคลอมเบีย เวล่า จัดปาร์ตี้ฉลอง จนโดนสมาคมจับได้และสั่งแบนเขาจากทีมชาติถึงครึ่งปี นี่คือรอยร้าวแรกของเขากับเม็กซิโก
ดีเอโก้ มันเซร่า นักข่าวของ เอล ปาอีส สื่อชื่อดังประจำเม็กซิโก เกาะติดทีมชาติมาตลอด เขาเปิดเผยว่าฟุตบอลสำหรับ เวล่า ไม่ใช่เรื่องที่เขาโปรดปราน การเล่นขึ้นอยู่กับ "ฟีล" ล้วนๆ
"คาร์ลอส เวล่า ไม่ได้รักฟุตบอล เขาไม่ได้รักงานของเขาหรอก เขายอมรับว่าเขาชอบดูกีฬาอื่นมากกว่า เช่นบาสเก็ตบอล เขาเคยพูดเองว่าเขาไม่มีความสุขในตอนนั้น"
มันเซร่า กล่าวถึงช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2008-2010 ที่อยู่กับอาร์เซน่อล ซึ่งเขาค่อนข้างโดดเดี่ยว เขาเข้ากับคนอื่นๆ ไม่ค่อยได้
ฤดูกาล 2011/2012 ด้วยวัย 22 ปี เขาโดนปล่อยให้ เรอัล โซเซียดาด ยืมตัว พออยู่ในสเปน เหมือนชีวิตชีวาของเขากลับมา
เขาประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ และนักเตะคนอื่นๆ ได้เข้าขาลงตัว เวล่า ทำไป 12 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมาจะโดน อาร์เซน่อล ขายขาดมาโซเซียดาดเลย
ปีนี้ เวล่า กดอีก 14 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ พาเรอัล โซเซียดาด จบอันดับ 4 ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงตอนนั้น เขามีผลงานจับต้องได้ดีกว่า กรีซมันน์ ด้วยซ้ำ
เขาเริ่มโดนทีมใหญ่ตามมาจีบอีกครั้ง แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับ ลา เรอัล ต่อและสโมสรเองก็ไม่คิดจะขายเขาออกไป
อย่างที่บอกว่าสำหรับ เวล่า ความสุขและความสบายใจคือทุกอย่าง เขาแฮปปี้ที่นี่ เขาปรับตัวได้ เล่นฟุตบอลสนุกที่นี่
ฤดูกาล 2013/14 เวล่า พีคสุดขีด กดไป 16 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ มีเพียงไม่กี่คนใน ลา ลีกา ที่มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงรวมมากกว่าเขา คือ เมสซี่, โรนัลโด้, ดีเอโก้ คอสต้า และ อเล็กซิส ซานเชซ เท่านั้น
พอเข้าซีซั่น 2014/15 ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้ามาเล่นงานเขาอีกครั้ง สโมสรขาย กรีซมันน์ ไปให้ แอตเลติโก้ มาดริด นอกจากจะขาดคู่หูที่ช่วยกันในสนามแล้ว ยังส่งผลต่อความรู้สึกของเขา
ผลงานของ เวล่า จากนั้นเริ่มตกลงฮวบฮาบ เขาไม่เคยประตูได้แตะหลักเลข 2 ตัวอีกเลยถึง 3 ปีเต็ม และในที่สุดก็ตัดสินใจย้ายไปอเมริกา ตอนต้นปี 2018
"เขาพีคสุดตอนอยู่ทีมเดียวกับ กรีซมันน์ แต่เขาไม่ได้ขึ้นสู่ระดับนั้นอีกเลยในช่วง 2-3 ปีสุดท้าย (กับโซเซียดาด) ความสม่ำเสมอไม่เคยเป็นจุดแข็งของเขา เขาเป็นนักเตะที่ ถ้าหากว่าเขาต้องการละก็ สามารถเป็นแข้งท็อป 10 ของโลกได้เลย แต่สำหรับเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแค่การมีความสุขในแบบของตัวเอง เขามีความสุขกับชีวิตที่เรอัล โซเซียดาด" โยอัน เกวซบา นักข่าวของ MARCA ที่เกาะติดเรื่องของ เรอัล โซเซียดาด โดยเฉพาะให้สัมภาษณ์เอาไว้
