8 ต.ค. 2021 เวลา 23:00 • ครอบครัว & เด็ก
📌เมื่อลูกเป็นเด็กหวงของ📌
คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่เจอพฤติกรรมของลูกชอบหวงของ หวงของเล่น หวงของกิน ไม่ยอมแบ่งใคร ไม่ให้ใครแตะต้อง ยังไงก็อย่ามองว่าเป็นเรื่องธรรมดาเดี๋ยวลูกโตมาแล้วพฤติกรรมเหล่านี้จะหายไปเอง เพราะถึงแม้ว่าอาการหวงของในเด็กจะเป็นเรื่องปกติที่เด็กส่วนใหญ่จะเป็นกันก็ตาม แต่ก็ไม่ควรละเลยในการที่จะหาวิธีการสอนปรับพฤติกรรมนี้ให้กับลูก
🔹อาการหวงของ
เป็นอาการของเด็กที่มีภาวะทางอารมณ์ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาการตามวัยที่มักเกิดขึ้นได้กับเด็กๆทุกคน พบได้บ่อยในเด็กอายุตั้งแต่ 2 - 5 ขวบ อาการของเด็กหวงของ เมื่อโดนแย่งสิ่งของที่เป็นของเขา มักมีอาการไม่พอใจ โมโห หงุดหงิด ร้องไห้ และถ้าเป็นอาการหวงของมากๆ อาจจะทวงของคืนอย่างรุนแรงถึงขั้นทุบตี หรือขว้างปาสิ่งของ อาการเหล่านี้หากปล่อยให้ติดตัวเด็กไปจนโต อาจจะทำให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ลำบาก หรือทำให้คนรอบข้างไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยก็เป็นได้
🔹สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นเด็กหวงของ
1) เด็กเล็กจะมีความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของทุกอย่าง จึงมีความหวงแหนในสิ่งที่เป็นของตัวเองเป็นอย่างมากเพราะเด็กจะรับรู้เฉพาะความรู้สึกต้องการของตัวเองเท่านั้น
2) สิ่งของนั้นอาจอยู่กับเด็กเป็นเวลานาน สร้างความมั่นใจและทำให้เด็กมีความเป็นอิสระทางความคิดในการที่จะเล่นได้อย่างเต็มที่ ทำให้เด็กรู้สึกว่าขาดสิ่งของนี้ไม่ได้
3) เด็กไม่ได้รับการฝึกสอนในเรื่องของการเคารพสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น การไม่รู้จักแบ่งปัน การไม่มีน้ำใจให้กับผู้อื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้จากการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ ที่สามารถช่วยให้อาการหวงของลดลงได้
 
🔹ลูกหวงของ พ่อแม่จะต้องสอนอย่างไร
1) คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างวินัยเชิงบวกให้กับลูก ไม่ควรดุหรือลงโทษลูก เพราะอาจจะทำให้ลูกรู้สึกติดลบต่อการแบ่งปัน ควรประนีประนอมแก่ลูกไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยให้เหตุผล การพูดจา อ่อนโยน ความใจเย็นที่ควรทำ ซึ่งเป็นผลดีกับตัวลูกในระยะยาว
2) ฝึกลูกให้เคารพการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น หากลูกอยากได้หรืออยากเล่นสิ่งของ ที่เป็นของคนอื่น ลูกก็จะต้องขออนุญาตจากเจ้าของสิ่งนั้นก่อน
3) เน้นย้ำสิ่งที่ลูกเป็นเจ้าของ พูดคุยกับลูกว่าสิ่งของอันไหนที่เป็นของลูก และสิ่งของอันไหนที่ไม่ใช่ของลูก สิ่งของที่เป็นของลูก ลูกมีสิทธิ์ที่จะหวง จะให้หรือไม่ให้ใครก็ได้ แต่สิ่งของอันไหนที่ไม่ใช่ของลูก ลูกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะหวงของสิ่่งนั้นได้
4) คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นในเรื่องการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กันและกัน สิ่งเหล่านี้เป็นแบบอย่างที่ดีที่ลูกจะจดจำแล้วนำไปเลียนแบบพฤติกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะติดตัวลูกไปจนโต
5) สอนให้ลูกคิดถึงใจเขา ใจเรา ในเวลาที่ลูกอยากได้สิ่งของจากเพื่อน แล้วเพื่อนไม่ให้ ลูกก็จะรู้สึกผิดหวังหรือเสียใจ เพราะฉะนั้นหากมีเพื่อนมาขอของเล่นจากลูก ลูกก็ควรจะแบ่งปันให้เพื่อน นอกจากจะได้แบ่งปันคนอื่นแล้ว ลูกก็จะได้เล่นสนุกขึ้นเพราะมีเพื่อนมาเล่นด้วย
6) อย่าลืม คำชม เมื่อลูกเริ่มต้นการแบ่งปัน เพราะจะทำให้เขาเกิดความภูมิใจในการกระทำของตัวเองด้วย คำชมเหล่านั้นจะกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกอยากแบ่งปันมากขึ้น
แม้ว่าพฤติกรรมที่ลูกแสดงออกจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้ความสำคัญ และค่อยๆ ฝึกสอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน การมีน้ำใจให้ผู้อื่น เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องพื้นฐานที่จะทำให้ลูกสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
📌ร่วมแบ่งปันข้อมูล แลกเปลี่ยนความรู้ เกี่ยวกับการดูแลเด็กออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้า แบบไม่ใช้ยา ได้ที่กลุ่ม>>https://bit.ly/3wk0l3M
👍หากชอบ ฝากกด Like กด Share บทความให้สักนิด
แต่หากชอบมากๆ กด Like และกดติดตามเพจเพิ่มเติมตามนี้ให้ด้วยนะ
#Neurobalanceasia #Neurofeedback #Biofeedback #Brain #healthwellness
โฆษณา