1 ต.ค. 2021 เวลา 12:32 • ปรัชญา
เถาบุญ
สมัยก่อนตอนเป็นเด็กน้อย ชอบตามย่าไปทำบุญที่วัด
ภาพที่เห็นคือ ข้างในตะกร้าที่ย่าถือ มักมีปิ่นโตที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ อยู่ประมาณ 4ชั้น
แต่ละชั้นถูกเรียกว่า 1เถา
ในแต่ละเถาก็ใส่อาหารแต่ละชนิด มีทั้งข้าว กับข้าว ขนมหวาน หรือ จะเป็นผลไม้แทนก็ได้
จำได้ดีเลย เวลาพระท่านจะฉัน เราก็ต้องมานั่งลุ้นว่า พระท่านจะหยิบของที่ย่าทำมา ไปฉันหรือป่าว
เหมือนจะมีญาณหยั่งรู้ พระท่านก็จะหยิบอาหารจากเถานู้นิดนึง เถานั้นหน่อยนึง เพื่อไม่ให้เสียศัทธาญาติโยม
พอขึ้นเทศน์ท่านจะบอกญาติโยมอยู่เสมอว่า “พระท่านจะฉันหรือไม่ฉัน สิ่งที่โยมทั้งหลายตั้งใจมาถวายด้วยดี ย่อมเกิดบุญทั้งสิ้น”
1
“บุญทั้งหลายสำเร็จด้วยเจตนา เอาเจตนารมณ์เป็นสำคัญ”
1
“แต่ถ้าเราสงสัยในขณะที่กำลังทำทาน พลังของบุญก็จะมีกำลังลดหลั่นกันไป”
“ดูง่ายๆ เหมือนที่พวกญาติโยมนำอาหารมาถวาย”
“ขณะนำมา ขณะกำลังถวาย บุญของญาติโยมก็เกิดเพราะอารมณ์ของจิตที่กำลังเบิกบาน”
“แต่พอพระกำลังจะตักฉัน โยมๆทั้งหลายก็ตั้งใจดูตั้งใจมอง”
“พอพระท่านตักเถาของตัวเอง ใจโยมก็เบิกบาน “
“พอไม่ตักเถาของคนนู้ คนนั้นก็ใจห่อเหี่ยว”
“กลายเป็นบุญจะเกิด เพราะพระท่านตักเถาของฉัน”
“ถ้าท่านไม่ตักบุญไม่เกิด”
“กลายเป็นเถาบุญไป ถ้าท่านตักเถาเราเยอะๆ ก็ยิ่งจะได้บุญเยอะ”
“ต่อไปนี้ ขอให้ญาติโยมทั้งหลายตั้งใจนึก ตั้งใจภาวนา”
“พระท่านตักเถาของเรา เราก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว”
“พระท่านตักเถาคนอื่น ก็ให้เรายินดีในบุญร่วมกับเจ้าของเขาไป”
“แต่อย่าลืมตั้งใจอุทิศ ให้ญาติที่ล่วงลับไปด้วยล่ะ”
“เพราะไม่ว่าจะเถาของเรา หรือ เถาของใคร ก็นับได้ว่าเป็นเถาบุญเดียวกัน”
1
ผมคิดไปคิดมาก็ไม่แปลก เพราะคนสมัยก่อนเวลาไปวัดกลับมา ก็ชอบบอกคนอื่นว่าตัวเองได้ไปทำบุญมานะ
เพื่อที่จะให้คนอื่นๆนั้น อนุโมทนา ยินดีไปกับเรา
ถึงเถาของแต่ละคน จะต่างคน ต่างที่มา แต่ถ้าเรามีใจที่คิดถึงแต่สิ่งที่ดีๆ
1
ก็สามารถนับได้ว่าพวกเราเป็น “เถาบุญ” ในปิ่นโตเดียวกัน…🙏
ถ้าใจเราดี… อะไรๆก็ดีไปหมด😆
โฆษณา