- Squid Game ฮิตถล่มในเกาหลีจน “เครือข่ายอินเทอร์เน็ต” ฟ้อง Netflix ให้จ่ายค่าใช้ระบบเพิ่ม -
SK Broadband บริษัทเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในเกาหลีใต้ฟ้องร้อง Netflix ให้จ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หลังทราฟฟิกในระบบและการบำรุงรักษาสูงขึ้นอย่างมากเพราะคนดูแห่เข้าชมคอนเทนต์ของ Netflix โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ Squid Game เข้าฉาย
โฆษกบริษัท SK Broadband แถลงเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2021 ย้ำว่าบริษัทมีการฟ้องร้อง Netflix เพื่อให้ชำระค่าใช้งานระบบและบำรุงรักษาเพิ่มเติม
โดยคำแถลงนี้ออกมาหลังจากศาลกลางแห่งกรุงโซลมีคำตัดสินแล้วว่า Netflix ควรให้ผลตอบแทนคืนแก่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต “อย่างสมเหตุสมผล” ตามด้วยกลุ่มสมาชิกสภาฝ่ายนิติบัญญัติอีกหลายคนของเกาหลีใต้ต่างกล่าวคัดค้านบริษัทบริการคอนเทนต์ทั้งหลายที่ยังไม่ยอมชำระค่าใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่ม ทั้งที่เป็นต้นทางทำให้เกิดทราฟฟิกมหาศาล
Netflix ระบุว่า บริษัทจะทบทวนคำกล่าวอ้างของ SK Broadband อีกครั้งหนึ่ง และจะหาทางเจรจา รวมถึงหาหนทางทำงานร่วมกันในระหว่างนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบ
Squid Game พล็อตเรื่องเกี่ยวกับเกมเอาชีวิตรอด ผู้ชนะจะได้เงินรางวัลมหาศาล
ซีรีส์เรื่องล่าสุดของ Netflix คือเรื่อง “Squid Game” เพิ่งเข้าฉายในเกาหลีใต้และเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์ทั่วประเทศ เมื่อรวมกับคอนเทนต์อื่นๆ ที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ทำให้ Netflix ขึ้นแท่นเป็นผู้สร้างทราฟฟิกทางอินเทอร์เน็ตอันดับ 2 ของเกาหลีใต้รองจาก YouTube ในเครือ Google
และมีเฉพาะสองบริษัทใหญ่นี้เท่านั้นที่ยังไม่ชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการใช้ทราฟฟิกสูงกว่าปกติ ขณะที่ผู้ให้บริการคอนเทนต์อื่นๆ เช่น Amazon, Apple, Facebook ต่างชำระค่าธรรมเนียมให้ SK ไปแล้ว
ความฮิตของ Netflix ในเกาหลีเพิ่มขึ้นสูงมาก (ข้อมูลเฉพาะในเครือข่ายของ SK) วัดจากเดือนพฤษภาคม 2018 มีดาต้าผ่านระบบสูงขึ้น 24 เท่าเป็น 1.2 ล้านล้านบิทต่อวินาทีในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากความสำเร็จของโปรดักชันถ่ายทำในเกาหลีใต้หลายเรื่อง
YouTube เป็นผู้สร้างทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตอันดับ 1 ของเกาหลีใต้
ที่จริงแล้ว Squid Game ไม่ใช่ชนวนเหตุแรกที่ทำให้เกิดการฟ้องร้องเพราะ SK Broadband ระบุว่าบริษัทเริ่มฟ้องร้อง Netflix มาตั้งแต่ปี 2018 เมื่อบริษัทคอนเทนต์รายใหญ่จากสหรัฐฯ เริ่มส่งข้อมูลวิดีโอคอนเทนต์ระดับ HD ที่เป็นไฟล์หนักมาให้ชาวเกาหลีใต้จากเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นกับฮ่องกง
เมื่อปีก่อน Netflix จึงทำคดีฟ้องร้องของฝั่งตัวเองบ้าง เพื่อขอความกระจ่างว่าบริษัทมีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้ระบบเพิ่มให้กับ SK จริงหรือไม่
โดยข้อโต้แย้งของ Netflix ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลคือมองว่า หน้าที่ของบริษัทจบลงที่การสร้างคอนเทนต์และเปิดช่องทางให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้ ส่วนหน้าที่และค่าใช้จ่ายของ SK เกิดขึ้นเมื่อต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตที่ได้สัญญากันไว้ และการขนส่งดาต้าในอินเทอร์เน็ตควรจะ “ฟรีโดยพื้นฐาน”
แต่ศาลกลางแห่งกรุงโซลตัดสินเป็นโทษกับ Netflix ดังที่กล่าวข้างต้นไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 โดยมองว่า SK ให้บริการอินเทอร์เน็ตบนต้นทุนระดับหนึ่ง และเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ Netflix จะต้องจ่ายอะไรตอบแทนบ้างเพื่อใช้บริการนี้
Netflix เพิ่งลงทุนโปรดักชันสตูดิโอใหม่เพิ่มอีก 2 แห่งในเกาหลีใต้เมื่อเดือนมกราคม 2021
SK ประเมินค่าธรรมเนียมที่ต้องการให้ Netflix จ่ายอยู่ที่ประมาณ 27,200 ล้านวอน (ราว 771 ล้านบาท) คิดเฉพาะค่าธรรมเนียมของปี 2020 เท่านั้น อ้างอิงข้อมูลจากเอกสารในชั้นศาล
แน่นอนว่า Netflix ยื่นอุทธรณ์กลับ โดยการดำเนินการจะเริ่มขั้นตอนกันใหม่ช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้
ก่อนหน้าที่ SK จะแถลง ทาง Netflix มีการออกแถลงไปก่อนเมื่อวันพุธที่ 29 กันยายนที่ผ่านมาว่า บริษัทเป็นผู้สร้างงานสร้างอาชีพในเกาหลีใต้ไปแล้วกว่า 16,000 ตำแหน่ง จากการลงทุนสร้างภาพยนตร์และซีรีส์คิดเป็นเงินกว่า 7.7 แสนล้านวอน (ราว 21,800 ล้านบาท) และทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไปอีกคิดเป็นมูลค่าถึง 5.6 ล้านล้านวอน (ราว 1.59 แสนล้านบาท)
คิมซังฮี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลของเกาหลีใต้ แถลงตอบโต้ในวันเดียวกันว่า ในหมู่ผู้สร้างทราฟฟิกอินเทอร์เน็ต 10 อันดับแรกในเกาหลีใต้ มีถึง 78.5% ที่มาจากบริษัทคอนเทนต์ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 73.1% ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2020
โดยที่ “YouTube ของ Google และ Netflix เป็นผู้ครองสัดส่วนใหญ่ของการบริการคอนเทนต์นี้ และทั้งคู่ต่างทำทองไม่รู้ร้อนเมื่อถูกเรียกค่าธรรมเนียมการใช้ระบบ” คิมซังฮีกล่าว
ที่มา : Reuters
- 84
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
