30 ก.ย. 2021 เวลา 15:03 • ธุรกิจ
Buy Now Pay Later นวัตกรรมการเงินใหม่ที่อาจมาแย่งแชร์บัตรเครดิต
4
Image Credit : Square
เมื่อธุรกิจ e-Commerce กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทาง e-Commerce เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่าในการผ่อนชำระสินค้า บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ Trendmizi จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 ประเด็นสำคัญของ การจ่ายเงินแบบใหม่ Buy Now Pay Later ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง
1
📌 1. Buy Now Pay Later (BNPL) คืออะไร?
บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) คือ การผ่อนชำระผ่านแอปพลิเคชัน เป็นทางเลือกในการจ่ายเงินแบบใหม่ โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ไม่มีอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ มีตัวเลือกให้ผ่อนชำระหลากหลาย เช่น การผ่อนชำระแบบรายสัปดาห์ การผ่อนชำระแบบรายเดือน (แต่หากผู้ซื้อไม่สามารถชำระเงินได้ตามที่กำหนด ก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นข้อแลกเปลี่ยนแทน) นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันร่วมกับแบรนด์ต่างๆ บนเว็บไซต์ เพ่ื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการซื้อของ แต่ไม่อยากจ่ายเงินก้อนใหญ่
6
📌 2. ธุรกิจ e-Commerce ที่ให้บริการการผ่อนชำระแบบ Buy Now Pay Later
ปัจจุบันการชำระแบบ Buy Now Pay Later กำลังได้รับความนิยมจากบริษัท e-Commerce อย่างมาก
Klarna เป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และให้บริการทางการเงินแก่ผู้บริโภคกว่า 80 ล้านคนใน ผู้ค้า 190,000 ใน 17 ประเทศ ด้วยแอป Klarna คุณสามารถชำระเงินภายหลังได้ โดยไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม ช่วยให้คุณซื้อขายอย่างคล่องตัวมากขึ้น
2
Afterpay ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในออสเตรเลียในปี 2015 มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การชำระเงินเป็นเรื่องสนุกและง่ายเหมือนกับการซื้อสินค้า โดยผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าและชำระเงินคืน 25% เป็นจำนวน 4 งวดของยอดซื้อทั้งหมด โดยจะจ่ายทุกๆ สองสัปดาห์จนกว่าจะครบตามกำหนด แต่ผู้ใช้งานต้องซื้อสินค้ากับผู้ขายที่เข้าร่วมเท่านั้น ซึ่งมีมากกว่า 12,000 ราย
2
Zip Pay บริการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่สามารถเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระได้ ทั้งรายสัปดาห์ ทุกๆ 2 สัปดาห์ และรายเดือน ที่ยังเปิดให้บริการแบบ Buy Now Pay Later อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Sezzle, Quadpay, Affirm และผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ๆ ต่างเริ่มเข้ามาในวงการนี้กันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Amazon ที่ร่วมมือกับ Affirm, Paypal ที่เปิดตัว BNPL ภายใต้ชื่อ Pay in 4 หรือ Square บริษัทด้านการเงินชั้นนำของอเมริกาที่ซื้อกิจการ AfterPay เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
📌 3. Buy Now Pay Later สร้างมูลค่าได้มากกว่าการจ่ายเงินแบบใหม่
1
จากการรายงานของ Ibisworld คาดการณ์ว่า ลูกค้าที่ใช้บริการ BNPL มักซื้อสินค้าซ้ำเฉลี่ยมากกว่า 20 ครั้งต่อปี ลูกค้าจะยอมจ่ายเงินมากกว่าปกติ และดึงดูดลูกค้าที่ไม่เคยมาที่ร้านของคุณ ทำให้ฐานลูกค้าของคุณใหญ่ขึ้น รวมไปถึงผู้ค้าปลีกจะได้รับเงินเต็มจำนวนล่วงหน้า โดยผู้ให้บริการจะเป็นคนแบกรับความเสี่ยงด้านเครดิต คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการไม่รับเงินจากลูกค้าตามระยะเวลาที่กำหนด
1
📌 4. Buy Now Pay Later ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ GEN Z และ Millennial
ตั้งแต่ปี 2009 AfterPay และ ZipPay เป็นที่นิยมมากในหมู่คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ด้วยข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ จากรายงานของ CNBC ได้ไปสัมภาษณ์ Millennial และ Gen-Z จำนวน 7 คน ที่ใช้บริการ BNPL ส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาชอบในความสะดวกสบาย ซึ่งมีจำนวน 6 คน ได้รับการบอกต่อจากเพื่อนร่วมงาน หรือ โซเชียลมีเดีย และเริ่มใช้แพลตฟอร์มเมื่อปีที่แล้ว
1
📌 5. Buy Now Pay Later เติบโตเข้าใกล้ 100,000 ล้าน$ หรือ 2.1% ของธุรกรรมทั่วโลก
รายงานล่าสุดจาก WorldPay ระบุว่า BNPL มีมูลค่าสูงถึง 97,000 ล้าน$ หรือคิดเป็น 2.1% ของทั้งหมดของธุรกรรมทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีรายงานจากธนาคารกลางออสเตรเลียพบว่า ชาวออสเตรเลียเลิกใช้บัตรเครดิตมากขึ้น เพราะจำนวนบัตรเครดิตที่ใช้แล้วลดลง 6.6% ในปีที่แล้ว และในเดือนพฤษภาคม ชาวออสเตรเลียทิ้งบัตรเครดิตมากกว่า 100,000 ใบ ข้อมูลจาก Allied Market Research คาดการณ์ว่าตลาด BNPL จะขึ้นไปแตะ $3.98 ล้านล้าน ภายในปี 2030 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) 45.7% จากปี 2021 - 2030
2
และนี้ก็คือ 5 ประเด็นท์สำคัญเกี่ยวกับเทรนด์การจ่ายเงินแบบใหม่ Buy Now Pay Later ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง โดยไม่ต้องผ่านบัตรเครดิต ไม่มีอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ ตอบโจทย์การใช้จ่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและง่ายต่อการใช้งาน เพียงคุณมีแอฟพลิเคชั่นก็ได้สนุกและอิสระในการช้อปปิ้งได้แล้ว
1
Trendmizi คลังเทรนด์ออนไลน์เพื่อการพัฒนาแบรนด์และธุรกิจ โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab
#Trendmizi
#คลังเทรนด์ออนไลน์
#trend
Image Credit: Square
โฆษณา