"ในวันที่เขาอารมณ์ดี เวล่า สามารถทำลายแนวรับคู่แข่งได้ เขาเป็นผู้นำในแนวรุกและยิงประตูเหลือเชื่อได้มากมาย มันขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นฟีลเขาได้หรือเปล่า เขาขาดความทะเยอทะยานในการจะครองโลกด้วยฝีเท้าของเขา" ดีเอโก้ มันเซร่า กล่าวต่อ
โยอัน เกวซบา ยืนยันอีกครั้งว่า สำหรับเวล่า มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ ความมุ่งมั่น และความกระหายของเขาในตอนนั้นล้วนๆ
"เมื่อได้รู้จักเวล่า จะไม่แปลกใจเลยที่เขาตัดสินใจย้ายไปสหรัฐอเมริกา มันใกล้กับครอบครัวของเขาที่เม็กซิโกมากกว่า ในเมืองลอส แองเจลีส เองก็ดึงดูดสำหรับเขา และมันเป็นโปรเจ็คท์ใหม่ในตอนนั้นที่ทีมจะมีเขาเป็นสตาร์ประจำทีม ผมอยากเห็นเขาในฐานะนักฟุตบอลที่เอาจริงเอาจังมากกว่านี้ แต่ผมเข้าใจได้ ใครจะตัดสินถูกผิดล่ะ หากใครสักคนจะตัดสินใจเพื่อความสุขของพวกเขาเอง?"
เมื่อ เวล่า มีความสุข ผลงานก็ออกมาดี แม้ลีกสหรัฐจะมาตรฐานไม่สูงเหมือนในยุโรป แต่ก็ไม่ง่ายหากใครสักคนจะทำ 34 ประตูจาก 31 นัด แต่ เวล่า ทำได้
หนึ่งในเกมสุดมันที่ผู้คนจำได้ดีคือ ดาร์บี้แม็ทช์แห่ง แอลเอ ระหว่าง ลอส แองเจลิส เอฟซี กับ แอลเอ แกแล็กซี่ ที่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นำทัพ
"อิบรา" ย้ายไปอยู่อเมริกา พร้อมๆ กับ เวล่า และอยู่คนละทีมในเมืองแอลเอ เกมนั้น แกแล็กซี่ ชนะ 3-2 อิบรา ทำแฮททริกให้ แกแล็กซี่ ขณะที่ เวล่า ก็ทำทั้ง 2 ประตูให้กับ แอลเอ เอฟซี
ปี 2020 ได้รับบาดเจ็บจนแทบไม่ได้ลงสนาม มาปีนี้เขาค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายกลับมาอีกครั้ง ผลงานของ เวล่า กับทีมคือ 67 ประตู 29 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 97 นัด ไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อเดือนที่แล้ว เวล่า พูดเป็นนัยๆ ว่า ในปี 2022 เขาอาจตัดสินใจกลับไปเล่นในยุโรปอีกครั้ง นั่นเป็นเรื่องของอนาคตที่เราต้องคอยติดตามกัน
หากการย้าย มันคือการตัดสินใจที่เขามีความสุข ก็รับประกันได้ว่าผลงานของเขาจะออกมาดีแน่นอน
เวล่า ไม่สามารถใช้พรสวรรค์ของเขาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแต่อย่างน้อย เส้นทางอาชีพของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
ที่สำคัญแฟนบอลอาร์เซน่อล จะยังไม่ลืมเกมที่เขาลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกให้ทีม กับ 3 ประตูใส่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ขณะที่อายุเพียง 19 ปี
มันคือวาบในความคิดว่าเรากำลังจะได้เห็นและเป็นพยานกับเส้นทางอาชีพของว่าที่กองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกตั้งแต่เริ่มต้น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะไม่เป็นแบบนั้นก็ตาม
รับชมคลิปเพิ่มอรรถรส : http://ow.ly/bxEq30rVAQi
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballthถ
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
